“ได้! เดี๋ยวพรุ่งนี้อาไปรับหนูนะ” สีจิ่วเฉินยินดีดูแลเขาอยู่แล้ว
เด็กน้อยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “คุณอาสี ในงานเลี้ยงมีผู้ชายอยู่เยอะเลยใช่ไหมครับ ผมกังวลว่าคุณตาจะแนะนำหม่ามี้ให้กับคุณอาคนอื่นๆ ถ้าหากคุณอาอยู่ที่งานเลี้ยงด้วยน่าจะดี แบบนี้คุณตาจะได้เห็นคุณอาด้วย”
สีจิ่วเฉินหรี่ตา หรือว่าถังจวิ้นเตรียมหาลูกเขยให้กับผู้หญิงคนนี้จากงานเลี้ยงของวันพรุ่งนี้?
ถ้าหากเป็นแบบนี้ เขาก็จะพลาดโอกาสไปอย่างนั้นเหรอ สีจิ่วเฉินนึกได้ว่ามีอีกคนหนึ่งที่เหมาะสมที่จะดูแลเด็ก
“เฉินเฉิน ถ้าพรุ่งนี้อาไปร่วมงานเลี้ยงของคุณตาหนูกับหม่ามี้ของหนู หนูจะยอมให้คุณอาจ้านฉิงเหย่มาดูแลหนูไหม”
“พวกเราปิดเรื่องนี้เป็นความลับก่อนดีไหม” สีจิ่วเฉินไม่อยากให้แผนการถูกทำลาย ดังนั้น จะให้ถังจือซย่ากับจ้านฉิงเหย่รู้ไม่ได้
“อืม! ได้ครับ!” เจ้าตัวน้อยกลายเป็นพวกเดียวกับเขาแล้ว
จ้านฉิงเหย่ที่น่าสงสารไม่รู้เลยว่า เพื่อที่จะช่วยเหลือให้พี่ชายจีบถังจือซย่า เขากำลังจะกลายเป็นเครื่องมือดูแลเด็กที่น่าสงสาร
ถังจือซย่าถือเกี๊ยวออกมาเสิร์ฟก่อนสองจาน และกลับไปต้มอีกสองจาน สีจิ่วเฉินกับเจ้าตัวน้อยที่อยู่หน้าโต๊ะ ก็จิ้มน้ำซอสที่ผสมไว้แล้วเริ่มกิน
ถังจือซย่าเอาเกี๊ยวที่ซื้อมาวันนี้ต้มจนหมด ปริมาณพอดีสำหรับสามคน กินเกี๊ยวเสร็จ สีจิ่วเฉินก็พาเจ้าตัวน้อยลงไปเดินเล่นข้างล่าง ถังจือซย่าก็เก็บกวาดบ้าน หลังจากเก็บกวาดเสร็จ ถังจือซย่าก็นั่งลงบนโซฟา และเหม่อลอยอยู่ชั่วขณะ
ความรู้สึกแบบนี้ทำไมเหมือนกับครอบครัวสามคนพ่อ แม่ ลูก เลยนะ
อยู่ๆ ในก้นบึ้งหัวใจของถังจือซย่าก็คิดถึงเรื่องชู้สาวที่เกิดขึ้นในคืนหนึ่งของซ่งซานกับสีจิ่วเฉิน มันเป็นความรู้สึกในก้นบึ้งของหัวใจที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้
จำได้ว่าครั้งก่อนที่สวนดอกไม้ของตระกูลสี การที่ซ่งซานกอดอยู่กับสีจิ่วเฉินมันสามารถอธิบายเรื่องราวของพวกเขาในคืนนั้นได้ พูดได้เลยว่าคืนนั้นสีจิ่วเฉินคุ้มคลั่งอยู่บนร่างกายของเธอ ชัดเจนว่า คืนนั้นคงเป็นคืนที่แสนอบอุ่น เพราะหลังจากเกิดเรื่อง ซ่งซานจึงไม่มีวันลืมเลือน
ถังจือซย่าหลับตาลงทันที เธอพยายามสลัดความคิดที่ปรากฏขึ้นในหัวออกไป มันทำให้เธอคิดถึงคืนนั้นเมื่อห้าปีที่แล้ว หนุ่มคาวบอยที่ไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบหน้าตา ถึงแม้ในคืนนั้นเธอจะอยู่ในความมืด แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างมีสติ
เธอรู้สึกว่ารูปร่างของคาวบอยหนุ่มคนนั้นถือว่าสูงใหญ่และทรงพลัง พละกำลังของเขาเยอะมากจนเธอไม่สามารถต่อต้านได้ เขาเสียสติเหมือนกับสัตว์ป่า ไม่มีความเป็นมนุษย์เลยแม้แต่น้อย
ทุกครั้งที่ถังจือซย่านึกถึงเรื่องในคืนนั้น ร่างกายของเธอก็จะสั่นเทาทั้งตัว เธอยิ่งรู้สึกขยะแขยะเกี่ยวกับเรื่องของชายหญิง ดังนั้น เธอจึงไม่แต่งงาน นอกจากจิตใจที่ปิดกั้นแล้ว ยังมีความรู้สึกแย่ทางกายอีกด้วย
สายตาของสีจิ่วเฉินตกกระทบลงบนหน้าของเธอ ช่างเป็นแววตาที่มีเสนห์ “ฉันอยากอยู่ต่ออีกหน่อย”
“อย่าคิดแต่จะเอาเปรียบฉันตลอด ต่อไปจะไม่ให้คุณเอาเปรียบแล้ว” ถังจือซย่าพูดด้วยความใจเย็น เธอจะไม่ตกหลุมพรางของเขาอีกแล้ว
สีจิ่วเฉินรู้ดีว่าจะเอาเปรียบเธอทุกครั้งไม่ได้ พอเขาคิดว่าจะได้เจอเธออีกในวันพรุ่งนี้ เขาก็ยกมุมปากยิ้ม “พรุ่งนี้เจอกันที่บริษัท”
พูดจบ เขาก็ผลักประตูออกแล้วจากไป
ถังจือซย่าถอนหายใจ แล้วจึงรีบไปอาบน้ำให้ลูกชาย
วันที่สอง แผนกออกแบบมีประชุมเช้า
ถังจือซย่าเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ยังไม่ตื่นนอน ทันทีที่มองไปยังข้างๆ ที่นั่งของเธอ ก็เห็นเงาของบุคคลที่สูงศักดิ์และน่าหลงไหล บรรยากาศอึกทึกครึกโครมทั้งสำนักงานก็ดูตึงเครียดเป็นพิเศษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...