รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน นิยาย บท 775

“พ่อตัดสินใจพาแม่ออกไปเที่ยว แล้วจะกลับมากันเมื่อไหร่คะ?”

ญาณินเอื้อมมือไปแตะท้องกลมของลูกสาวของเธอเบา ๆ และยิ้มด้วยความรัก "เมื่อเจ้าตัวน้อยทั้งสองในท้องของลูกคลอดออกมา พ่อกับแม่จะกลับมาอย่างแน่นอน"

"จะไปนานขนาดนั้นเลยเหรอคะ"

เหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าเธอจะคลอด

ญาณินยิ้ม "พริบตาเดียว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"

เทวิกากอดเอวแม่ของเธออย่างออดอ้อน "หนูไม่อยากแยกจากพ่อแม่นี่คะ"

“แม่รับรองว่า ทุกครั้งที่ไปที่ไหน แม่จะถ่ายรูปส่งมาให้เยอะ ๆ ลูกจะได้ดูวิวสวย ๆ ของโลกใบนี้โดยไม่ต้องออกไปไหน”

"แบบนั้น มีแต่ทำให้หนูอยากเดินทางไปทั่วโลกด้วยน่ะสิคะ"

ญาณินหัวเราะออกมา "ตอนนี้ลูกยังไม่สามารถไปไหนไกลได้ และหลังจากคลอดลูก ก็ไม่อยากห่างลูกอีก ก็ต้องรอถึงวัยนี้เหมือนพ่อกับแม่ ลูก ๆ เป็นฝั่งเป็นฝา และสามารถรับช่วงต่อธุรกิจได้แล้ว ถึงจะวางใจและปลดปล่อยภาระหน้าที่ทุกอย่าง จากนั้นค่อยใช้ชีวิตวัยชราที่ตัวเองอยากใช้”

"พ่อแม่ของหนูยังไม่แก่เลย ไม่ใช่ชีวิตวัยชราเสียหน่อย"

"ใช้ชีวิตวัยชราล่วงหน้า"

“แม่คะ หนูก็อยากใช้ชีวิตวัยชราล่วงหน้าจริง ๆ ค่ะ รอหนูเกษียณ ต้องรออีกตั้งยี่สิบกว่าปี หึย ๆ แม่ ทำไมหนูเพิ่งท้องล่ะ”

เทวิการอไม่ไหวที่จะให้ลูก ๆ ของเธอจะเติบโตและรับช่วงต่อธุรกิจได้แล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้น เธอจะได้เป็นเหมือนพ่อแม่ของเธอ ไม่ต้องมีภาระใด ๆ ไปเที่ยวรอบโลก และใช้ชีวิตคู่รักกันสองคน

"ลูกน่ะ ยังต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกยี่สิบกว่าปีเลย"

ใกล้ถึงบ้านตระกูลนนท์สัจทัศน์แล้ว สองแม่ลูกก็หยุดพูดเรื่องการใช้ชีวิตในวัยชราแล้ว

เมื่อรู้ว่าตระกูลสาระทาจะนำสินสอดมาให้ในวันนี้ เพื่อนบ้านของตระกูลนนท์สัจทัศน์ รวมถึงคนที่อยู่ละแวกนั้นก็อดไม่ได้ที่จะร่วมชมและดูว่า สินสอดของตระกูลสาระทาจะหนาเพียงใด

ได้ยินมาว่าตระกูลสาระทานั้นร่ำรวยเงินทอง และนายน้อยตระกูลสาระทาเป็นลูกชายคนเดียวของเขา ลูกชายคนเดียวกำลังจะแต่งงาน ดังนั้น สินสอดทองหมั้นที่นำมาต้องเยอะมากแน่ ๆ

หญิงชราและสามีของเธอ ควักเงินส่วนตัวออกมาจำนวนมากเพื่อเป็นสินสอดให้ประยสย์ ทว่า มันยังไม่พอ ไซม่อนและภรรยาก็ควักเงินออกมาเยอะเช่นกัน

ทรัพย์สินส่วนตัวของประยสย์ ไม่จำเป็นต้องแตะต้องเลย สินสอดทองหมั้นของเขาก็สูงเสียดฟ้าแล้ว

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสินสอดทองหมั้นที่ตระกูลสาระทาส่งมานั้นทำให้ทุกคนติดตาติดใจ

สองวันต่อมา ก็ถึงตาตระกูลอริยชัยกุลที่จะมอบสินสอดทองหมั้นให้ตระกูลวาชัยยุงแล้ว

เทวิกาเกิดในตระกูลสาระทา แต่เธอเติบโตในตระกูลวาชัยยุง ตระกูลวาชัยยุงก็เป็นบ้านแม่ของเธอเช่นกัน ในวันที่แต่งงาน เธอนั้นออกไปจากบ้านตระกูลวาชัยยุง

งานแต่งงานของทั้งสองคู่ถูกจัดขึ้นในวันเดียวกัน หลังจากการปรึกษาหารือกันของผู้อาวุโส ผ่านการยินยอมของบ่าวสาวทั้งสองคู่ วันนั้น งานแต่งงานจัดขึ้นที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองแอคเซสซ์

วันที่ยี่สิบหกของเดือนจันทรคติที่สิบสอง เป็นวันที่คุณชายพัฒน์แห่งตระกูลอริยชัยกุลและคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลสาระทาเทวิกาจากเมืองซูเพร่าได้จัดพิธีแต่งงานขึ้น

เรื่องราวความรักของทั้งคู่แพร่สะพัดไปทั่วเมืองแอคเซสซ์มาเกือบปีแล้ว และทุกคนก็รู้มานานแล้ว

เทวิกาเป็นคนที่เหล่าบรรดาผู้หญิงอิจฉาที่สุด

แม้ว่าเธอจะเคยประสบอุบัติเหตุตอนเด็ก แต่เธอก็โชคดีมาก ถูกตระกูลวาชัยยุงรับเธอมาเลี้ยงและปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นลูกแท้ ๆ เธอเติบโตมาอย่างแข็งแรงและมีความสุข ผู้ชายที่เธอแต่งงานด้วยกะทันหันนั้น ก็เป็นคนที่รอเธอเติบโตขึ้น และเป็นลูกชายคนโตของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด

ในอดีต ทุกคนอิจฉาเธอที่ได้แต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวย ราวกับหนูตกถังเข้าสาร

งานแต่งงานของนายน้อยแห่งตระกูลสาระทาและคุณหนูรองแห่งตระกูลนนท์สัจทัศน์ก็จัดขึ้นในวันนี้เช่นกัน เนื่องจากระยะห่างระหว่างทั้งสองตระกูล งานแต่งงานจึงจัดขึ้นที่เมืองแอคเซสซ์ก่อน จากนั้นจึงกลับไปจัดงานเลี้ยงที่เมืองซูเพร่า และเชิญผู้อาวุโสทั้งหลายมาดื่มเหล้ามงคล

“คุณเป็นเจ้าสาวที่ไม่สนใจการแต่งหน้าที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย คนอื่นนั้นให้ความร่วมมือดีมาก แถมยังกลัวฉันแต่งให้เขาไม่สวยอีก ทว่า คุณนายน้อยนั้นไม่สนใจเลย เอาแต่หาวและง่วงอย่างเดียว ไม่กลัวฉันแต่งหน้าให้คุณไม่สวยเหรอคะ?”

เทวิกายิ้มและพูดว่า "ลินท์เป็นคนหาคุณมาให้ และคุณเป็นคนแต่งหน้าให้อรกับพี่สะใภ้ของฉันด้วย ฉันเชื่อใจและวางใจในตัวคุณมาก ฉันไม่กลัวคุณแต่งหน้าให้ฉันขี้เหร่หรอกค่ะ"

ช่างแต่งหน้ายิ้ม “ที่จริง ฉันก็ไม่กล้าหรอกค่ะ เพราะกลัวคุณชายใหญ่จะมาสะสางบัญชีกับฉัน คุณนายน้อยอย่าเพิ่งนอนค่ะ รอให้ฉันแต่งหน้าให้คุณสวย ๆ ก่อน รับรองได้ว่าจะทำให้คุณชายใหญ่หลงใหลอย่างแน่นอน”

"ฉันคิดว่า ปกติฉันก็สวยอยู่นะ และสามารถทำให้พัฒน์หลงใหลได้”

“ฮ่าฮ่า ก็จริงค่ะ คุณนายน้อยเป็นคนสวยโดยธรรมชาติ ถ้าทุกคนเป็นเหมือนคุณนายน้อย ทุกคนในสายอาชีพของเราก็จะตกงานกันหมด”

เธอพูดคุยกับช่างแต่งหน้าอย่างเป็นกันเอง พูดคุยเรื่องสบาย ๆ เทวิกาพยายามขับไล่อาการง่วงนอน และให้ความร่วมมือกับช่างแต่งหน้า

เพื่อนเจ้าสาวของเทวิกานั้น เลือกมาจากดาราดาวรุ่งสองสามคนที่เพิ่งเข้าสู่อุตสาหกรรมบันเทิงที่อยู่ภายใต้บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป ให้มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอ

เพราะเพื่อนที่ดีของเธอนั้น ไม่มีใครเหมาะที่จะเป็นเพื่อนเจ้าสาว ใครใช้ให้เธอจดทะเบียนสมรสตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วค่อยมาแต่งงานทีหลังล่ะ

เพื่อนเจ้าบ่าวของพัฒน์นั้นยอดเยี่ยมมาก

ก่อนหน้านี้ เพื่อนเจ้าบ่าวของนฤเบศวร์และชเนนทร์ล้วนเป็นนายน้อยของตระกูลอริยชัยกุล พัฒน์นั้นเชิญหนุ่มหล่อมากความสามารถทั้งหมดในเมืองแอคเซสซ์ที่ยังไม่แต่งงานมา ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มผู้มั่งคั่งจากชนชั้นสูง

พัฒน์เคยกล่าวว่า งานแต่งงานที่เขาเตรียมไว้ให้สำหรับวิกา จะไม่แพ้งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ของนฤเบศวร์ที่เตรียมไว้ให้กนกอร

กนกอรนำของว่างมาให้เพื่อนของเธอ และให้เทวิกากินรองท้องก่อน

กนกอรยื่นจานขนมไปไว้ตรงหน้าเพื่อน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เธอกินของหวานก็จะไม่ค่อยอยากอ้วกเท่าไหร่ ฉันก็เลยเตรียมของหวานมาให้ เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกอยากอ้วกในวันมงคลของตัวเอง”

เทวิกาที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จ แทบรอไม่ไหวที่จะหยิบจานขนมมา "ฉันหิวพอดี พอกินเข้าไปก็อยากอ้วก แต่พอไม่กินก็ทรมาน เจ้าสองก้อนนี้แสบเหลือจริง ๆ”