รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 883

ในใจของมายมิ้นท์มีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี “ถึงยังไงอะไร?”

เปปเปอร์หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเขยิบเข้าไปใกล้ เอนเข้าไปที่ข้างหูเธอ กัดติ่งหูของเธอเล็กน้อย แล้วพูดเบาๆ: “ถึงยังไง นั่นก็เป็นสิ่งที่นำความสุขมาให้คุณ คุณตัดใจทำลายมันทิ้งไปไม่ได้หรอก ใช่ไหมล่ะ?”

เสียงตู้มดังขึ้น!

มายมิ้นท์แค่รู้สึกว่าในหัวของตนเองมีอะไรบางอย่างระเบิดออกมา หน้าแดงจนเลือดแทบจะหยดออกมาอยู่แล้ว

เธอเบิกตาโพลง มองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ยิ้มให้ตนเองอย่างมีเลศนัยด้วยสายตาที่ทั้งตกใจทั้งอับอาย อ้าๆปาก แต่สักพักถึงจะส่งเสียงออกมาได้ “คุณ......”

ฟังสิ เมื่อกี้เขากำลังพูดจาเลวร้ายอะไรพวกนั้นอยู่ใช่ไหม?

สิ่งที่นำความสุขมาให้เธอ เธอตัดใจทำลายมันทิ้งไปไม่ได้งั้นเหรอ?

หึ! เธอไม่ได้รู้สึก......ก็ได้ เรื่องอย่างนั้น เธอรู้สึกมีความสุขจริงๆ แต่เขาไม่ต้องพูดออกมาตรงๆก็ได้มั้ง

นี่เป็นเรื่องส่วนตัวนะ เขาไม่อายบ้างหรือไง?

อ้อไม่สิ เขาพูดออกมาแล้ว คงไม่อายอยู่แล้วแหละ!

พูดสั้นๆเลย คำพูดเมื่อกี้ของเขา เทียบกับคำพูดลามกในเวลาปกติของเขาแล้ว มันปั่นป่วนกว่าเยอะเลย

คิดๆแล้ว มายมิ้นท์จึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ระงับความเดือดดาลในใจเอาไว้ ถลึงตาใส่ฝ่ายชายอย่างไม่พอใจ “เปปเปอร์ คุณรีบๆหุบปากไปเลยนะ อย่ามาพูดเรื่องพวกนี้อีก”

เธอปิดหน้าที่ร้อนผ่าวเอาไว้ ในใจรู้ดี ตอนนี้ใบหน้าของตนเอง คงแดงจนดูไม่ได้แล้วแน่ๆ

เปปเปอร์เห็นท่าทีขุ่นเคืองของมายมิ้นท์ จึงหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง

เสียงหัวเราะของเขาแทบจะเป็นเสียงที่อดกลั้นอยู่ในช่องอกแล้วเปล่งออกมา ทั้งยั่วยวน ทั้งเซ็กซี่ขนาดนั้น “ก็ได้ ผมไม่พูดแล้ว ผมแค่อยากให้คุณรู้ คำบางคำไม่ควรพูดมั่วๆ บางความคิดไม่ควรคิดตามอำเภอใจ เข้าใจไหม?”

มายมิ้นท์หันหน้าไปอีกด้าน ไม่มองเขา

เธอกลัวตนเองสบตาเขาแล้ว ความร้อนผ่าวบนใบหน้าจะยิ่งเย็นลงไม่ได้

“แค่คุณไม่ทำอะไรผิดต่อฉัน ฉันก็จะไม่พูดมั่วๆไม่คิดอะไรตามอำเภอใจแน่นอน” มายมิ้นท์ฮึดฮัด “แต่ถ้าคุณทรยศฉันจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่เรายังคบกันอยู่แต่กลับทรยศฉัน งั้นฉันอาจจะทำเหมือนอย่างที่พูดจริงๆก็ได้ ตัดของรักของหวงของคุณทิ้งไปเลย”

เธอทำมือเป็นกรรไกรที่เปิดง้างออกแล้วปิดลงมา

แต่ทว่าครั้งนี้ การแสดงท่าทีของเธอมองไปอีกทางหนึ่ง ไม่ได้มองมาที่เปปเปอร์

เธอกลัวว่าถ้าตนเองทำท่าทางอย่างนี้มองไปทางเขา จะเป็นการยั่วโมโหเขาเข้า แล้วเธอก็จะโดนทำโทษอยู่ในรถ ณ สถานที่เกิดเหตุนี้เลย

เปปเปอร์ยื่นมือออกไป ลูบไปตามเส้นผมของมายมิ้นท์ “วางใจเถอะ ไม่มีวันนั้นหรอก ของรักของหวงของผม จะอยู่เป็นเพื่อนคุณตลอดไป”

เขาเป่าลมร้อนไปที่ข้างหูของเธอ

“หน้าไม่อาย” มายมิ้นท์แสร้งทำเป็นโมโหใส่เขา เดิมทีทั่วทั้งร่างกายก็ทั้งอับอายทั้งหงุดหงิดกับคำพูดของเขาอยู่แล้ว นี่เขายังจะมาเป่าลมยั่วโมโหเธออย่างนี้อีก ทำให้เธอจั๊กจี้ที่คอ จนอดไม่ได้ที่จะหดๆคอ หลุดหัวเราะออกมา

เปปเปอร์เห็นเธอหลบไปด้วยหัวเราะไปด้วย สายตามีเลศนัย ราวกับพบของเล่นใหม่อะไรอย่างนั้น จึงเขยิบเข้าไปใกล้แล้วเป่าลมร้อนๆต่อ บางครั้งยังจูบลงไปที่ต้นคอของเธอเบาๆด้วย หรือไม่ก็กัดสักที

เห็นต้นคอของเธอโดนตนเองสร้างรอยจูบอันใหม่ เปปเปอร์จึงยิ้มออกมา อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด

แต่นี่มันยังไม่พอ เพิ่งมีแค่รอยเดียวเอง จำนวนน้อยเกินไป ทำให้เขาไม่พอใจ

บนผิวขาวผ่องของเธอ ยังมีผิวขาวโล่งๆอยู่อีกกว้างขวางขนาดนั้น แค่รอยจูบอันเดียว มันคงจืดชืดเกินไปหน่อย ถ้ามีรอยอยู่เต็มไปหมด ภาพนั้นคงมีเสน่ห์น่ามองขึ้นอีกหน่อยใช่ไหมล่ะ?

คิดๆแล้ว เปปเปอร์จึงหรี่ตา ยื่นมือลงไปใต้เบาะของมายมิ้นท์ แล้วกดปุ่มๆหนึ่ง

ในทันที จู่ๆมายมิ้นท์ก็รู้สึกว่าเบาะใต้ร่างกายของตนเองกำลังเอนลง แม้กระทั่งร่างกายของเธอ ก็เอนตามลงไปด้วย สภาวะไร้น้ำหนักที่เข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้เธอตกใจ จนร้องออกมาโดยสัญชาตญาณ

เปปเปอร์จึงปิดปากของเธอเบาๆ พูดขึ้นเสียงแหบพร่า: “ไม่ต้องกลัว ผมเป็นคนเอนเบาะลงมา ไม่มีอะไรหรอก นอนลงไปอย่างสบายใจก็พอ”

ได้ฟังคำพูดของเขา มายมิ้นท์จึงคลายกังวล ใจที่ตื่นตระหนก ก็ค่อยๆกลับมาเป็นปกติ ร่างกายก็ผ่อนคลายลงเช่นกัน ไม่ได้เกร็งตัวเอาไว้แล้ว พิงลงไปบนเบาะที่กำลังเอนลงไปอย่างสบายใจ

เปปเปอร์จึงถือโอกาสทิ้งน้ำหนักครึ่งนึงลงมาบนร่างของมายมิ้นท์ มือใหญ่ๆลูบใบหน้ากับผมของเธอเบาๆ ดวงตาดำขลับ แต่ทว่าในจุดที่ลึกที่สุด กลับมีประกายไฟโผล่ออกมาอยู่ท่ามกลางความมืดมิดลางๆ

