เทวิกากำลังจะพูดอะไรสักหน่อย อยู่ ๆ ก็ได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของมารดาถามขึ้นมาว่า “คุณมาทำอะไรอยู่ตรงนี้?”
สองสามีภรรยามองสบตากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินย่องเบาขึ้นมาทันที และเดินย่องเบา ๆ ไปใกล้ ๆ ห้องนอนของญาณิน
ญาณินเดินออกมาจากห้องก็เห็นไซม่อนนั่งพินกำแพงอยู่เยื้อง ๆ ไปทางฝั่งตรงข้ามห้อง พอเห็นเธอออกมา เขาก็ยังมีสภาพเหมือนเพิ่งตื่นนอน
“ณิน ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”
ไซม่อนมีความสงสัยอยู่เต็มหน้า
“นี่ผมเดินละเมอมาเหรอ?”
ญาณิน : ……
เชื่อเขา ผีก็คงมีจริงแล้ว!
ญาณินไม่อยากสนใจเขาอีกต่อไป และเดินผ่านหน้าเขาไปเลย
“ณิน”
ไซม่อนร้องเรียกเธอเสียงต่ำเอาไว้
ญาณินหยุดฝีเท้าลง แต่ก็ไม่ได้หมุนตัวไปมองเขา น้ำเสียงยังคงเย็นชา “มีเรื่องอะไรก็ว่ามา”
ไซม่อนอ้าปากเล็กน้อย อยากจะพูดอะไร แต่ก็พูดไม่ออก สุดท้าย จึงได้แต่พูดว่า “ไม่มีอะไร”
ญาณินหันหน้าไปถลึงตาใส่เขาสองที่ แล้วก็ทิ้งเขาไว้อีกครั้ง แล้วเดินจากไปเลย
ไซม่อนจ้องมองดูเธอ จนกระทั่งแผ่นหลังของเธอหายวับไปที่หัวมุมบันได เขาถึงจะหันไปอีกทาง แล้วพูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า “ออกมาเถอะ”
เทวิกาลากสามีเดินออกไป เธอยิ้มทักทายขึ้นราวกับไม่มีเรื่องอะไร “อรุณสวัสดิ์ค่ะ พ่อ”
“อรุณสวัสดิ์ครับ พ่อ”
เทวิกายังสามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ ยศพัฒน์ก็ยิ่งแสดงออกได้ดีมากกว่า ทำอย่างกับว่าไม่เคยเห็นภาพเมื่อกี้มาก่อนเลย
“อืม”
ไซม่อนอืมออกไปคำหนึ่ง พอเม้มปากไปเล็กน้อยแล้ว เขาก็อธิบายขึ้นว่า “วิกา พ่ออาจจะเดินละเมอนะ ไม่ได้อยากมาดักรอแม่แกตรงนี้ ฉันกับแม่แกเป็นสามีภรรยากัน อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน อยู่ตรงไหนก็ต้องเจอหน้ากัน ไม่จำเป็นต้องมาดักอยู่หน้าประตูหล่อนหรอก”
เทวิกาพยักหน้าให้อย่างจริงจัง “หนูรู้ค่ะว่าพ่อไม่ได้ตั้งใจมาดักรอแม่ที่หน้าประตู อาจจะเดินละเมอมาจริง ๆ ก็ได้ พ่อคะ อาการแบบนี้มันไม่ดีนะคะ ควรไปหาหมอสักหน่อย หมอประจำบ้านของเราคงจะมีเบอร์ติดต่ออยู่ เดี๋ยวหนูไปช่วยพ่อติดต่อสักหน่อย จะได้ให้เขามาตรวจดูให้พ่อสักหน่อย”
ไซม่อน: “……”
พอเห็นท่าทางจริงจังของลูกสาว ในที่สุดไซม่อนก็ทนไม่ไหวอีกต่อ แล้วยื่นมือไปเคาะหัวเทวิกาเบา ๆ ทีหนึ่ง แล้วพูดกับเธอขึ้นว่า “รู้จักแต่พูดหยอกล้อพ่อ”
“หนูเปล่านะคะ ก็พ่อบอกว่านอนละเมอ หนูก็เชื่อซิคะ”
ไซม่อนถลึงตาใส่เธอ
เทวิกาหัวเราะแหะ ๆ แล้วก็ไปหลบอยู่หลังยศพัฒน์
ยศพัฒน์ปกป้องภรรยารักไว้อย่างมิดชิด และยอมไม่ให้พ่อตามาเคาะหัวเทวิกาอีก
ความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสองสามีภรรยาตกไปอยู่ในสายตาไซม่อน เขาพอใจกับการกระทำของลูกเขยมาก แล้วก็รู้สึกอิจฉาความสุขของลูกสาวกับลูกเขย
ครั้งหนึ่ง เขากับณินก็เคยเป็นสามีภรรยาที่มีความสุขและหวานชื่นมาก่อนเหมือนกัน และพวกเขายังมีลูกฝาแฝดชายหญิงน่ารักอีกคู่หนึ่งด้วย แต่ว่า สุดท้ายเขากลับทำภรรยาที่เขารักมากหายไป จนถึงทุกวันนี้ก็ยังหาไม่เจอเลย
ตอนนี้สองสามีภรรยาอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม แต่กลับดูห่างกันราวกับอยู่คนละขั้วโลก
หัวใจของญาณินไม่ได้อยู่ที่ตัวเขาอีกแล้ว
เขารั้งตัวเธอไว้ได้ แต่รั้งหัวใจเธอไว้ไม่ได้ ก็เท่ากับว่าทำเธอหายไปแล้วไม่ใช่เหรอ
“ช่วงเวลาอย่างเดือนนี้ ตอนเช้ากับตอนเย็นของเมืองซูเพร่าอากาศหนาวมากแล้ว พวกแกเพิ่งกลับมาจากเมืองแอคเซสซ์ จะรู้สึกคุ้นเคยได้เหรอ? ทำไมไม่นอนให้นานหน่อยล่ะ”
มาเป็นก้างขวางคอตั้งแต่เช้าขนาดนี้เลย
ในใจไซม่อนแอบบ่นลูกสาวและลูกเขย
“ก็ยังโอเคค่ะ ไม่นอนแล้ว ลูกเขยพ่อชอบตื่นเช้าออกไปวิ่ง ตอนที่อยู่บ้าน บางครั้งเขาก็ทำอาหารเช้าด้วยความรักให้ลูกสาวพ่อด้วย พ่อคะ พ่อดูซิ หนูถูกลูกเขยพ่อเลี้ยงดูจนมีน้ำมีนวลขึ้นมาตั้งเยอะ”
ไซม่อน : ……มีลูกเขยที่มีวินัยในตัวเองในการใช้ชีวิตมาก ๆ บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเหมือนกัน
“ถ้าเขาเลี้ยงดูแกจนผอมไป พ่อจะไปคิดบัญชีกับเขา”
ยศพัฒน์ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “วิกา คุณได้ยินแล้วใช่ไหม เพื่อไม่ให้พ่อคุณมาคิดบัญชีกับผม ต่อไปคุณต้องกินให้เยอะ ๆ นะ จะมาพร่ำบ่นว่าจะลดน้ำหนักอะไรไม่ได้แล้วนะ คุณไม่ได้อ้วน ไม่ต้องลดหรอก”
เธอใส่เสื้อผ้าสีขาวไว้ทั้งตัว บุคลิกดูสง่างาม และใบหน้าดูเยือกเย็น อยู่ ๆ ก็ดึงความเคร่งขรึมของนายหญิงใหญ่ในตัวเธอออกมา
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณนาย”
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณนาย”
คนรับใช้มากมายในคฤหาสน์ ต่างก็ปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นใครที่มองเห็นญาณิน ล้วนเดินเข้ามากล่าวทักทายสวัสดียามเช้า
ตั้งแต่เมื่อวาน ที่คุณนายและนายใหญ่พาคุณหนูใหญ่กลับมาบ้าน ทุกคนก็พบว่าคุณนายไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
คนงานที่ทำงานในบ้านตระกูลสาระทามานานบอกว่า ตอนที่คุณนายยังไม่เป็นบ้า ยังไม่เคร่งขรึมและวางอำนาจเท่าตอนนี้เลย
เธอไม่พูดไม่จา แค่สายตาเย็นชากวาดมองมา ก็ทำให้สติของทุกคนเคร่งเครียดขึ้นทันที และเกรงกลัวขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ญาณินไม่ได้ตอบกลับคำทักทายของพวกคนรับใช้เลย
ในสมองมีความทรงจำอยู่มากมาย ตอนที่เธอเป็นบ้า คนรับใช้พวกนี้ก็คอยข่มเหงเธอเหมือนกัน ไม่ต้องพูดถึงว่าจะเคารพนอบน้อมเธออย่างคุณนาย แต่ยังเทียบไม่ได้กับคนแปลกหน้าคนหนึ่งด้วยซ้ำ
คนรับใช้มากมายขนาดนี้ นอกจากป้าอ้อยแล้ว ญาณินไม่มีทางที่จะไว้หน้าใครอีกแน่
ในเมื่อ เธอเองก็ไม่ได้อยากเป็นคุณนายนี่อีกแล้ว ก็เลยไม่กลัวหรอกว่าคนอื่นจะว่าเธอสูงส่งยังไง
ในขณะที่ไม่รู้ตัว ก็เดินมาถึงสวนดอกไม้ ญาณินจ้องมองดอกไม้ใบหญ้าที่มีอยู่เต็มสวน ไม่ใช่ดอกไม้ที่เธอชื่นชอบอีกต่อไปแล้ว ปฏิกิริยาบนใบหน้าเธอเย็นชามากยิ่งขึ้น
“คุณนาย”
พวกคนสวนที่รับผิดชอบดูแลดอกไม้ใบหญ้าในสวนดอกไม้ เห็นญาณินหยุดยืนอยู่ตรงหน้าทุ่งดอกไม้จุดหนึ่ง ด้วยท่าทีเย็นชา ดูเหมือนจะแฝงไฟโกรธเอาไว้เล็กน้อย พวกเขารีบหยุดงานในมือลง แล้วเดินหน้าเข้าไป สอบถามอย่างเคารพนอบน้อมขึ้นมา
ญาณินชี้ไปที่ทุ่งดอกไม้ใบหญ้าผืนใหญ่ตรงหน้า แล้วถามขึ้นมาว่า “ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนตรงนี้ปลูกดอกกุหลาบไว้ผืนใหญ่ มาตอนนี้ถึงทำไมหายไปแล้ว?”
“เรียนคุณนาย พวกดอกไม้ในอดีต คุณนายรอง กับคุณนายสามและก็คุณพลอยบอกว่าไม่สวย ก็เลยให้พวกเรากำจัดทิ้งไปให้หมด แล้วมาปลูกดอกไม้พวกนี้แทน คุณนาย ดอกไม้พวกนี้ก็สวยมากนะครับ ตอนนี้มันยังไม่บาน แต่พอถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ดอกไม้พวกนี้ก็จะบานขึ้นมา ดอกไม้ก็มีหลากหลายสีสัน และสีสันสวยงาม มันจะดูสวยมากเลยนะครับ”
ญาณินสายตาเย็นชา
พอเธอเป็นบ้าไป แม้แต่ดอกไม้ใบหญ้าที่เธอชอบก็ยังอยู่รอดต่อไปไม่ได้
พวกเขารังแกคนมากเกินไปแล้วจริง ๆ แล้วยังอยากให้เธอไปเข้าอกเข้าใจพวกเขาอย่างเมื่อก่อนอีก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน