รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 929

ดวงตาของเปปเปอร์เป็นประกายขึ้นมาครู่หนึ่ง

เธอพูดแค่ว่าไม่ได้อาบน้ำ ซึ่งนั่นก็ได้หมายความว่า เธอไม่ได้ห้ามเรื่องที่เขาจะทำใช่ไหม?

เปปเปอร์ค่อย ๆ หยุดฝีเท้าลง ก้มหน้าลงไปมองหญิงสาวที่มองเขาอยู่เหมือนกัน พอลูกกระเดือกขยับขึ้นลงแล้ว น้ำเสียงพยายามอดกลั้นอะไรบางอย่างอยู่ และพูดขึ้นอย่างแหบแห้งว่า “ไม่ต้องอาบแล้ว เสียเวลา”

ตอนนี้เขาถือได้ว่าเป็นศรที่ขึ้นลูกธนูแล้ว จึงไม่อยากจะมาทำให้เสียเวลาเพราะว่าเรื่องอาบน้ำ

ถ้าเกิดว่าเธออาบเสร็จแล้ว ก็มาดื้อดึงว่าไม่แห้งอีกจะทำยังไงล่ะ?

คิดแล้ว เปปเปอร์ก็ไม่รอคำพูดต่อไปของมายมิ้นท์อีก แล้วก็ก้มหน้าลงไปและจูบขึ้นมาอีกครั้ง ในขณะเดียวกันฝีเท้าด้านล่างก็เริ่มก้าวเดินอีกครั้ง จากนั้นก็เตะประตูห้องนอนออกผลั๊วแล้วก็เดินเข้าไป

ผ่านไปไม่นาน ในห้องก็มีเสียงร้องครวญครางอ่อนหวานของหญิงสาวดังลอยออก รวมทั้งเสียงที่หอบหายใจอย่างเซ็กซี่ของชายหนุ่ม ทำไมแม้แต่ดวงจันทร์ในท้องฟ้ายังเขินอายจนต้องหลบเข้าไปในเมฆเลย

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ท้องฟ้าด้านนอกก็ค่อย ๆ มีฝนตกลงมา

ในวินาทีที่เสียงฝนตกดังขึ้นมา ในที่สุดเสียงความเคลื่อนไหวในห้องก็หยุดลงสักที

เปปเปอร์ก้มหน้าลงไปมองหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างที่เหนื่อ

จนนอนหลับไปแล้ว แล้วก็คลี่ยิ้มขึ้นมาแล้วจูบลงบนหน้าผากที่เหงื่อซึมออกมาของหญิงสาวทีหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมา แล้วเดินไปทางห้องน้ำ ไปชะล้างร่างกายให้ตัวเองและเธอ

พอทำทุกอย่างนี้เสร็จ และอุ้มหญิงสาวมาวางลงบนเตียงอีกครั้งแล้ว ก็เป็นเวลาตีสี่ใกล้รุ่งเช้าแล้ว

เปปเปอร์ห่มผ้าห่มให้กับมายมิ้นท์ พอลูบไล้ใบหน้าที่กำลังหลับสนิทของเธอแล้ว ตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกง่วงเท่าไหร่ แล้วก็สวมใส่เสื้อคลุมอาบน้ำหลวม ๆ มาที่ห้องรับแขก แล้วเอาโทรศัพท์ออกมา

เมื่อกลางวันเขาให้เหมันตร์ไปตรวจสอบว่าเทนเดอร์กรุ๊ปได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า

แต่ว่าต่อมาก็มัวคุณกับท่านย่า หรือไม่ก็ไปที่บ้านตระกูลรัตติพีระ พอกลับมาแล้ว ก็มาเข้าสู่เรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต ดังนั้นก็เลยไม่มีเวลาไปดูโทรศัพท์เลย

จนถึงตอนนี้ เขาถึงจะมีเวลามาตรวจดูผลการตรวจสอบของเมื่อกลางวัน

เปปเปอร์กดเปิดกล่องอีเมลในโทรศัพท์ ผลการตรวจสอบที่ผู้ช่วยเหมันตร์ส่งมา ก็คือฉบับที่อยู่แถวบนสุด

นิ้วมือของเปปเปอร์ขยับขึ้นเบา ๆ แล้วกดเปิดอีเมลออก

พอเห็นเนื้อหาในอีเมลเปปเปอร์ หัวคิ้วของเปปเปอร์ก็ขมวดขึ้นมา จากนั้นก็ปิดอีเมลไปเลย แล้วก็โทรศัพท์หาผู้ช่วยเหมันตร์ไปสายหนึ่งโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงเลยว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสี่แล้ว ผู้ช่วยเหมันตร์อาจจะยังกำลังนอนฝันอยู่ก็ได้

ด้วยเหตุนี้ ในตอนผู้ช่วยเหมันตร์กำลังฝันว่าตัวเองมีแฟนอยู่นั้น แล้วกำลังจูบกับแฟนนั้น อยู่ใบหน้าของแฟนก็กลายเป็นประธานเปปเปอร์ ในวินาทีนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าภาพฝังใจที่นำพามาให้ผู้ช่วยเหมันตร์นั้นยิ่งใหญ่มากแค่ไหน

ผู้ช่วยเหมันตร์ตกใจจนสะดุ้งตื่น ร้องอ้าออกมาคำหนึ่งแล้วดีดตัวลุกขึ้นมา และหายใจหอบรุนแรงไปเรื่อย ๆ บนหน้าผากก็มีเหงื่อซึมออกมาแล้ว

“น่ากลัวมากเลย น่ากลัวมากจริง ๆ นี่ฉันฝันว่าแฟนกลายร่างเป็นประธานเปปเปอร์ไปเหรอเนี่ย นี่มันเป็นฝันที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตนี้ของฉันเลยนะ” ผู้ช่วยเหมันตร์ถูฝ่ามือไปเล็กน้อย และตัวสั่นอย่างขวัญหนีดีฝ่อ

ตอนนี้เขารู้สึกจากใจจริงเลยว่า ตัวเองได้ต้องคำสาปของประธานเปปเปอร์ไปแล้ว

ปกติตอนกลางวันต้องถูกประธานเปปเปอร์ใช้งานเยี่ยงทาสก็ช่างเถอะ

ทำไมแม้แต่ฝันก็ยังหนีประธานเปปเปอร์ไม่พ้นเลย

โอ้สวรรค์นี่ยังจะให้เขามีชีวิตอยู่ต่ออีกไหม?

ผู้ช่วยเหมันตร์แหงนหน้ามองเพดานเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความหมดอาลัยตายอยาก

จนผ่านไปพักหนึ่งแล้ว เขาถึงค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลงมาก

ในเมื่อ ยังไงเขาก็เป็นคนที่มีประสบการณ์มาไม่น้อย การปรับสภาพจิตใจนั้นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย

พอปรับสภาพจิตใจได้แล้ว ผู้ช่วยเหมันตร์ถึงจะมีอารมณ์มาสนใจโทรศัพท์ที่อยู่บนหัวเตียงที่ดังไม่หยุด ดังอย่างกับจะเร่งรีบไปตายยังไงอย่างงั้น

เขาเบื่อมาก เบื่อมากจริง ๆ!

นี่กลางดึกแบบนี้ ใครกันนะที่ไม่หลับไม่นอน กลับมาโทรศัพท์หาเขาอยู่ได้

เชื่อหรือเปล่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เขาจะไปคิดบัญชีกับมัน?

ในใจก่นด่าไป ผู้ช่วยเหมันตร์ก็เปิดโคมไฟออก แล้วคลำหาแว่นตามา แล้วค่อย ๆ คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างเบื่อหน่าย

เหมือนกับว่าเปปเปอร์เองก็ฟังความหมายที่แอบซ่อนอยู่ในคำพูดของผู้ช่วยเหมันตร์ออกแล้ว แล้วก็เม้มปากและถามขึ้นว่า “อีเมลที่นายส่งมา ตกลงมันหมายความว่ายังไง? อะไรคือเทนเดอร์กรุ๊ปอาจจะเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ แต่ก็ไม่แน่ใจ?”

พอได้ยินคำถามของเปปเปอร์ ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ดันแว่นตาเล็กน้อย แล้วก็จริงจังขึ้นมา “เป็นแบบนี้ครับประธานเปปเปอร์ คนที่อยู่ที่เทนเดอร์กรุ๊ปไปสอบถามมาแล้ว เมื่อตอนบ่าย ผู้ช่วยเลขาคนอื่น ๆ ของคุณมายมิ้นท์มีท่าทางแปลก ๆ เหมือนกับว่ารีบร้อนมาก แถมยังตรงไปหาคุณมายมิ้นท์เลย แต่ว่าพอหาคุณมายมิ้นท์เสร็จแล้วออกมา พวกผู้ช่วยเลขาพวกนี้ก็กลับสู่สภาพปกติแล้ว ดังนั้นอีเมลที่ผมส่งไปก็เลยบอกว่าเทนเดอร์กรุ๊ปอาจจะเกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไรครับ เพราะว่าท่าทีของผู้ช่วยเลขาพวกนี้ ไม่สามารถยืนยันได้ง่าย ๆ จริง ๆ ครับ รู้สึกเหมือนกับว่าเกิดเรื่องขึ้นมา แล้วก็จัดการได้เลยครับ”

พอได้ยินผู้ช่วยเหมันตร์พูดแบบนี้ ท่าทีที่เคร่งเครียดของเปปเปอร์ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

ตอนแรกผู้ช่วยเลขามีท่าทีที่ร้อนรน แต่สุดท้ายก็กลับคืนสู่ปกติ

ท่าทางเหมือนอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็คงจะแก้ไขไปได้อย่างรวดเร็วแล้ว

และที่สำคัญตั้งแต่ที่เจอกับมายมิ้นท์ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงตอนนี้ เขาก็มองไม่เห็นความผิดปกติอะไรจากใบหน้าของมายมิ้นท์เลย

คิดดูแล้ว ก็คงจะเป็นอย่างที่มายมิ้นท์บอกในโทรศัพท์เมื่อตอนกลางวันจริง ๆ ว่าเตชิตกำลังมาก่อกวน แต่ก็ถูกเธอกดขี่ลงไปแล้ว

ถึงแม้ว่าจะคิดแบบนี้ไป แต่เปปเปอร์ก็ยังไม่ไว้วางใจแล้วก็ถามขึ้นอีกประโยคว่า “สอบถามมาได้หรือเปล่า ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้ผู้ช่วยเลขาพวกนั้นต้องร้อนรน?”

ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหน้าขึ้น “เรื่องนี้ถามไม่ได้ครับ คนคนนั้นไปสอบถามแล้ว แต่ผู้ช่วยเลขาพวกนั้นไม่ยอมบอกอะไรเลยครับ น่าจะถูกคุณมายมิ้นท์สั่งห้ามเอาไว้ คนคนนั้นก็เลยไม่กล้าที่จะสอบถามแล้ว ไม่งั้นถ้าคุณมายมิ้นท์รู้เรื่องเข้า ว่าพวกเราติดตามเธออยู่เสมอ พอถึงตอนนั้น เธอจะต้องมาทะเลาะกับคุณแน่ครับ”

พอคำพูดนี้พูดออกมา ท่าทีของเปปเปอร์ก็นิ่งไปทันที แล้วรีบพูดขึ้นว่า “ฉันรู้แล้ว ในเมื่อสอบถามไม่ได้ งั้นก็ช่างเถอะ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็ได้ เอาล่ะ ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว นายไปนอนต่อเถอะ”

พอพูดจบ เขาก็วางสายไปเลย

ผู้ช่วยเหมันตร์จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ที่กลับคืนสู่หน้าจอหลักแล้ว แล้วก็หัวเราะอย่างได้ใจขึ้นมา

เขารู้อยู่แล้ว พอเอาคุณมายมิ้นท์ออกมาอ้าง ประธานเปปเปอร์ก็ต้องไม่มีทางวุ่นวายต่อไปอีกแน่

เฮ้อ ในที่สุดก็นอนต่อได้สักที

ผู้ช่วยเหมันตร์โยนโทรศัพท์ไปข้าง ๆ หมอน แล้วก็โยนแว่นตาไปด้วย แล้วร่างกายก็ทิ้งตัวตรง ๆ กลับไปบนหมอน ไปหลับฝันถึงแฟนสาวต่อ

เพียงแต่หวังว่าครั้งนี้ ฝันดีอย่าได้เปลี่ยนเป็นฝันร้ายอีกเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว