ถังจือซย่าใจอ่อนขึ้นมาทันที ถอนหายใจแล้วพูดว่า “งั้นคุณอยากได้อะไร”
“ฉันอยากได้อะไรเธอไม่รู้เหรอ” ผู้ชายโยนคำถามให้เธออีกครั้ง ถ้าเรื่องการรักเขายังต้องให้เขามาสอน มันก็ไม่สนุกแล้วหล่ะ
ดูเหมือนว่าว่าบทสนทนานี่จะคุยกันต่อไม่ได้แล้ว ถังจือซย่าลุกขึ้นมาแล้วพูดอย่างฉลาดว่า “ขอบคุณประธานสีสำหรับการดูแลในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดึกมากแล้ว พวกเราควรจะพักผ่อนแล้ว ฝันดีนะ”
พอถังจือซย่าพูดจบก็เดินไป ในตอนนี้เดินผ่านผู้ชาย ผู้ชายเองก็ลุกขึ้นมา มือใหญ่ของเขาจับข้อมือเธอเอาไว้ พูดออกเสียงขอร้องว่า “อย่าไปเลยนะ อย่าพาเฉินเฉินไปจากฉันเลยนะ”
ฝีเท้าของถังจือซย่าชะงักไป หัวใจเต้นแรง
ผู้ชายคนนี้พูดอะไร
พูดราวกับว่าการจากไปของเธอในครั้งนี้เป็นการทอดทิ้งเขาอย่างงั้นแหละ
“ประธานสี…กรุณาปล่อยมือด้วย” ถังจือซย่าไม่กล้าที่จะหันหลังไป
“ถังจือซย่า หันหลังคุยกับคนอื่นมันไม่มีมารยาทเลยนะ มองที่ตาของฉันแล้วพูด” พอพูดจบ ผู้ชายก็จับไหล่ของเธอแล้วให้หันมา มือใหญ่บีบคางของเธอเอาไว้ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมา
พอถังจือซย่าเงยหน้าขึ้น ก็มองเข้าไปในตาของผู้ชาย เห็นความหวังและความอ่อนแอเล็กน้อยภายในตาของเขา ขนตายาวปกคลุมอยู่เหนือนัยน์ตา สะท้อนให้เห็นตัวเล็กๆ อย่างเธอ
“สีจิ่วเฉิน อย่าทำแบบนี้…”
สีจิ่วเฉินปล่อยเธออย่างพ่ายแพ้ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าจะให้วิธีอะไรรั้งให้เธออยู่ข้างๆ เขา
ถังจือซย่าเดินถอยไปก้าวหนึ่งแล้วหันหลังกลับห้องไป แต่ยังคงรู้สึกถึงสายตาที่มีความกดดันเล็กน้อยของผู้ชายมองเธอจากข้างหลัง
เธอยังคงตัดสินใจที่จะพาลูกกลับบ้านพรุ่งนี้ เธอจะกลับไปทำงานเหมือนเดิม แล้วก็จะเปลี่ยนโรงเรียนอนุบาลเอกชนที่มีระบบความปลอดภัยที่ดีกว่านี้ให้กับลูก
ในค่ำคืนนี้ ถังจือซย่านอนไม่หลับ ผู้ชายในห้องนอนหลักก็นอนไม่หลับเช่นเดียวกัน
เช้าของวันต่อมา
ถังจือซย่ากำลังเก็บของ สีจิ่วเฉินเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา ถังจือซย่าเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วพูดกับเขาว่า “รบกวนคุณไปส่งพวกเราหน่อย”
“โรงเรียนของเฉินเฉินต้องเปลี่ยนแล้ว”
“ฉันรู้ ฉันจะไปติดต่อโรงเรียนที่ดีกว่านี้”
“ไม่ต้องแล้ว ฉันติดต่อโรงเรียนอนุบาลชั้นนำไว้แล้ว พยายามเอามาให้เฉินเฉินได้ที่หนึ่ง พรุ่งนี้ก็เข้าเรียนได้แล้ว”
ประมาณสิบโมง สีจิ่วเฉินขับรถไปส่งพวกเขาแม่ลูกกลับบ้าน หลังจากหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงหมู่บ้านที่ถังจือซย่าอาศัยอยู่ พอผลักประตูบ้านเธอออก ทันใดนั้นก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาไม่น้อย
“ประธานสี ถ้าคุณงานยุ่ง ฉันไม่ไปส่งดีกว่า” ถังจือซย่าพูดกับผู้ชาย
“ไม่ยุ่งเลย” สีจิ่วเฉินนั่งอยู่กับเจ้าตัวเล็กบนโซฟา
ส่วนถังจือซย่าเองก็เริ่มที่จะเก็บกวาดขึ้นมา เธอเดินไปเดินมายุ่งอยู่กับงานในห้องร้อยกว่าตารางเมตร ไม่นานนัก ภายในบ้านก็ราวกับว่าถูกเปลี่ยนโฉมใหม่ไปเลย
ถังจือซย่าเพิ่งจะลุกขึ้นมา ก็มีคนส่งน้ำมาจากข้างๆ เห็นว่าลูกเป็นคนถือมา เธอจึงยิ้มแล้วดื่มน้ำ “เฉินเฉินเก่งที่สุดเลย”
“หม่ามี้พักก่อนนะครับ!”
“หม่ามี้ไม่เหนื่อย”
หลังจากเก็บกวาดบ้านเสร็จ ถังจือซย่าก็ลงไปซื้อของทำอาหารเย็นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตข้างล่าง ยุ่งจนถึงเวลาพลบค่ำ สีจิ่วเฉินยังอยู่ ผู้ชายคนนี้เหมือนจะไม่ยอมออกไปจากบ้านของเธอเลย
ตอนเย็น ถังจือซย่าลงครัวทำอาหารเย็นเอง สีจิ่วเฉินกินอาหารเย็นแล้วถึงจะกลับ ก่อนกลับยังพูดอีกว่า “พรุ่งนี้ฉันมารับเฉินเฉินไปเรียน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...