มีเสียงหึ่งๆ ดังอยู่ในสมองของถังจือซย่า
จ้านฉิงเหย่ นายเล่นใหญ่ไปแล้วนะ
“จือซย่า ฉันรู้ว่าเธอจะไม่ปฏิเสธฉัน ฉันรู้ว่าเธอรักฉัน” จ้านฉิงเหย่พูดขึ้นด้วยความยินดี แม้จะไม่ได้ใช้ไมโครโฟน แต่เสียงของเขาก็ดังพอจะทำให้คนทั้งหมดในห้องจัดเลี้ยงได้ยิน
ในเวลานี้ นายหญิงใหญ่สีได้เดินมาถึงหน้าเวทีแล้ว เธอเงยหน้ามองภาพจ้านฉิงเหย่ที่กำลังโอบกอดถังจือซย่า เธอรู้สึกตกตะลึง เธอจับคู่ผิดไปอย่างนั้นหรือ
ผู้ชายที่ถังจือซย่าชอบคือฉิงเหย่หลานชายอีกคนของเธอหรอกหรือ ในใจของเธอ ขอเพียงได้ถังจือซย่าเข้ามาเป็นสะใภ้ในตระกูล ไม่ว่าจะเป็นหลานชายคนไหนก็ได้ทั้งนั้น คราวนี้ ถือว่าเธอได้สมตามที่ปรารถนาแล้ว
หากว่าถังจือซย่ารักหลานชายของเธอจริง เธอก็ยินดีกับการแต่งงานนี้
ที่บันไดชั้นสอง สีจิ่วเฉินเห็นกระบวนการทั้งหมดของการขอแต่งงานฉากนี้ ใบหน้าหล่อคมของเขาเฉยเมยไร้ความรู้สึก แต่มือที่จับราวบันไดอยู่นั้นกลับเหมือนกำลังจะบีบให้แตกเป็นผุยผง เส้นเลือดที่หลังมือของเขาวิ่งพล่านไปหมด
ถังจือซย่ารีบฉวยโอกาสพูดกับจ้านฉิงเหย่ “รีบลงไปกันเถอะ อย่าวุ่นวายอีกเลย”
จ้านฉิงเหย่จับมือเธอ และหยิบไมโครโฟนขึ้น เขาพูดกับแขกที่อยู่ด้านล่างเวทีว่า “ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความยินดี ผมดีใจมากที่การขอแต่งงานสำเร็จแล้ว”
ถังจือซย่า “...”
“ก็ได้! เดี๋ยวเธอจะต้องอธิบายกับจ้านฉิงเหย่สักหน่อยแล้ว
อีกด้านหนึ่งในห้องรับรองพิเศษ สามีภรรยาคู่หนึ่งมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก คู่สามีภรรยาตระกูลหันมองไปทางคู่สามีภรรยาตระกูลจ้าน “พี่จ้าน พี่สะใภ้ นี่มันอะไรกัน ฉิงเหย่จะแต่งงานกันผู้หญิงคนอื่นหรือ”
“เรื่องนี้ เราสองคนก็ยังไม่แน่ใจนัก ผู้หญิงคนนั้นเคยช่วยชีวิตฉิงเหย่เอาไว้” คุณนายจ้านถอนหายใจ เธอรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ลูกชายของเธอรู้สึกขอบคุณในบุญคุณของผู้หญิงคนนั้น แต่ก็ไม่คิดว่าลูกชายจะตัดสินใจขอเธอแต่งงานในคืนนี้
ถังจือซย่าพยายามนึกถึงเหตุผลต่างๆ นานาที่เธอจะปฏิเสธเขา และในที่สุด เธอนึกถึงเหตุผลข้อหนึ่ง เธอถอนหายใจและพูดว่า "ฉิงเหย่ ตั้งแต่ฉันมีเฉินเฉินก็ไม่เคยคิดจะแต่งงานอีก หัวใจของฉันเคยถูกทำร้ายอย่างหนัก ฉันยังไม่สามารถหลุดพ้นออกมาเงามืดนั้นได้ ฉะนั้น จึงไม่สามารถรับรักใครได้”
จ้านฉิงเหย่มองเธอด้วยความห่วงใย เขาพูดอย่างรีบร้อนว่า “พ่อของเฉินเฉินทำร้ายเธอใช่ไหม จือซย่า เธอบอกฉันมาสิ เธอเจออะไรมา พ่อของเฉินเฉินเป็นใครกัน”
ถังจือซย่าปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา “ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก สรุปแล้ว ฉันรับคำขอแต่งงานของนายไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ”
จ้านฉิงเหย่ไม่ได้รู้สึกโกรธเธอแต่อย่างใด และเขาก็ไม่ได้รู้สึกพ่ายแพ้ด้วย จริงๆ เขาก็แค่อยากลองดู ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาแต่แรกแล้ว
“จือซย่า ฉันไม่สนว่าเธอจะรับหรือไม่รับคำขอของฉัน ฉันอยากให้เธอรู้ว่า ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ และปกป้องเธอเสมอ”
“คำพูดนี้ของนายก็เพียงพอแล้วล่ะ ในใจของฉัน นายคือเพื่อนที่ดีที่สุด” ถังจือซย่าเน้นย้ำถึงมิตรภาพ นั่นเพราะว่าเธอเห็นเขาเป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้นจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...