แต่ในเวลาเดียวกัน ในใจของทนายวุฒิก็นับถือเกรียงไกรไปด้วย
อันที่จริงทุกคนต่างรู้ว่าเกรียงไกรไม่ใช่คนดี ทำเรื่องเลวร้ายมามากมาย แต่ทุกๆคนดันจับจุดอ่อนของเขาไม่ได้
แค่อาศัยจุดนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้คนนับถือแล้ว
ต้องรู้นะว่า ถ้าคนเราทำเรื่องอะไร ก็มักจะทิ้งร่องรอยหรือเบาะแสไว้บ้าง แต่เกรียงไกรดันไม่ทิ้งอะไรไว้เลย
นี่พอจะแสดงให้รู้ว่า เกรียงไกรทำเรื่องได้ละเอียดรอบคอบขนาดไหน แผนการลุ่มลึกขนาดไหน ถึงทำให้ใครๆทำอะไรเขาไม่ได้เลย
ได้ฟังคำพูดนี้ของทนายวุฒิ มายมิ้นท์จึงสูดลมหายใจ “คิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าครอบครัวตระกูลคหบวรคนนี้ จะเป็นคนอย่างนี้ งั้นคราวนี้ราเม็งคงเจ็บตัวฟรีสินะ?”
ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าเกรียงไกรเป็นคนทำร้ายเขา
นั่นหมายความว่า ราเม็งก็คงหมดหนทางที่จะตอบโต้กลับไป
“ไม่แน่หรอก” ริมฝีปากบางๆของเปปเปอร์ยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมา
มายมิ้นท์มองเขา เขาจึงเอ่ยปากพูดต่อ: “อย่าลืมนะว่า เดิมทีราเม็งก็ไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวตนหลักของเขา หรือตัวตนรองของเขา ล้วนแต่เป็นเด็กผีทั้งนั้น เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมกล้ำกลืนความเจ็บปวดอยู่เงียบๆไม่ตอบโต้กลับไปแน่นอน ต่อให้ไม่มีหลักฐาน ก็ไม่ได้แสดงว่าเขาจะไม่แก้แค้นเกรียงไกร อันที่จริงเรื่องมากมายบนโลกนี้ ไม่ต้องใช้หลักฐานที่ละเอียดถี่ถ้วนในการดำเนินการหรอก”
โดนเขาพูดขนาดนี้ ในทันทีมายมิ้นท์จึงหมดหนทางที่จะตอบโต้
ก็จริงที่เรื่องมากมาย แค่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนทำ หลักฐานก็ไม่มีความจำเป็นอยู่แล้ว
เป็นความคิดของเธอเองที่อยู่ในกรอบเกินไป
“แต่ราเม็งจะจัดการเกรียงไกรยังไง ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราควรจะเป็นห่วง แต่เป็นรูปแบบการลงมือของเกรียงไกรต่างหาก นี่มันยิ่งทำให้ผมเชื่อมั่นเลยว่า เขาก็คือศัตรูของตระกูลนวบดินทร์เช่นกัน!” เปปเปอร์กำหมัดแน่นขึ้นมาทันที พูดขึ้นด้วยสีหน้าอึมครึม
มายมิ้นท์มองเขา “หมายความว่าไง?”
“สิบสองปีก่อน พ่อผมโดนคนฆ่าตายอยู่ที่โรงแรมในต่างประเทศ แต่กลับไม่เจอหลักฐานของฆาตกรแม้แต่นิดเดียว ด้วยเหตุนี้คดีนี้จึงค้างคามาจนถึงปัจจุบัน อุบัติเหตุรถชนหลายเดือนก่อนของผม ทุกคนต่างก็รู้ว่ามีคนจงใจชนผม แต่ท้ายที่สุดกลับยังคงไม่เจอเบาะแสของฆาตกรที่อยู่เบื้องหลัง ดังนั้นคดีความจึงต้องพักไว้ก่อนชั่วคราว”
เปปเปอร์สบตากับมายมิ้นท์ “สองคดีนี้ หาหลักฐาน หาเบาะแส หาฆาตกรไม่เจอทั้งคู่ จนกระทั่งตอนนี้ นอกจากเกรียงไกรแล้ว ใครจะยังสามารถจัดการเรื่องราวต่างๆได้อย่างสะอาดหมดจดไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้สักนิดได้อีกล่ะ?”
“จริงๆเลย!” มายมิ้นท์ตกตะลึง รีบพยักหน้า “รูปแบบการจัดการ เหมือนกันเป๊ะเลย บวกกับความแค้นของเกรียงไกรกับตระกูลของคุณอีก บางทีสิ่งที่คุณคิดอาจจะถูกจริงๆก็ได้”
เปปเปอร์กำหมัดแน่นมากขึ้นเล็กน้อย ข้อต่อส่งเสียงดังออกมา “ถ้าเป็นเขาจริงๆ ผมจะให้เขาต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”
ตอนที่พูดประโยคนี้ สีหน้าของเขาเย็นยะเยือกสุดๆ ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ รอบกายยิ่งแผ่กระจายบรรยากาศเหน็บหนาววังเวงที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวออกมา
สำหรับเขาแล้ว เกรียงไกรไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อของเขาอย่างเดียว แม้กระทั่งการตายของแม่เขา เกรียงไกรก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ถึงแม่จะฆ่าตัวตาย แต่แม่กลับฆ่าตัวตายเพราะเกรียงไกร
บอกได้ว่า บนร่างกายของเกรียงไกรแบกรับไว้ถึงสองชีวิต
เขาต้องการหนึ่งชีวิตของเกรียงไกร ถึงขั้นที่ต้องการให้เกรียงไกรได้ไปสบาย!
เห็นอารมณ์ที่ผิดปกติไปอย่างชัดเจนของเปปเปอร์ มายมิ้นท์จึงรีบจับมือเขาไว้ พูดปลอบโยน: “เปปเปอร์ คุณใจเย็นๆหน่อย ก่อนหน้านี้คุณยังเตือนฉันอยู่เลย อย่าให้ความแค้นส่งผลกระทบต่อความคิดที่มีเหตุผลของตัวเอง แล้วทำไมตอนนี้คุณถึงเป็นอย่างนี้ล่ะ?”
ได้ยินเสียงของหญิงสาว ดวงตาที่แดงก่ำของเปปเปอร์จึงค่อยๆกลับมาเป็นปกติ
เขาเห็นท่าทีกังวลตึงเครียดของมายมิ้นท์ ความรู้สึกผิดจึงทะลักเข้ามาในใจ น้ำเสียงแหบพร่าพูดขึ้น: “ขอโทษนะ ทำให้คุณตกใจซะแล้ว”
มายมิ้นท์ส่ายหน้า “ไม่หรอก ฉันไม่ได้ตกใจ ฉันแค่เป็นห่วงคุณ”
เปปเปอร์กอดเธอเอาไว้ “ผมไม่เป็นไร เมื่อกี้แค่อารมณ์ขึ้น ควบคุมเอาไว้ไม่อยู่น่ะ”
“ฉันรู้ ฉันถึงได้เป็นห่วงคุณไง” มายมิ้นท์ตบๆหลังของชายหนุ่มเบาๆ
หลังจากทั้งสองคนแสดงความห่วงใยต่อกันสักพัก รอจนกระทั่งเปปเปอร์ใจเย็นลงได้ มายมิ้นท์ถึงได้ปล่อยเขาออก แล้วมองทนายวุฒิที่โดนพวกเขาสาดความหวานใส่อีกยก “ใช่สิคะทนายวุฒิ ยังไม่ได้ถามคุณสักที เกรียงไกรกับพัดชาเป็นอะไรกันเหรอคะ? เกรียงไกรมาหาคุณ แล้วคุณก็เป็นทนายตัวแทนของพัดชา น่าจะรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสินะคะ?”
แค่พูดออกไปอย่างนี้ เปปเปอร์ก็หรี่ตาจ้องทนายวุฒิเขม็ง
เธอเก็บงำความสงสัยนี้ จนกระทั่งพวกเขาบอกลาทนายวุฒิ แล้วกลับมาที่รถ ตอนที่เหลือแค่พวกเขาสองคน ท้ายที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
แต่เปปเปอร์ไม่ได้ตอบในทันที กลับก้มหน้าลงเล็กน้อย ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เขาถึงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหม่นหมอง: “ผมกำลังรู้สึกเสียใจแทนแม่ของผม”
“เพราะคุณป้ารักเกรียงไกร แต่เกรียงไกรมีลูกนอกสมรส คุณถึงรู้สึกเสียใจแทนคุณป้างั้นเหรอ?” มายมิ้นท์เลิ่กคิ้ว
ถ้าเป็นอย่างที่พูด เธอกลับรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็น
แม่ของเปปเปอร์รักกับเกรียงไกร พวกเขาเป็นคนรักกัน แต่ท้ายที่สุดแม่ของเปปเปอร์ต้องแต่งงานกับพ่อของเปปเปอร์ ถึงได้เลิกรากับเกรียงไกร ทั้งยังให้กำเนิดเปปเปอร์ด้วย
งั้นเกรียงไกร ก็ไม่จำเป็นต้องรักแม่ของเปปเปอร์ต่อไปนี่นา
ถึงยังไง ตอนนั้นพวกเขาสองคนก็ไม่ได้คบกันแล้ว
ดังนั้น เปปเปอร์จึงไม่มีความจำเป็นต้องเป็นเดือดเป็นร้อนแทนแม่ของตนเองเพราะเกรียงไกรมีลูกนอกสมรส
ราวกับมองออกถึงความคิดในใจของมายมิ้นท์ เปปเปอร์มองเธอ หลังจากมองอยู่ชั่วครู่ ก็เม้มๆปาก จากนั้นจึงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย “จริงๆแล้วผมเก็บเงียบมาโดยตลอด ที่พ่อแม่ไม่ได้มีผมด้วยวิธีตามธรรมชาติ”
“หมายความว่าไง?” มายมิ้นท์ตะลึงงัน ตอบสนองกลับมาค่อนข้างช้า
มือทั้งคู่ของเปปเปอร์กำพวงมาลัยแน่น สีหน้าตึงเครียด “ผมเกิดมาจากการที่พ่อแม่ผมทำเด็กหลอดแก้ว”
“อะไรนะ?” มายมิ้นท์เสียงสูงขึ้นด้วยความตกใจ “หลอดแก้ว?”
ปฏิกิริยาของเธอ เป็นสิ่งที่เปปเปอร์คาดการณ์เอาไว้แล้ว
เปปเปอร์จอดรถเข้าข้างทาง ตอบอืมกลับมาลู่สายตาลงจนมองไม่ออกว่ารู้สึกอะไรอยู่ “เรื่องนี้ ผมรู้เข้าตอนที่กำลังจัดการกับสิ่งของของแม่อยู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...