เห็นเปปเปอร์เป็นอย่างนี้ ในใจของมายมิ้นท์จึงมีเสียงกริ่งเตือนขึ้นอย่างฉับพลัน

ถึงยังไงหลังคารถก็แข็งขนาดนั้น ถ้าหัวกระแทกเข้าไป ใครจะรู้ว่าจะเกิดเรื่องหรือเปล่า

ไม่งั้น เธอคงไม่กังวลมากมายขนาดนี้ คงผลักเขาออกแล้วลงไปจากรถทันที

แต่เปปเปอร์ไม่ได้ฟังที่มายมิ้นท์บอกให้ลงไปจากตัวเธอเลย ในทางตรงกันข้ามกลับก้มหัวลงมา ยันไว้ที่หน้าผากของเธอ ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆ “วางใจเถอะ ที่ลานจอดรถไม่มีคนหรอก”

มายมิ้นท์แทบจะสำลักน้ำลายตัวเองแล้ว “ตอนนี้ไม่มีคนไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีคนนะ ดังนั้นเปปเปอร์ คุณรีบลงไปเลย อย่ามาทำอะไรซี้ซั้ว ถ้าอีกเดี๋ยวมีคนผ่านมาเห็น คงไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว คุณกับฉันคงกลายเป็นเรื่องตลกของคนทั้งโลกแน่ๆ”

ยังไม่ต้องพูดถึงที่เขาสองคนเป็นบุคคลสาธารณะ ต่อให้ไม่เป็นบุคคลสาธารณะ แค่เป็นคนธรรมดาสองคน ที่มีอะไรกันในที่สาธารณะ หลังจากโดนคนเห็นเข้า ก็ต้องเป็นข่าวแน่ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาสองคนเลย

เธอกล้ารับรอง แค่มีคนเห็นเขาสองคนทำอะไรอยู่ที่นี่ หัวข้อข่าวพรุ่งนี้ก็ต้องเป็นพวกเขาแน่นอน

ถึงเวลานั้น พวกเขาสองคนไม่เพียงแต่ขายหน้าของตนเอง แต่ยังอับอายไปถึงชื่อเสียงของบริษัทตระกูลนวบดินทร์กับเทนเดอร์กรุ๊ป รวมไปถึงเพื่อนๆของพวกเขาที่อยู่ด้านหลังด้วย

แค่นึกๆถึงสถานการณ์อย่างนั้น มายมิ้นท์ก็รู้สึกขนหัวลุกแล้ว

แต่ทว่าเทียบกับความหวาดหวั่นของมายมิ้นท์แล้ว เปปเปอร์กลับสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด ราวกับไม่กังวลกับผลที่จะตามมาเลยสักนิด

เขาก้มลงไปจูบที่มุมปากของมายมิ้นท์ ปลอบใจเธอ “ไม่ต้องกลัว ไม่มีเรื่องอะไรหรอก กระจกรถเห็นได้ด้านเดียว คนข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็น ดังนั้นสิ่งที่คุณกังวลทั้งหมด จะไม่เกิดขึ้นทั้งนั้น เชื่อผม”

พูดจบ ริมฝีปากของเขาก็เคลื่อนจากมุมปากของเธอ ไปจับกุมริมฝีปากของเธอไว้ทันที

มายมิ้นท์เบิกตาโพลง

เฮ้ย ไม่นึกว่าตาบ้านี่จะเอาจริง!

เธอพูดไปหมดแล้วนะ ที่นี่เป็นสถานที่สาธารณะ เป็นลานจอดรถ มีคนผ่านไปผ่านมาตลอดเวลา จะโดนคนอื่นเห็นเข้าได้

แต่ทว่า ไม่คิดว่าเขาจะไม่เก็บมาใส่ใจสักนิด ต้องทำอย่างนั้นกับเธอให้ได้

เธอควรบอกว่า ผู้ชายคนนี้คิดว่าจะไม่มีคนเห็นจริงๆ หรือต่อให้มีคนเห็น ก็ไม่แคร์ดีนะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว