ตอนค่ำ
กลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลสาระทาแล้ว เทวิกาที่ช่วยพิรัตน์อาบน้ำเสร็จ ได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อ
“วิกา ตอนนี้หนูมาที่คฤหาสน์เล็กของเราหน่อยได้ไหม?”
“ทำไมเหรอ?พ่อ พ่อยั่วโมโหแม่อีกแล้วใช่ไหม?”
ไซม่อนเงียบไปสักพัก แล้วพูดเสียงต่ำออกมาว่า: “พ่อผิดไปแล้ว หนูรีบมาที่นี่หน่อย แม่ขังตัวเองไว้ในห้องอาบน้ำชั่วโมงกว่าแล้ว แม่กลัวว่าเธอจะฆ่าตัวตายโดยปล่อยให้ตัวเองจมน้ำในอ่าง”
เทวิกาตกใจขึ้นมาทันที “พ่อ หนูรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ พ่อเคาะประตูสิ ถ้าแม่ไม่ยอมเปิดประตู พ่อก็รีบพังประตูเข้าไปดูเลย”
เธอไม่พูดอะไรกับคุณพ่อเยอะอีก หลังจากวางสายลง ก็พูดกับสามีขึ้นมาว่า: “ยศพัฒน์ พ่อแม่ฉันทะเลาะกันอีกแล้ว ตอนนี้กลับไปที่คฤหาสน์เล็ก และแม่ฉันก็ขังตัวเองไว้ในห้องอาบน้ำชั่วโมงกว่าแล้ว พ่อฉันกลัวว่าเธอจะคิดไม่ตก……”
ในขณะที่พูดอยู่นั้น จู่ๆ เทวิกาก็หยุดลงกะทันหัน
สัมผัสได้ถึงความผิดปรกติ
ทำไมแม่ของเธอถึงขังตัวเองไว้ในห้องอาบน้ำ?
ในขณะที่พ่อเป็นห่วงอยู่นั้นแต่กลับไม่กล้าพังประตูเข้าไป
พ่อคงไม่ทำ……
สองสามีภรรยาต่างมองหน้ากัน ในที่สุด เทวิกาก็ถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้นว่า: “ก็ต้องไปดูสักหน่อย ไม่แน่แม่ฉันอาจถือมีดฆ่าฟันพ่อฉันก็ได้”
“ได้”
ยศพัฒน์เองก็เป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับพ่อตากับแม่ยาย
สองสามีภรรยาพาพิรัตน์ที่เพิ่งกินข้าวโจ๊กเสร็จ ไปที่คฤหาสน์เล็กอย่างเร่งรีบ
ไซม่อนรออย่างกระวนกระวาย
เธอเดินไปมาวนอยู่ในห้องญาณิน ไม่รู้ว่าเดินหมุนไปกี่รอบแล้ว
ประตูห้องไม่ได้ปิด มีแต่ห้องน้ำเท่านั้นที่ล็อกจากข้างในไว้ ซึ่งข้างในก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ไซม่อนเป็นห่วงกลัวว่าภรรยาจะฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่กล้าพังประตูเข้าไป เพราะกลัวว่าภรรยาแค่ต้องการสงบสติอารมณ์สักพักเท่านั้น ถ้าเขาพังประตูเข้าไป เธอคงต้องเอามีดมาฟันเขาเป็นแน่
“พ่อ”
เทวิกาวิ่งขึ้นไปชั้นบน
เมื่อเห็นหน้าลูกสาวเสมือนเห็นผู้มีพระคุณ ไซม่อนรีบเข้าไปดึงตัวลูกสาวไว้ แล้วพูดออกมาว่า: “วิกา หนูรีบเข้าไปดูเร็วเข้าว่าแม่หนูเป็นยังไงบ้าง”
“พ่อ พ่อลงไปข้างล่างก่อน หนูเข้าไปดูแม่ก่อนว่าแม่เป็นยังไงบ้างแล้ว ตั้งนานแล้วแม่หนูยังไม่ยอมออกมา แสดงว่าเธอไม่อยากเผชิญหน้ากับพ่อ”
ไซม่อนไม่เต็มใจทำตามเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมเชื่อฟังในคำเกลี้ยกล่อมของลูกเขย ยอมลงไปชั้นล่างแต่โดยดี
หลังจากเทวิกาเข้าไปในห้องก็ปิดประตูให้เรียบร้อย และล็อกจากข้างในอีกด้วย จากนั้นถึงเดินไปหน้าห้องอาบน้ำ เคาะประตูแล้วถามออกมาว่า: “แม่ แม่เป็นยังไงบ้าง?แม่ แม่เป็นยังไงบ้าง?”
ญาณินนอนอยู่ในอ่าง
เมื่อได้ยินเสียงของลูกสาวที่ถามออกมา เธอนิ่งเงียบไปสักพัก ถึงได้ตอบกลับออกมาว่า: “แม่ไม่เป็นไร”
“แม่ แม่ออกมาได้ไหม?”
“รออีกสักพัก”
“แม่ พ่อหนูลงไปข้างล่างแล้ว และหนูก็ล๊อกประตูเรียบร้อยแล้ว เขาเข้ามาไม่ได้ค่ะ”
รู้ว่าคุณแม่ไม่อยากเผชิญหน้ากับคุณพ่อ เทวิกาพูดออกมาอย่างเข้าอกเข้าใจ
ญาณินไม่ได้ตอบกลับ ผ่านไปสิบกว่าน่าที เธอได้ออกมาจากห้องอาบน้ำ
เทวิกาตาไวมองเห็นรอยจูบบนคอคุณแม่ของเธอ
ญาณินรีบดึงคอเสื้อขึ้นมา ใบหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวดำสลับกันไปมา เธอเดินไปนั่งลงบนโซฟา ยังไม่ทันรอให้ลูกสาวได้นั่งลง เธอก็ตำหนิ่สามีว่าไร้ยางอายแค่ไหนให้ลูกสาวฟัง “วิกา แม่จะหย่า แม่ต้องการหย่าจริงๆ แม่ทนไม่ไหวแล้ว หรือว่า แม่ย้ายไปอยู่ที่ตระกูลธวัชพลังกร อยู่กับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของหนูแล้วพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน พ่อหนูไร้ยางอายสิ้นดี เขามันเลวจริงๆ !”
กลับทำ……
ทำเกินไปจริงๆ !
เทวิกาพูดออกมาอย่างอ่อนโยนว่า: “แม่ พ่อหนูเขา เขาคงห้ามใจไม่ได้ หนูดูออก พ่อหนูยังรักแม่อยู่ เรื่องที่ผ่านมา พ่อหนูทำไปด้วยความจำเป็น และมีความลำบากใจอยู่ แน่นอน แม่ หนูยังคงยืนอยู่ข้างแม่เสมอ และยืนอยู่ข้างแม่ตลอดไป พ่อหนูทำเกินไปจริงๆ”
บังคับฝืนใจแม่ได้ยังไง
เทวิกา: “……แม่ แม่กับพ่ออายุปูนนี้แล้ว คงไม่ต้องกินยาแล้วมั้ง?”
“ป้องกันไว้ดีที่สุด เรื่องนี้ห้ามพูดกับพ่อหนูเด็ดขาด เขามีแผนการอย่างอื่น บอกว่ายังอยากมีลูกกับแม่อีก นั่นเป็นการฆ่าแม่ชัดๆ แม่อายุมากขนาดนี้แล้ว ยังจะมีลูกอีก ถ้าลูกคลอดออกมา เขาสามารถปกป้องได้ไหม?ความสามารถของเขาแค่นั้นแม้แต่หนูยังปกป้องไม่ได้เลย”
ถ้าเขาเก่งจริง ตอนนั้นวิกาก็คงไม่ถูกวรันธรอุ้มไปหรอก
เทวิกามองสำรวจแม่ตัวเอง อืม ดูแล้วเหมือนพี่สาวเธอ พ่อแม่ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี อาจมีโอกาสมีลูกยามแก่ได้ก็เป็นไปได้
“แม่ ถ้าหากพ่อรู้ว่าหนูซื้อยาให้แม่ จะตัดมือหนูทิ้งไหมเนี่ยะ”
“ก็บอกหนูแล้วไงว่าห้ามให้เขารู้เด็ดขาด ?วิกา นี่หนูยืนอยู่ข้างพ่อหรือข้างแม่กันแน่?หรือว่าหนูอยากมีน้องสาวหรือน้องชายที่อายุน้อยกว่าหนูยี่สิบห้าปีอีกคน?”
เทวิกาหัวเราะฮิๆ “ถ้าสภาพร่างกายของแม่อนุญาต และถ้าแม่ยังสามารถมีน้องสาวหรือน้องชายให้หนูได้อีกคน หนูก็ยินดีมันไว้ค่ะ เพราะครอบครัวเราสามารถเลี้ยงดูได้ แม่ก็แค่คลอดออกมา เรื่องการดูแลและการศึกษามอบให้เป็นหน้าที่ของหนูกับพี่ชายเอง หนูรับรองว่าสามารถเป็นพี่สาวที่ดีได้แน่”
พูดจบ ก็ถูกแม่เธอตบเพี๊ยะ
“รีบไปซื้อยาให้แม่เดี๋ยวนี้!”
เทวิกาลูบคลำบริเวณที่โดนแม่ตบ หัวเราะฮิๆ แล้วพูดออกมาว่า: “ได้ๆๆ แม่ แม่อย่าเพิ่งโกรธ หนูไปช่วยแม่ซื้อยาเดี๋ยวนี้แหละ แต่แม่จะสามารถกินลงท้องได้หรือเปล่า เรื่องนี้หนูไม่รับปากนะ แต่ว่า แม่ ตอนนี้แม่ควรไปกินข้าวได้แล้ว?ต้องกินข้าวให้อิ่มก่อนถึงจะมีแรงโกรธพ่อได้”
ญาณิน: “……”
ยังบอกว่าลูกสาวเป็นคนเอาใจใส่ ลูกสาวของเธอไม่ใช่คนเอาใจใส่เลย
เมื่อกล่อมคุณแม่คนสวยไปได้สักพัก ในที่สุดญาณินก็ยอมกินข้าว เทวิกาจึงรีบโทรศัพท์ให้คุณพ่อ ให้คุณพ่อสั่งให้คนเอามื้อเย็นส่งขึ้นมาชั้นบนให้คุณแม่
“แม่ หนูไปช่วยแม่ซื้อยาก่อนนะ”
“เดี๋ยวก่อน หนูช่วยแม่เอามื้อเย็นเข้ามาก่อน แม่ไม่อยากเห็นหน้าไอ้คนเลวนั่น”
เทวิกตอบรับออกมาว่า: “ได้ๆๆ แม่ แม่อย่าโมโหอีกเลยนะ”
“หึ!”
หลังจากที่ญาณิน บ่น และตำหนิเขาให้ลูกสาวฟังเสร็จ อารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน