รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 932

ถึงแม้ว่าในใจจะพร่ำบ่นไป แต่มายมิ้นท์ก็ไม่ได้ผลักชายหนุ่มออก แต่กลับกอดคอชายหนุ่มเอาไว้ แล้วตอบสนองกลับไป

พอชายหนุ่มรู้สึกถึงการกระทำของหญิงสาวแล้ว ก็เหมือนกับว่าได้รับการสนับสนุนขึ้นมายังไงอย่างงั้น แล้วก็ยิ่งจูบได้อย่างดูดดื่มมากยิ่งขึ้นไปอีก

พอออกกำลังกายเสร็จแล้ว ก็เป็นเวลาเวลาสิบเอ็ดโมงใกล้เที่ยงแล้ว

ท้องของมายมิ้นท์ร้องจ๊อก ๆ ขึ้นมา แต่เธอกลับไม่ได้ไปสนใจท้องของตัวเอง กลับมานั่งเหม่ออยู่บนเตียง

เธอกำลังคิดว่า ตัวเองบ้าคลั่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เมื่อคืนวุ่นวายกับคนคนนั้นทั้งคืนก็ช่างเถอะ

แต่ทำไมเช้า ๆ แบบนี้ เธอก็มาวุ่นวายกับชายหนุ่มอีกรอบหนึ่งได้ล่ะ?

ขีดจำกัดของเธอในตอนนี้ ไม่สามารถรักษาไว้ได้เลยเหรอ?

จ้องมองท่าทางที่เหม่อลอยของหญิงสาว เรียวปากของเปปเปอร์ที่ยืนใส่เสื้อผ้าอยู่ข้างเตียง ก็คลี่ยิ้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจ

เห็นได้ชัดว่า การออกกำลังกายรอบเมื่อกี้ ทำให้ร่างกายของเขาได้รับความพึงพอใจและความสุขสมหวังเป็นอย่างมาก

“เอาล่ะ เลิกเหม่อได้แล้ว เดี๋ยวผมอุ้มคุณไปอาบน้ำ” พอใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว เปปเปอร์ก็ยื่นมือไปลูบผมมายมิ้นท์เบา ๆ

พอมายมิ้นท์ตั้งสติกลับมาได้แล้ว ก็รวบผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองเอาไว้ ทั้งตัวมุดอยู่ในผ้าห่ม อย่างกับเป็นหนอนตัวหนึ่ง ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกตลกมาก

เปปเปอร์รู้ว่า นี่เธอกำลังเขินอายอยู่

ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่เคยตื่นเช้ามาก็บ้าคลั่งกันขนาดนี้

นี่มันเกินขอบเขตการรับไหวของเธอแล้ว

และที่สำคัญ ยังใช้ท่าทางที่เขาอยากใช้มาตลอดเมื่อก่อนหน้านี้ แต่เธอไม่เคยรับปากกับท่าทางที่ผู้ชายอยู่ด้านล่างแล้วผู้หญิงอยู่ด้านบนมาก่อนเลย

นี่ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าจะทำให้ความรู้สึกอับอายของเธอแตกสลายไปมากแค่ไหน

ในตอนที่ทำ ได้ลืมทุกอย่างไปจากสมอง จิตใจลุ่มหลงอยู่ในความงดงาม ก็เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย แต่ตอนนี้จบสิ้นแล้ว แน่นอนว่าเธอก็จะต้องรู้สึกว่าไม่มีหน้าไปพบเจอผู้คนแล้ว

แต่ว่าเปปเปอร์เองก็ไม่ได้เสียใจที่ลากเธอมาจัดสักชุดตั้งแต่เช้า

ยังคงเป็นคำพูดนั้น เธอเขินอายง่ายเกินไป และที่สำคัญยังไม่ค่อยปล่อยวางด้วย

เขาจะคอยลากเธอมาเป็นพิเศษหลาย ๆ ครั้ง พอเป็นแบบนี้ พอเธอค่อย ๆ ปล่อยวางไปได้แล้ว เขาก็จะได้ดื่มด่ำกับผลประโยชน์ที่มีมากขึ้น

อย่างเช่นดาดฟ้า ห้องน้ำ ห้องครับ หรือว่าในห้องทำงาน……

สถานที่เหล่านี้ เขาล้วนอยากลองดูกับเธอทั้งสิ้น อยากให้หลงเหลือแต่ล่องลอยของพวกเขา

แน่นอนว่า ในตอนนี้เขาทำได้แค่คิดไปก่อนเท่านั้น แล้วเก็บเอาไว้ในใจ พูดออกมาให้เธอรู้ไม่ได้เด็ดขาด

ไม่งั้น อย่าว่าแต่จะได้มีความทรงจำที่ดีหลงเหลือไว้ในสถานที่เหล่านี้เลย แม้แต่เรื่องอย่างเมื่อเช้า คาดว่าเขาก็คงจะไม่ได้มีอีกเป็นครั้งที่สองแน่

พอคิดได้แบบนี้แล้ว ดวงตาของเปปเปอร์ก็มืดมนลงเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กลับสู่สภาพปกติเช่นเดิม แล้วยื่นมือไปเปิดผ้าห่มที่ห่มอยู่บนตัวหญิงสาวออก “เลิกปิดตัวเองไว้ได้แล้ว ไม่กลัวหายใจไม่ออกเหรอ?”

มายมิ้นท์ทำเสียงหึ ๆ ขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร

หายใจไม่ออกแล้วยังไง ไม่มีหน้าไปพบผู้คนต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ

ที่ผ่านมา เธอไม่เคยกล้าคิดมาก่อนเลยว่า ตัวเองจะมีความกล้าที่จะปล่อยตัวเช่นนี้

ถ้าเกิดว่ามีคนบอกกับเธอแบบนี้ คาดว่าเธอคงจะหัวเราะจนตายแล้ว

แต่ว่า ความจริงมันก็เป็นเช่นนี้ อยู่ภายใต้ความหว่านล้อมของชายหนุ่มทีละนิดทีละนิด เธอก็ได้เปลี่ยนไปเป็นสภาพที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย

ถ้านาน ๆ ไป คาดว่าระดับการรับเรื่องแบบนี้ได้ของเธอ คงจะสูงจนถึงระดับที่ไม่กล้าคาดคิดเลย

“อย่ามัวแต่ทำเสียงหึ ๆ หิวหรือยัง?” เปปเปอร์แตะหลังศีรษะของมายมิ้นท์ไปเบา ๆ

มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้นมามองเขาไปทีหนึ่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เปปเปอร์หัวเราะเบา ๆ ขึ้นคำหนึ่ง “ได้ ได้ ได้ เป็นความผิดของผมเอง งั้นผมอุ้มคุณไปอาบน้ำนะ ถือเป็นการไถ่โทษเป็นไง?”

เหมาะสมกว่าสไตล์ที่ตัวเองสวมใส่ตอนปกติซะอีก

หรือไม่ ต่อไปนี้ซื้อเสื้อผ้าตามสไตล์เสื้อผ้าทั้งตัวที่เปปเปอร์เลือกให้ตัวเองในวันนี้ดีกว่า?

มายมิ้นท์ลูบคางเล็กน้อย ในใจได้มีการตัดสินใจออกมาแล้ว

ในตอนที่มายมิ้นท์ส่องกระจกเสร็จพอดี และกำลังจะไปดูผลงานชิ้นโบแดงของเปปเปอร์สักหน่อยนั้น อยู่ ๆ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงก็ดังขึ้นมา

มายมิ้นท์ละทิ้งความคิดในใจไปก่อน แล้วเดินไปทางโทรศัพท์

พอมาถึงหัวเตียงแล้วก้มหน้ามองไป ก็เห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากลาเต้

เธอไม่ได้ลังเลอะไร แล้วก็ยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มา กดรับสาย “เต้”

“มิ้นท์ ทางโรงงานทิพย์ฟ้านี่ยังไงกัน? ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงได้เอาชิ้นส่วนของเราขายให้กับคนอื่นไปล่ะ?” ทางปลายสาย มีเสียงกลัดกลุ้มของลาเต้สอบถามมา

แน่นอนว่า มายมิ้นท์รู้ดี ว่าความกลัดกลุ้มและซักถามของลาเต้นั้น ไม่ได้มีต่อเธอ แต่มีต่อทางโรงงานทิพย์ฟ้าต่างหาก

โรงงานทิพย์ฟ้า ก็คือชื่อโรงงานที่เทนเดอร์กรุ๊ปของพวกเขากำลังร่วมงานอยู่ด้วยในตอนนี้

มายมิ้นท์ไม่ได้ตอบคำถามของลาเต้ในทันที แต่กลับถามขึ้นมาอย่างแปลกใจว่า “เต้ นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”

เหมือนว่าเธอจะไม่ได้บอกใครนะ?

หรือว่า เรื่องที่ชิ้นส่วนถูกแย่งไป จะถูกเปิดโปงออกไปแล้วเหรอ?

งั้นพวกคนของเตชิต แล้วก็พวกพนักงานในบริษัท ตอนนี้ก็ต้องวุ่นวายไปหมดแล้วน่ะซิ?

ในเมื่อชิ้นส่วนรุ่นนี้นั้นสำคัญมาก แทบจะเกี่ยวข้องกับชีวิตของเทนเดอร์กรุ๊ปเลย เพราะว่าเทนเดอร์กรุ๊ปนั้นทำเกี่ยวกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อยู่

อีกสองวัน ก็จะเป็นวันที่ส่งมอบชิ้นส่วนพวกนี้มาให้เทนเดอร์กรุ๊ปของพวกเขา จากนั้นก็จะเป็นช่วงเวลาที่เทนเดอร์กรุ๊ปของพวกเขาเอามาดำเนินการต่อ พอไม่มีชิ้นส่วนชุดนี้แล้ว พวกพนักงานที่รอทำโอทีอยู่ก็จะไม่มีงานทำแล้ว แบบนั้นค่าแรงคนงาน ค่าเสียเวลา และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็ยังต้องแบกรับต่อไปเช่นเดิม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว