พอรับอาหารเช้ามาแล้ว มายมิ้นท์บอกขอบคุณพนักงานเรียบร้อยแล้ว ก็ปิดประตูลง แล้วกลับเข้ามาในบ้าน
อาหารเช้ายังคงหลากหลายเช่นเดิม ยังคงเป็นของที่เธอชอบกิน
เปปเปอร์จดจำความชื่นชอบของเธอไว้ได้ชัดเจนหมดแล้ว
มายมิ้นท์กินอาหารเช้าไปด้วย แล้วก็คิดไปด้วย
เพียงแต่อาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีเขาอยู่ข้างกาย อาหารเช้ามื้อนี้ถึงจะเลิศรสมากแค่ไหน แต่พอเธอกินเข้าไปในปาก ยังไงก็ยังรู้สึกขาดอะไรไปบ้าง
มายมิ้นท์นวดหัวคิ้วเล็กน้อย แล้วถอนหายใจไปทีหนึ่ง
นี่เพิ่งจะผ่านมานานแค่ไหน พอไม่มีเขากินข้าวเป็นเพื่อนเธอด้วย เธอก็เริ่มคิดถึง และเริ่มรู้สึกอาหารไม่อร่อยแล้ว
นี่ถ้าอยู่ด้วยกันนานกว่านี้อีกหน่อย ก็คงจะกินข้าวไม่ลงแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?
ไม่ ไม่ ไม่
มายมิ้นท์รีบส่ายหน้าขึ้นมาทันที
แบบนี้ไม่ได้นะ!
เธอตบหน้าตัวเองเล็กน้อย
การคิดถึงกันนั้นสามารถมีได้ แต่ว่าต้องไม่โดนอีกฝ่ายจูงจมูกเดิน เพราะว่าคิดถึงเด็ดขาด
ไม่งั้น ถ้าเกิดว่าความรักแตกหักกันขึ้นมา เธอก็จะต้องกลายเป็นคนที่แพ้จนลุกไม่ขึ้นแน่
เธอจะต้องไม่มีทางเป็นเพราะว่าเปปเปอร์ไม่อยู่ แล้วก็คิดถึงเขา คิดถึงจนกินอาหารไม่รู้รสชาติ ทำอะไรก็ไม่มีความกระปรี้กระเปร่า จนทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้เลยพอไม่มีเขาอยู่ข้างกายด้วย
เธอควรจะมีสติมากกว่านี้
ความรักที่แท้จริง เวลาอยู่ที่คบหากัน ควรจะคบหากันดี ๆ รักอีกฝ่ายให้ดี ๆ
ถ้าเกิดว่าต้องแยกจากกันชั่วคราว ต่างคนต่างไปทำงานของตัวเอง ก็ควรจะตั้งใจทำงานของตัวเองให้ดี ต้องมีสมองที่ตื่นตัวและมีสติอยู่ตลอดเวลา จะต้องไม่เพราะว่าอีกฝ่ายไม่อยู่ ก็คิดถึงอีกฝ่ายคิดถึงจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย
เพราะฉะนั้น เธออย่าคิดถึงเปปเปอร์อีกเลย ไว้เจอกันตอนกลางค่ำค่อยอยู่ด้วยกันดี ๆ ก็พอแล้ว ตอนกลางวันเขาไม่อยู่ เธอก็ยิ่งสมควรไปใส่ใจหน้าที่การงาน
ในเมื่อความรักนั้นสำคัญมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็ยังเป็นหน้าที่การงานอยู่ดี
ถ้าเกิดไม่มีความรักแล้ว อย่างน้อยตัวเองก็ยังมีหน้าที่การงาน ถ้าเกิดเห็นว่าการงานสำคัญน้อยกว่าความรัก ถ้าเกิดว่าพ่ายแพ้ไป ก็จะไม่เหลืออะไรแล้วจริง ๆ
คิดไป มายมิ้นท์ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง แล้วก็เอาเรื่องของเปปเปอร์ออกไปจากสมองชั่วคราว แล้วก็ตั้งใจกินข้าวไป
พอกินข้าวเสร็จแล้ว เธอก็จัดการตัวเองไปแบบเรียบง่ายไปเล็กน้อย แล้วก็หิ้วกระเป๋าออกจากบ้านไป
แต่ว่าตอนที่มายมิ้นท์เพิ่งจะเดินออกจากตึกคอนโดนั้น อยู่ ๆ ผู้ชายที่สวยใส่ชุดสูทสีดำทั้งตัวคนหนึ่งก็โผล่ออกมา ขวางอยู่ตรงหน้าเธอ
“คุณมายมิ้นท์ กรุณารอสักครู่ครับ”
มายมิ้นท์จ้องมองคนที่มาขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วก็ค่อย ๆ ขมวดคิ้วที่เรียวงามขึ้นเล็กน้อย “คุณเป็นใครคะ?”
คนคนนี้หน้าตาธรรมดา สวมใส่ชุดสูทและใส่แว่นตาไว้ บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มตามมารยาทแฝงอยู่เสี้ยวหนึ่ง บุคลิกโดยรวมนั้นเหมือนกับผู้ช่วยเหมันตร์เป็นอย่างมาก
ดูท่าน่าจะเป็นผู้ช่วยของบุคคลใหญ่โตบางคนแน่นอน
“สวัสดีครับ คุณมายมิ้นท์ กรุณาอนุญาตให้ผมแนะนำตัวหน่อยนะครับ” ชายหนุ่มดันแว่นที่อยู่บนสันจมูกเล็กน้อย แล้วยิ้มและพูดขึ้นมา “ผมทัตครับ ที่ผมมาที่นี่ หลัก ๆ ก็เพราะว่าเจ้านายผมสั่งมา เจ้านายผมอยากเจอคุณมายมิ้นท์ครับ”
“เจ้านายคุณ?” หัวคิ้วของมายมิ้นท์ขมวดกันลึกมากยิ่งขึ้น “เจ้านายคุณเป็นใครคะ? ทำไมถึงต้องอยากเจอฉันด้วย?”
ผู้ช่วยทัตยังคงมีรอยยิ้มไม่เปลี่ยน “เจ้านายผมนามสกุลตระกูลคหบวร คิดว่าคุณมายมิ้นท์คงจะพอเดาออกได้ใช่ไหมครับ?”
นามสกุลตระกูลคหบวรเหรอ?
ม่านตาของมายมิ้นท์หดตัวขึ้นทีหนึ่ง ในสมองปรากฏชื่อคนคนหนึ่งออกมาทันที
เกรียงไกร!
มายมิ้นท์เบิกตากว้าง จ้องมองไปที่ผู้ช่วยทัตตรงหน้าอย่างตกตะลึง
พอผู้ช่วยทัตเห็นท่าทีของมายมิ้นท์ บนใบหน้าก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด เพียงแต่ว่ารอยยิ้มยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นมา “ดูท่าคุณมายมิ้นท์จะเดาออกแล้ว ใช่ครับ เจ้านายของผมก็คือนายใหญ่ของตระกูลคหบวรแห่งเมืองปักษา คุณเกรียงไกรนั่นเอง คุณมายมิ้นท์ เชิญครับ เจ้านายของผมรออยู่ด้านนอกเขตชุมชนของคุณ”
แต่มาลองคิดดูแล้วก็ใช่ เกรียงไกรอยู่ที่เมืองปักษา ก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงย่ำแย่มากคนหนึ่ง คนที่อยู่ในฐานะผู้ช่วยของเขา จะไปเป็นคนดีคนหนึ่งได้ยังไง
ในเมื่อมีเจ้านายแบบไหน ก็ต้องมีหมาแบบนั้น
คิดแล้ว มายมิ้นท์ก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง พยายามข่มความไม่สบายใจในใจลง แล้วพูดด้วยใบหน้าไร้ปฏิกิริยาว่า “ช่างน่าขำจริง ๆ”
รอยยิ้มบนใบหน้าผู้ช่วยทัตเลือนหายไปหมดแล้ว น้ำเสียงก็ยิ่งเย็นชามากยิ่งขึ้น “คุณมายมิ้นท์ ที่คุณพูดมา หมายถึงอะไรครับที่น่าขำ?”
“แน่นอนว่าคือคุณกับเจ้านายคุณนะซิ” มายมิ้นท์ขยับเรียวปากขึ้นเล็กน้อย “ที่เจ้านายคุณมาที่เมืองเดอะซีในครั้งนี้ เป็นเพราะเรื่องของพัดชาเหรอคะ?”
ผู้ช่วยทัตไม่พูดอะไรตรง ๆ
มายมิ้นท์พูดขึ้นอีกว่า “พวกคุณอยากช่วยพัดชาออกมา แล้วไม่มีทางใช้เส้นสายกับทางรัฐในเมืองเดอะซีได้ เพราะว่าคนที่เป็นใหญ่ที่สุดในรัฐของเมืองเดอะซีในตอนนี้คือตระกูลชุติเกษม แล้วตระกูลชุติเกษมก็เป็นมิตรกับตระกูลนวบดินทร์ แน่นอนว่าไม่มีทางไว้หน้าเขาแล้วปล่อยตัวพัดชาไปแน่ ดังนั้นพวกคุณจึงต้องเข้าทางฉันกับเปปเปอร์ ขอแค่ฉันกับเปปเปอร์ยอมเซ็นหนังสือรับทราบ แล้วตกลงกันส่วนตัวได้ พัดชาก็จะถูกปล่อยตัวออกมาได้ แต่ว่าเจ้านายของคุณมีความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนกับเปปเปอร์ เจ้านายของคุณก็เลยไปหาเปปเปอร์ทันทีไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็เลยต้องมาหาฉัน แต่ว่านะ”
“แต่ว่าอะไรครับ? คุณมายมิ้นท์ยบอกมาตรง ๆ ดีกว่า!” สีหน้าของผู้ช่วยทัตยิ่งอยู่ก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้น
มายมิ้นท์เม้มปากเล็กน้อย “พวกคุณมาหาฉัน ก็ต้องมีเรื่องของให้ฉันช่วย แต่ว่าพวกคุณกลับไม่มีท่าทีที่จะขอร้องคนเลยสักนิด แต่กลับมีท่าทีอย่างกับผู้สูงส่ง มันช่างทำให้ฉันไม่สบอารมณ์จริง ๆ และที่สำคัญพวกคุณเป็นฝ่ายมาขอร้องฉัน ไม่ควรเป็นเจ้านายคุณเป็นฝ่ายมาพบฉัน ทำไมต้องให้ฉันเป็นฝ่ายไปพบเจ้านายคุณด้วยล่ะ? แม้แต่ลำดับความสำคัญพวกคุณก็ยังแบ่งแยกไม่ออก ดังนั้นฉันไม่มีทางไปพบเจ้านายคุณแน่ คุณกลับไปเถอะ เอาความตั้งใจของฉันไปบอกกับเจ้านายคุณให้เข้าใจด้วย”
ผู้ช่วยทัตคิดไม่ถึงว่ามายมิ้นท์จะไม่ยอมไปพบเจ้านายตัวเอง ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าก็ดูแย่ถึงขีดสุดเลย
เขาคิดมาตลอดว่า ภารกิจที่ตัวเองจะพามายมิ้นท์ไปพบกับเจ้านายนั้นง่ายดายมาก ในเมื่อก็เป็นแค่ผู้หญิงที่พึ่งพาเปปเปอร์อย่างกับวัชพืชกาฝากต้นฝอยทองคนหนึ่งเท่านั้น จะไม่มีความสามารถอะไรมากมายกัน?
ต้องไม่กล้าปฏิเสธแน่นอน
แต่คิดไม่ถึง ว่าเขาจะคิดผิดไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่วัชพืชกาฝากต้นฝอยทองแน่ ๆ ยิ่งไม่ใช่วัชพืชกาฝากต้นฝอยทองที่พึ่งแต่ผู้ชายแน่
วัชพืชกาฝากต้นฝอยทองคนหนึ่ง จะต้องไม่มีทางความกล้าและเรี่ยวแรงแบบนี้มาปฏิเสธเขาแน่นอน
เพราะว่าเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังเขานั้น เป็นถึงนายใหญ่ของตระกูลคหบวรเลยนะ
แต่ว่าผู้หญิงคนนี้นอกจากตอนแรกที่ได้ยินว่าเจ้านายของเขาคือนายใหญ่แห่งตระกูลคหบวรแล้วตกตะลึงขึ้นมาหน่อยแล้ว นอกเหนือจากนั้นก็เรียบเฉยมาตลอด แล้วก็ยังไม่เห็นเจ้านายของเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด ไม่ว่าเธอจะมีความกล้าก็ดี หรือว่าไม่รู้เรื่องก็ดี
แค่ด้วยจุดนี้ เขาก็ชัดเจนดีแล้ว ว่าเขาไม่มีทางพาตัวเธอไปได้ง่ายขนาดนั้นแน่
ชั่วขณะหนึ่ง ผู้ช่วยทัตรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างกับถูกมายมิ้นท์ฉีกหน้า สายตาที่จ้องมองไปที่มายมิ้นท์ ก็แฝงไปด้วยความเย็นชาและโหดเหี้ยมเสี้ยวหนึ่ง “คุณมายมิ้นท์จะไม่ไปจริง ๆ เหรอครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...