รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 888

“ประธานเปปเปอร์ ยังมีเรื่องอะไรจะสั่งอีกไหมครับ” พอเก็บคำพร่ำบ่นในใจไป ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ถามขึ้นมาอีกประโยค

เปปเปอร์หรี่ตาลงครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง “วันนี้ได้รับสายโทรเข้าแปลก ๆ ไหม? หรือว่าเจอคนแปลก ๆ หรือเปล่า?”

สายโทรเข้าแปลก ๆ หรือคนแปลก ๆ เหรอ?

ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหน้าด้วยความงุนงงเต็มหัว “ไม่มีนี่ครับ ประธานเปปเปอร์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”

“ทนายของพัดชาคืออดีตหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของบริษัท” เปปเปอร์พูดขึ้น

ผู้ช่วยเหมันตร์ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วก็นึกถึงใบหน้าเหยี่ยวย่นนั่นขึ้นมา “คุณหมายถึง ทนายวุฒิเหรอครับ?”

“อืม” เปปเปอร์เชิดคางขึ้นมาเล็กน้อย “เขาเป็นคนที่เกรียงไกรหามาให้พัดชา เพราะเห็นว่าเคยมีความสัมพันธ์กับฉัน อยากจะลองมาเข้าหาฉันดู เพื่อจะให้ฉันปล่อยตัวพัดชาไป แต่ว่าเจรจาไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นเกรียงไกรอาจจะโทรหานาย แล้วอยากจะมาลองดูเชิงของฉันจากนาย หรือว่าให้คนอื่นมาลองดูเชิงที่บริษัท”

สรุปก็คือ ยังไงเกรียงไกรก็ไม่มีทางติดต่อเขามาง่าย ๆ

เพราะว่า เขาเป็นลูกชายของปิยศักดิ์นะ

ใครจะไปติดต่อกับลูกชายของศัตรูกัน?

“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าขึ้นมา “วางใจเถอะครับประธานเปปเปอร์ วันนี้ไม่มีเบอร์แปลก ๆ โทรหาผมเลยครับ แล้วก็ไม่ได้เจอคนแปลก ๆ อะไรด้วยครับ”

เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย “งั้นก็ดี”

“อ๋อ ใช่แล้วครับประธานเปปเปอร์” พอนึกอะไรขึ้นมาได้ ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ดันแว่นเล็กน้อยแล้วถามขึ้นว่า “ตกลงเกรียงไกรกับพัดชานี่มีความสัมพันธ์อะไรกันเหรอครับ? ทำไมเขาต้องทำเพื่อพัดชามากขนาดนี้ด้วย หรือว่าจะเป็นอย่างที่พวกเราเคยเดากันเอาไว้ว่า สองคนนี้เป็นพ่อลูกกันจริง ๆ เหรอครับ?”

เปปเปอร์มีสีหน้าเคร่งขรึมและไม่ได้ตอบอะไร

จากความเงียบขรึมของเขา ผู้ช่วยเหมันตร์ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง แล้วก็ตาโตขึ้นมา “ไม่ใช่มั้ง เป็นพ่อลูกกันจริง ๆ เหรอ?”

เปปเปอร์ทำเสียงเหอะออกมาคำหนึ่งอย่างเยาะเย้ย “ก็แค่ลูกนอกสมรสเท่านั้น”

ซื๊ด……

ผู้ช่วยเหมันตร์กลับสูดลมเย็น ๆ เข้าไปคำหนึ่ง “ลูกนอกสมรส……ถ้าผมจำไม่ผิดละก็ ปีนี้พัดชาอายุยี่สิบเจ็ดแล้วใช่ไหมครับ งั้นก็หมายความว่า……”

ผู้ช่วยเหมันตร์ยังคงเบิกตากว้างขึ้นเรื่อย ๆ คำพูดที่เหลือ เขาก็ไม่ได้พูดต่อไปอีก ในใจก็ได้รู้สึกเสียใจแทนแม่ของเปปเปอร์

เขาก็หนึ่งในผู้คนที่รู้เรื่องในอดีตของคุณผู้หญิง

ดังนั้น พอตอนนี้มารู้เรื่องว่า เกรียงไกรได้มีลูกนอกสมรสคนหนึ่งออกมาตั้งแต่ปีที่สามที่คุณผู้หญิงแต่งงานไป ในใจจะไปรู้สึกสงบนิ่งได้ยังไงกัน

ที่คุยกันไว้ว่าจะรอคุณผู้หญิง จะไม่มีทางไปหาผู้หญิงอื่นล่ะ?

แต่ผลปรากฏว่า ไม่เพียงแค่ไปหาเท่านั้น แม้แต่ลูกนอกสมรสก็ยังมีออกมาคนหนึ่งแล้วด้วย

เสียดายที่พวกคนในแวดวงในเมืองปักษายังชื่นชมเกรียงไกรว่าเป็นผู้ชายที่ดี ในใจยังคิดถึงคุณผู้หญิงอยู่ตลอด ไม่ยอมแต่งงานกับใครเพื่อคุณผู้หญิง และยังเฝ้ารอคุณผู้หญิงเรื่อยมา

แต่ความจริงแล้ว ลับหลังก็ยังสมควรเล่นยังไงก็ยังเล่นอยู่อย่างงั้น ไม่ยอมให้ตัวเองเสียเปรียบเลยสักนิด

คุณผู้หญิงมาตกหลุมรักกับผู้ชายแบบนี้ นี่มันตาบอดไปแล้วจริง ๆ

พอคิดมาถึงตรงนี้ ในใจผู้ช่วยเหมันตร์ก็พร่ำบ่นเกรียงไกรซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่บนใบหน้ากลับถามขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า “ประธานเปปเปอร์ คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”

ขนาดเขาพอได้ยินว่าพัดชาเป็นลูกนอกสมรสของเกรียงไกรก็ยังรู้สึกโกรธมากขนาดนี้

ไม่ต้องบอกก็รู้ ประธานเปปเปอร์ที่อยู่ในฐานะลูกชายของคุณผู้หญิง คงจะต้องโมโหมากกว่าแน่ ๆ

ตอนนี้หัวใจของประธานเปปเปอร์อ่อนแอลงทุกวัน จะต้องห้ามโมโหมากเกินไป ห้ามอารมณ์ร้อนมากเกินไป

เพราะฉะนั้น เขาจึงเป็นห่วงร่างกายประธานเปปเปอร์เป็นอย่างมาก

“ไม่เป็นไร” เปปเปอร์หรี่ตาลง ในดวงตาเต็มไปด้วยพายุฝนกระหน่ำ “มีการคาดเดากันมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นพอมารู้เรื่องเข้า ก็มีการเตรียมใจมาก่อนแล้ว จึงไม่ได้โกรธจนถึงขั้นอยากจะฆ่าคนหรอก และยิ่งไปกว่านั้นก็มีสะระแหน่คอยอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย ฉันก็เลยสบายดี”

ใบหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์ไม่มีปฏิกิริยาอะไร ในใจกลับทำเสียงเหอะ ๆ ออกมาสองคำ

ว่าแล้ว ยังไงเขาก็หลีกหนีเรื่องการเจอความหวานไปไม่ได้อยู่ดี?

เขาคิดไม่ตกจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นห่วงประธานเปปเปอร์

แล้วทำไมประธานเปปเปอร์ยังจะต้องให้เขามาเจอความหวานเลื่อนอีก!

นี่มันตอบแทนพระคุณด้วยการแก้แค้นชัด ๆ

การพูดคุยนี้คุยต่อไปไม่ไหวแล้ว วางสายไปเถอะ!

เห็นได้ชัดว่า ที่อยู่ของเบอร์โทรศัพท์นี้ โดนอีกฝ่ายปกปิดเอาไว้แล้ว

แต่ว่ามายมิ้นท์ก็ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกตรงไหน เพราะว่าเบอร์แปลก ๆ ที่ปกปิดที่อยู่แบบนี้ วัน ๆ หนึ่ง เธอจะต้องได้รับหลายสาย ถ้าไม่ใช่พวกขายตรงก็เป็นลูกค้า

ดังนั้นท่าทีของมายมิ้นท์จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด ยังคงถามต่อไปอย่างมีมารยาท “สวัสดีค่ะ ได้ยินไหมคะ?”

ทางปลายสายยังคงไม่มีการตอบสนอง

ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังคุยโทรศัพท์อยู่จริง ๆ มายมิ้นท์ก็จะนึกว่าคนในปลายสายฝั่งโน้นได้กดวางสายไปตั้งนานแล้ว

พออีกฝ่ายไม่พูดอะไร มายมิ้นท์ก็ไม่ได้บังคับ หลังจากที่ปิดปากหาวไปทีหนึ่งแล้ว ก็พอจะมีสติขึ้นมาบ้าง ความง่วงงุนก็หายไปบ้างเล็กน้อย ในขณะเดียวกันก็พยายามทำให้ความง่วงงุนในน้ำเสียงตัวเองลดลงไปเยอะมาก “สวัสดีค่ะ ถ้าเกิดว่าคุณไม่มีอะไรจะพูดละก็ งั้นฉันขอวางสายก่อนนะคะ ถ้าเกิดว่าคุณเป็นลูกค้าที่อยากจะมาคุยงานกับเทนเดอร์กรุ๊ป พอคุณเรียบเรียงคำพูดเสร็จแล้ว ก็สามารถโทรมาได้อีกนะคะ ฉันเปิดเครื่องไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงค่ะ ลาก่อนนะคะ”

พอพูดอย่างมีมารยาทไปชุดหนึ่ง มายมิ้นท์ก็เอาโทรศัพท์ออกไป แล้วก็วางสายไป จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมาใหม่แล้วกะพริบตาเล็กน้อย แล้วถึงจะคุ้นชินกับการมองโทรศัพท์ในที่มืดสนิท

พอมองเห็นเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอนั้น เธอก็อึ้งไปก่อนเล็กน้อย จากนั้นวินาทีต่อมาก็เบิกตากว้างขึ้น แล้วก็ลุกขึ้นมานั่งจากเตียงทันที “โอ้สวรรค์ ตอนค่ำหนึ่งทุ่มแล้วเหรอ?”

เธอลูบผมเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่หน้าต่างบานใหญ่ ผ้าม่านหน้าต่างถูกดึงมาปิดไว้ เธอมองไม่เห็นสถานการณ์ด้านนอก แต่ว่าตรงส่วนปลายผ้าม่านกลับมีแสงไฟที่ส่องเข้ามาจากข้างนอก จึงทำให้เธอเข้าใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้มองผิดไป เวลาบนหน้าจอโทรศัพท์นั้นไม่ได้มีปัญหา ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตอนค่ำแล้วจริง ๆ

ฤดูหนาวมันมืดเร็วตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หกโมงเย็นก็เริ่มมืดแล้ว และตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว ด้านนอกก็ได้มืดไปหมดแล้ว และแน่นอนว่าไฟนีออนด้านนอกก็ต้องสว่างขึ้นมาหมดแล้ว

ดังนั้น แสงไฟที่เธอมองเห็น ก็ต้องเป็นแสงจากไฟนีออนด้านนอก

มายมิ้นท์กุมหน้าผากขึ้นมาอย่างกลุ้มใจ

เธอคิดไปถึงจริง ๆ นี่ตัวเองได้นอนหลับมาจนถึงฟ้ามือเลยเหรอ

แน่นอนว่า เธอรู้ว่าตัวเองนอนหลับไปเมื่อกลางวันได้ยังไง ก็เหนื่อยจนหลับไปไงล่ะ

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะนอนหลับไปนานขนาดนี้ นอนจนถึงตอนค่ำเลย

ตอนแรกเธอยังคิดไว้แค่ว่าจะนอนครู่เดียวเท่านั้น แล้วตอนบ่ายยังจะไปเทนเดอร์กรุ๊ปอีกเที่ยวด้วย

แต่ปรากฏว่า……

พังหมดเลย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว