รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 892

พอคิดถึงว่าตอนที่เปปเปอร์ไปพบพ่อแม่นั้น อาจจะมีท่าทางประหม่าและตื่นเต้นออกมา มายมิ้นท์ก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากแล้วขำขึ้นมา

แต่พอขำไปขำมา ในใจก็เกิดความรู้สึกเสียใจพุ่งขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง

น่าเสียดาย พ่อแม่เธอได้ตายไปหมดแล้ว

เปปเปอร์ไม่มีวันได้เจอกับพ่อแม่ของเธอแล้ว สิ่งที่สามารถเจอได้ ก็มีแต่ป้ายหลุมศพที่เยือกเย็นสองอันเท่านั้น

กลิ่นอายโศกเศร้าที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวมายมิ้นท์ ถูกเปปเปอร์สัมผัสได้

เขามองดูท่าทีของเธอ ก็รู้แล้วว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

เขาขยี้หัวของเธอเล็กน้อย แล้วพูดปลอบโยนเสียงอ่อนขึ้นว่า “เอาล่ะ อย่าคิดมากอีกเลย มาช่วยผมคิดหน่อยดีกว่า ว่าพรุ่งนี้ไปพบคุณนายราศรี จะต้องเตรียมของขวัญอะไรไปบ้างดีกว่า?”

“พรุ่งนี้คุณมีเวลาว่างไปด้วยเหรอคะ?” มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้นมามองเขา

เปปเปอร์ตอบอืมไปคำหนึ่ง “เรื่องไปพบผู้ปกครองกับคุณมันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถึงจะไม่มีเวลา แต่ก็ต้องหาเวลาว่างออกมาให้ได้ไม่ใช่เหรอ?”

“คุณไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอกค่ะ” มายมิ้นท์ส่ายหน้าเล็กน้อย “ฉันสามารถอธิบายกับคุณป้าได้ คุณป้าจะต้องเข้าใจแน่ ๆ ค่ะ”

“ไม่มีอะไรหรอก” เปปเปอร์จูบหน้าผากเธอเล็กน้อย “บริษัทตระกูลนวบดินทร์มีคนตั้งมากมายขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าเป็นเพราะว่าผมไม่อยู่แค่วันเดียว ก็ไม่มีทางดำเนินการต่อไปได้ งั้นผมจะเลี้ยงพวกเขาไว้ทำไม? ดังนั้นคุณอย่ากังวลเลย เหมันตร์สามารถจัดการทุกอย่างได้อยู่แล้ว”

พอเห็นเขาพูดอย่างจริงจังขนาดนี้ มายมิ้นท์ก็พยักหน้าขึ้นเล็กน้อย “งั้นก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันตอบกลับไปให้เต้สักหน่อย ว่าพรุ่งนี้พวกเราจะไปนะคะ”

พูดแล้ว เธอก็ถอยออกมาจากอกของชายหนุ่ม แล้วเอาโทรศัพท์ขึ้นมาก็ส่งข้อความไปเลย

เปปเปอร์เห็นนิ้วมือของเธอพิมพ์ตัวหนังสือไปอย่างคล่องแคล่ว ก็ไม่ได้รบกวน

ไม่นาน มายมิ้นท์ก็ส่งคำตอบของตัวเองกลับไป

ลาเต้คงจะรอการตอบกลับของเธอมาตลอด ดังนั้นพอมายมิ้นท์ส่งข้อความกลับไปไม่นาน ข้อความของลาเต้ก็ส่งกลับมาแล้ว

โดยมีเนื้อหาที่ง่ายมาก คืออิโมจิแมวที่ทำท่าOKอันหนึ่ง แล้วก็เพิ่มมาอีกประโยคหนึ่งว่าพรุ่งนี้เจอกัน

มายมิ้นท์ปิดโทรศัพท์ไป “โอเคแล้วค่ะ ทางเต้รู้เรื่องแล้ว บ่ายวันพรุ่งนี้พวกเราตรงไปเลยก็ได้พอแล้วค่ะ”

เปปเปอร์ค่อย ๆ พยักหน้าขึ้น “ตอนนี้คุณบอกผมได้หรือยัง ว่าคุณนายราศรีชอบอะไรบ้าง? ผมจะได้ให้คนเตรียมของถูก”

“คุณลุงชอบดื่มเหล้า ส่วนคุณป้านั้น” มายมิ้นท์เอานิ้วมือจิ้มไปบนหน้าแล้วก็หัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย “ของคุณป้านั้นง่ายเลย ชอบกระเป๋า เครื่องสำอางอะไรพวกนั้นค่ะ”

เปปเปอร์พยักหน้าขึ้นอย่างครุ่นคิด “ที่ผมมีเหล้าออริจินอลจากโรงบ่มต่างประเทศอยู่หลายขวด เชื่อว่าประธานตระกูลรัตติพีระจะต้องชอบแน่ ๆ สำหรับคุณนายราศรีนั้น ก็จะให้เป็นเครื่องสำอางกับน้ำหอมครบชุดของฤดูที่จะมาถึงนี้ที่ยังไม่วางตลาดของแบรนด์Dกับแบรนด์C คุณรู้สึกว่าเป็นยังไงบ้าง?” เปปเปอร์หรี่ตามองหญิงสาว

หญิงสาวรีบพยักหน้าขึ้นมา “ของขวัญอันนี้คุณลุงกับคุณป้าจะต้องชอบมาก ๆ แน่”

เหล้าออริจินอล นั่นมันเป็นเหล้ารุ่นแรกของพวกโรงบ่มใหญ่พวกนั้นเลยนะ มูลค่านับไม่ถ้วนเลย

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเปปเปอร์สามารถติดอันดับในนิตยสารฟอบส์ระดับโลกได้ เปปเปอร์ก็ไม่มีทางมีเหล้าพวกนี้ได้หรอก

ตระกูลรัตติพีระไม่ใช่ตระกูลมหาเศรษฐี เพียงแต่ว่าอยู่ในเมืองเดอะซีเป็นตระกูลเศรษฐีเท่านั้น ถ้าไปเทียบกับทั้งประเทศหรือว่าต่างประเทศ ก็ไม่ติดอันดับแล้ว

ถึงแม้ว่าตระกูลรัตติพีระจะร่ำรวย แต่ก็ไม่มีทางซื้อได้แน่นอน แล้วก็ไม่มีสิทธิ์ซื้อเหล้าพวกนี้ด้วย

คุณลุงวสุเป็นคนที่ชอบดื่มเหล้าอยู่แล้ว แล้วก็ชอบเก็บเหล้าด้วย ตอนที่เป็นเด็ก เธอเคยได้ยินคุณลุงวสุพร่ำบ่นว่า เหล้าที่ตัวเองเก็บไว้เยอะแยะขนาดนี้ แต่สิ่งเดียวที่เสียดายก็คือไม่มีเหล้าออริจินอลจากโรงบ่มชั้นนำสักขวดเลย

แล้วตอนนี้เปปเปอร์มอบเหล้าออริจินอลให้เขา เชื่อว่าพรุ่งนี้พอคุณลุงวสุเห็นเข้า จะต้องตื่นเต้นจนสาบานเป็นเพื่อนรักกับเปปเปอร์แน่ ๆ

แล้วก็คุณป้าอีกคน ถึงแม้ว่าคุณป้าจะอายุห้าสิบกว่าแล้ว แต่ยังไงก็ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงสง่างามที่รักความสวยความงามเข้ากระดูกคนหนึ่ง สิ่งที่เด็กสาวอายุน้อยชื่นชอบ คุณป้าเองก็ไม่แตกต่างเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าปกติคุณป้าก็ไม่ได้ขาดพวกเครื่องสำอางเสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าแบรนด์หรูหราอะไรต่าง ๆ นานาพวกนั้น แต่คุณป้าก็สามารถซื้อได้แค่สินค้าที่วางตลาดตามฤดูเท่านั้น อย่างพวกของที่ยังไม่วางตลาด ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะซื้อหรือว่าสั่งจองล่วงหน้าได้

แต่เปปเปอร์นั้นแตกต่างเลย แค่เขาพูดคำเดียว พวกแบรนด์ชั้นนำก็จะเอาสินค้าที่ยังไม่วางตลาดในฤดูหน้า หรือว่าฤดูถัด ๆ ไป หรือแม้กระทั่งสินค้าที่อาจจะปล่อยออกมาอีกหนึ่งปีให้หลัง ก็จะเอาออกมาทั้งหมด เอาออกมาเขาได้เลือกได้ตามใจชอบ

พอออกมาแล้ว ก็มานั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ มายมิ้นท์ แล้วก็กอดเอวเธอต่อไป และดูทีวีเป็นเพื่อนเธอไป

มายมิ้นท์คุ้นชินกับการกระทำที่จะมากอดมาแตะเนื้อต้องตัวเธอ ทุกครั้งที่เขามานั่งข้างกายเธอแล้ว

ดังนั้นตอนที่เขาเข้ามากอดนั้น เธอก็ไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไร แล้วก็ยอมรับอย่างเป็นธรรมชาติมากด้วย และที่สำคัญยังแบ่งผ้าห่มที่อยู่บนครึ่งหนึ่งไปให้กับเขา

แล้วทั้งสองคนก็นอนพิงกันดูทีวีไปบนโซฟาอยู่อย่างนี้ บรรยากาศดูอบอุ่นเป็นอย่างมาก

จนสองชั่วโมงผ่านไป มายมิ้นท์ก็ข่มความง่วงต่อไปไม่ไหวอีก ศีรษะก็เอียงไปที่ไหล่เปปเปอร์ แล้วก็นอนหลับไปเลย

เปปเปอร์เอียงหน้ามามองใบหน้าเรียวที่กำลังหลับสนิทของหญิงสาว แล้วหัวเราะเสียงต่ำขึ้นมาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็ประคองใบหน้าของหญิงสาวขึ้นมา แล้วช้อนตัวหญิงสาวอุ้มขึ้นมา แล้วเดินไปทางห้องนอน

วันที่สอง ตอนที่มายมิ้นท์ตื่นขึ้นมานั้น ก็เป็นเวลาแปดโมงแล้ว

เปปเปอร์ได้ออกไปจากคอนโดพราวฟ้าตั้งนานแล้ว และไปที่บริษัทตระกูลนวบดินทร์

เมื่อวานเขาไม่ได้ไปทำงาน ถึงแม้ว่าจะมีผู้ช่วยเหมันตร์อยู่ที่บริษัท แต่ว่าเอกสารมากมาย ก็ต้องให้เขาไปเซ็นเองกับมือทั้งนั้น

ดังนั้นวันนี้ก็เลยต้องไปบริษัท ไม่งั้นยิ่งกองงานก็จะยิ่งเยอะ

ดังนั้นพอเขาตื่นขึ้นมาแล้ว ก็ทิ้งกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งไว้ให้มายมิ้นท์ว่าไปทำงานก่อนนะ แล้วก็ออกจากคอนโดพราวฟ้าไปเลย

มายมิ้นท์หาวขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วก็เอากระดาษโน้ตที่อ่านแล้ววางกลับไปที่ตู้หัวเตียง แล้วเลิกผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียงไป เดินไปทางระเบียงทางเข้าบ้านในห้องรับแขก แล้วเปิดประตูออก แล้วเอาอาหารเช้าของวันนี้เข้ามา

ตอนนี้เปปเปอร์ไม่ต้องทิ้งข้อความบอกเธอว่า ด้านนอกประตูมีคนมาส่งอาหารเช้าให้ไว้แล้ว

เพราะว่าเปปเปอร์รู้ดีว่าเธอรู้แล้ว ขอแค่เขาออกจากบ้านไปก่อน เขาก็ต้องให้คนมาส่งอาหารเช้าให้แน่นอน

นี่เธอก็เลย พอตื่นขึ้นมาแล้ว ก็ตรงไปเปิดประตูเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว