“ถ้าพวกคุณย่าปรึกษากันแล้วก็ดี ผมกลับก่อนนะครับ”
การแสดงของประยสย์จบลงแล้ว เขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป
เขาพูดทิ้งท้ายไม่กี่คำ หันหลังและจากไป
“ลูก ลูกจะไปไหน?” ญาณินถามด้วยความเป็นห่วง
“แม่ไม่ต้องยุ่งกับผม”
คำพูดของประยสย์ที่ตอบแม่ของเขานั้น เย็นชาและแข็งกร้าวมาก
ทุกคนรู้ว่าเขาหัวเสียมาก เพราะหญิงชราบังคับให้เขาแต่งงาน
ประยสย์จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เขาไม่ได้กลับไปที่ตระกูลวาชัยยุง ไม่ได้เข้าไปในคฤหัสน์เมเปิล และยิ่งไม่มีทางที่จะอยู่ในโรงแรมเมเปิล เพราะหญิงชราและสามีของเธออยู่ที่นี่ เขาก็จะเจอกับหญิงชราบ่อย เขาเกรงว่าตัวเองจะกลั้นไม่ไหวจนหัวเราะออกมา
ดังนั้น เขาควรจะรีบหนีให้ห่างไว้จะดีกว่า
คืนนั้น นายน้อยแห่งตระกูลสาระทาได้เข้าพักที่โรงแรมแอคเซสซ์ ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือของRA กรุ๊ป และเป็นหนึ่งในโรงแรมระดับไฮเอนด์ที่สุดในเมืองแอคเซสซ์
ถ้าเป็นในอดีต ประยสย์จะไม่มีทางเข้าพักในโรงแรมแอคเซสซ์
ตอนนี้นฤเบศวร์และพัฒน์ไม่ได้เป็นศัตรูกันแล้ว และนฤเบศวร์ก็ช่วยตระกูลสาระทา ประยสย์เข้าพักในโรงแรมของตระกูลเดชอุป จ่ายเงิรเข้ากระเป๋านฤเบศวร์ ซึ่งถือว่าตอบแทนนฤเบศวร์แล้วกัน
ท้องฟ้ายิ่งอยู่ยิ่งมืดลง
ประยสย์ยังคงดูทีวีอยู่ แต่จริง ๆ แล้วเขากำลังรอใครบางคนอยู่ รอณิศาของเขามาหา
เธอจะมาอย่างแน่นอน
อาจเป็นเพราะใจตรงกัน ตอนที่ประยสย์กำลังคิดถึงณิศาอยู่ในใจ ณิศาก็เปิดประตูเข้ามา
เมื่อประยสย์เห็นเธอเข้ามา เขาก็ปิดทีวี ยืนขึ้นต้อนรับเธอ และถามขึ้นว่า "คุณนั่งลิฟต์ขึ้นมา หรือขึ้นมาแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ"
“นั่งลิฟต์ขึ้นมาอย่างเปิดเผยเลยแหละ”
คืนนี้ กัญณิศายังถือกระเป๋ามาใบหนึ่ง ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่เมื่อเธอออกไปข้างนอก
ประยสย์ยิ้ม "งั้นก็ดีแล้ว พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหม?"
"อยู่ พวกเขาจ้องดูฉันผลักประตูเข้ามาตาเป็นมันเลย"
ประยสย์ยิ้มมากขึ้น และหยิบกระเป๋าจากด้านหลังของเธอ "พวกเขานับถือคุณเป็นนายหญิงแล้ว"
ณิศาถอดหน้ากากสีเงินบนใบหน้าของเธอออก จ้องมองใบหน้าที่มีฝ้ากละนั้น และหลังจากฟังคำพูดของประยสย์ เธอยิ้มและพูดว่า "คุณยังไม่ได้ขอฉันแต่งงานเลย ก็อยากให้ฉันเป็นนายหญิงของคุณแล้วเหรอ"
"คุณใส่อะไรไว้ในกระเป๋า?"
"เสื้อผ้า"
ประยสย์ขานตอบ แขวนกระเป๋าของเธอให้เรียบร้อย จากนั้นก็กอดเธอแล้วเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลง
ทันทีที่เขานั่งลง เขาก็ผลักณิศาพิงพนักเก้าอี้โซฟา เขามองณิศาด้วยความรักใคร่ จากนั้นค่อย ๆ ก้มศีรษะลงประทับริมฝีปากสีแดงของณิศา
หลังจากที่ทั้งสองสวมกอดกันอย่างดูดดื่ม ณิศาก็ผลักเขาออก นั่งตัวตรงและจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยความเขินอายเล็กน้อย "ใจร้อนจังเลย คิดถึงฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ?"
“คิดถึง ผมคิดถึงคุณแทบตาย ไม่เจอคุณหนึ่งวันก็เหมือนห่างกันไปเป็นปี คุณก็ใจร้าย ไม่โทรหาหรือส่งข้อความหาผมตลอดทั้งวันเลย”
“ฉันไม่ว่างนี่ วันนี้พี่สาวฉันกลับมาครั้งแรกหลังแต่งงาน จากนั้นคุณปู่คุณย่าของคุณก็มา หลังจากนั้นพี่สาวของฉันก็คุยกับฉันไม่หยุด ไม่มีเวลาส่งข้อความหรือโทรหาคุณเลย ตอนนี้ ฉันว่างก็มาหาคุณเลยนะ”
พี่สาวของเธอจะไม่ย้ายกลับมาจนกว่าจะผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ในช่วงสองสามวันนี้กัญณิศาเป็นอิสระมากและเธอไม่ต้องกังวลว่าพี่สาวของเธอจะรู้เรื่องที่เธอออกไปข้างนอกในตอนกลางคืน
“ปู่และย่าของคุณมาขอแต่งงานที่บ้านฉันด้วยตัวเอง คุณไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม?”
กัญณิศาเดาว่าประยสย์คงจะโวยวายแน่ ๆ ดังนั้น เธอจึงมาหาตอนดึก
ประยสย์นั่งตัวตรง ดวงตาของเขายังคงมองอย่างลึกซึ้งที่ริมฝีปากสีแดงสดของเธอ
"เป็นหลานอกตัญญูหนึ่งครั้ง แล้วเป็นหลานกตัญญูอีก ณิศา"
"ว่าไง?"
"ผมรักคุณ"
"ฉันรู้"
บางคนอายุหกสิบเจ็ดสิบแล้ว พ่อแม่ยังสุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่ แต่เธอเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อย
เด็กที่มีพ่อแม่คือสมบัติล้ำค่า เธอกับพี่สาวที่สูญเสียพ่อแม่ไปนานแล้ว ก็ราวกับหญ้าสองต้น พวกเขาถูกพายุพัดผ่านนับครั้งไม่ถ้วน แต่พวกเขาก็ยังมีชีวิตอยู่อย่างเหนียวแน่น
ตอนนี้ท้องฟ้าเหนือศีรษะของพวกเธอเป็นสีฟ้าแล้ว
“ณิศา แม่ของผมชอบคุณมาก จากนี้ไป พ่อแม่ของผมก็คือพ่อแม่ของคุณนะ”
ในตอนแรก พ่อของเขาไม่ชอบณิศามากนัก แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะพ่อกลัวว่าแม่ของเขาจะโกรธ
อยู่ข้างนอก พ่อของเขายังคงเป็นหัวหน้าครอบครัวที่สง่างามของตระกูลสาระทา แต่ตอนที่อยู่บ้าน พ่อของเขากลายเป็นพ่อบ้านที่กลัวเมีย
แน่นอนว่า ประยสย์จะไม่เห็นอกเห็นใจพ่อของเขา
อย่างไรก็ตาม ท่านทั้งสองก็สนุกกับมัน ในฐานะลูกอย่างพวกเขา เพียงต้องการเห็นพ่อแม่รักกัน
ณิศากอดเอวของเขาไว้ ถูในอ้อมแขนของเขาสองสามครั้ง เสียงของเธอสะอื้นเล็กน้อย "ไม่ว่าพ่อแม่ของคุณจะดีกับฉันแค่ไหน พวกเขาก็ไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของฉันอยู่ดี ความรู้สึกมันต่างกัน"
พ่อแม่สามียังไงก็เป็นพ่อแม่สามีอยู่ดี
“ณิศา”
ประยสย์ก้มหน้าลงและเห็นหยาดน้ำตาที่ส่องประกายบนใบหน้าของเธอ และเขาก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
เธอเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงและเข้มแข็ง ไม่ค่อยมีมุมที่ร้องไห้มากนัก
ในขณะนี้ เธอกลับกำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเขา ประยสย์เช็ดน้ำตาให้เธออย่างเป็นห่วง น้ำตาของเธอทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจมาก
ณิศาเช็ดน้ำตาด้วยตัวเอง "ฉันคิดถึงพ่อแม่ ฉันคิดถึงพวกเขามากจริง ๆ!"
น่าเสียดายที่เธอทำได้แค่ดูรูปถ่ายของพ่อแม่ แต่เธอไม่สามารถแตะต้องพวกเขาได้อีกต่อไป และไม่ได้ยินพวกเขาเรียกเธอด้วยความรักว่า "เด็กดี"
ประยสย์ทำได้เพียงกอดเธออย่างเงียบ ๆ
เธออยากจะร้องไห้ เขาก็ไม่ได้เกลี้ยกล่อมให้เธอหยุดร้อง บางครั้ง การร้องไห้ก็ดีกว่าการกลั้นไว้
ณิศาเศร้าไปสักพัก ถึงจะสงบสติอารมณ์ได้ เธอต้องมีชีวิตที่ดีและอยู่อย่างมีความสุขเท่านั้น พ่อแม่ของเธอจะวางใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน