ซ่งซานอวดความรักไม่หยุดไม่หย่อน ถังจือซย่าตอบไปอย่างสบายๆ “ได้สิ ไม่มีปัญหา ฉันจะเอาไปส่งให้ถึงมือเขาแทนเธอเอง พร้อมกับอวยพรให้ประธานสีด้วย”
ซ่งซานได้ยินแบบนั้นก็อารมณ์เสียขึ้นมาและหันไปพูดกับหลี่เหมย “ผู้อำนวยการหลี่คะ ฉันอยากคุยกันตามลำพัง คุณออกไปก่อน”
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณคุยกันเถอะค่ะ” หลี่เหมยพูดจบก็เหลือบไปมองถังจือซย่าด้วยความเป็นห่วง จากนั้นก็ลุกเดินออกไป
ทันทีที่หลี่เหมยออกไป สายตาของซ่งซานก็เย็นชาลงทันทีและพูดขึ้น “ถังจือซย่า เธอไม่ฟังคำเตือนของฉันเลยใช่ไหม ถ้าเธอยังกล้าไปพัวพันกับจิ่วเฉินอีกละก็ ฉันจะให้หนุ่มขายบริการคนนั้นไปหาเธอทันที”
“ครั้งที่แล้วที่เขาหาฉันเจอเป็นเพราะเธอบอกเขาใช่ไหม” ถังจือซย่าย้อนถาม หนุ่มขายบริการคนนั้นยังจัดแจงให้เธอไปนั่งกับลูกค้าเพื่อหาเงินแทนเขาอีก อยากจะฆ่าเขาจริงๆ
ถังจือซย่าพยักหน้าอย่างได้ใจ “ใช่ ฉันใจดีบอกเขาไป เธอรู้ไหมว่าตอนนี้เขาน่าอนาถขนาดไหน เขาไม่มีเงิน ไม่ได้แต่งงาน ไม่มีลูกหลาน สามารถพูดได้เลยว่าไม่มีอะไรสักอย่าง ตอนเขาได้ยินว่าเขามีลูกชายสุดน่ารักก็ดีใจมากเลย เป็นฉันที่ให้เงินเขาและโน้มน้าวเขาให้ไปยุ่งวุ่นวายกับพวกเธอเอง ฉันทำได้ไม่เลวเลยใช่ไหม!”
ซ่งซานยิ้มแบบร้ายกาจกว่าเดิม
ถึงอย่างไรหนุ่มขายบริการคนนี้ก็เป็นคนที่แต่งเรื่องขึ้นมา ซ่งซานจะกุเรื่องอะไรขึ้นมาก็ได้ทั้งนั้น
สายตาของถังจือซย่าปรากฏความเกลียดชัง เธอกำมือแน่น “ซ่งซาน ทำไมตอนนั้นเธอต้องทำกับฉันถึงขนาดนั้นด้วย ฉันเห็นเธอเป็นพี่น้อง แต่เธอกลับมาทำเรื่องเลวทรามแบบนั้นกับฉัน”
ซ่งซานตอบกลับด้วยสายตาเคียดแค้น “ถังจือซย่า เธอไม่ควรมาเป็นพี่ของฉัน เธอรู้ไหม แค่มีเธออยู่ข้างๆ ฉัน เธอก็เด่นจนฉันเหมือนของไร้ค่า เธอสวย คะแนนดี ครอบครัวก็ดี ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดไปสารภาพรักกับชายที่ชอบ แต่เขากลับบอกฉันว่าเขาแอบชอบเธอมาตลอด พ่อแม่ฉันชมเธอตั้งแต่เช้ายันเย็น เธอรู้ไหมว่าตอนนั้นฉันทรมานขนาดไหน”
ถังจือซย่านึกเสียใจขึ้นมา คนบางคนก็ไม่ควรไปรู้จักด้วยจริงๆ เพราะคนเหล่านี้มีจิตใจมืดมน ดังนั้นทุกๆ อย่างที่พวกเขาเห็นต่างก็มืดดำไปหมด
ต่อไปนี้ถังจือซย่าอยากจะอยู่ให้ห่างจากคนประเภทนี้ ถึงขั้นที่ไม่อยากเจอกันอีกในชาตินี้
“ถังจือซย่า ฉันเกลียดเธอ ไม่ชอบเธอ ฉันอยากเห็นสภาพของเธอตอนที่ถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า และในที่สุด ห้าปีที่แล้วฉันก็ได้เห็นแล้ว” ซ่งซานยกแก้วชาขึ้นมาเตรียมที่จะดื่มมัน และในเวลานั้นเอง แก้วชาก็พุ่งไปทางเธอและน้ำชาก็ถูกสาดไปที่เครื่องสำอางของเธอ
ซ่งซานนึกว่าจะยั่วยุเธอได้!
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันเอาไปส่งเอง ประธานสีมาทำงานหรือยังคะ”
หลี่เหมยหยิบโทรศัพท์ในห้องทำงานขึ้นมาและต่อสายไปที่ห้องทำงานของประธานสี จากนั้นก็หันไปพูดกับถังจือซย่า “ปกติประธานสีจะกลับมาประมาณบ่ายสามโมง เธอรอก่อนแล้วกัน!”
“อื้อ!” ถังจือซย่าไม่รีบร้อน
ทันทีที่หลี่เหมยเดินออกไป ถังจือซย่าก็เปิดกล่องและมองมองดูสร้อยที่เธอทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจออกแบบ บนแม่กุญแจมีตัวที่แสดงถึงความรักเพิ่มเข้าไปด้วย
นี่เป็นงานออกแบบที่เธอตั้งใจทำมากชิ้นหนึ่งเลย ตอนที่กำลังออกแบบอยู่นั้น เธอหวังว่าคนที่ได้รับมันไปจะรักกันตลอดไป ไม่แยกจากกัน แต่ตอนนี้ ช่างน่าขำจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...