ถังจือซย่าถอนหายใจ นี่เป็นสิ่งที่สมาชิกใหม่มักจะทำเป็นประจำเพื่อซื้อใจคน เธอจึงรับกาแฟมาดื่มอย่างไม่เกรงใจ
“พี่จือซย่า ทุกคนน่ะต่างพูดว่าดีไซเนอร์หลินเป็นญาติกับประธานสี พี่ว่าใช่หรือเปล่า?” หลี่เสี่ยวซินวิ่งมาหาเธอที่นี่เพื่อมาคุยเรื่องซุบซิบนินทา
ถังจือซย่ายิ้มพลางส่ายหัว “ฉันไม่รู้”
หลี่เสี่ยวซินกระพริบตาด้วยความผิดหวังเล็กน้อย “พี่ก็ไม่รู้เหรอ!”
ถังจือซย่าไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น เธอไม่สามารถพูดเรื่องซุบซิบนินทาพวกนี้ออกไปได้ ถึงแม้จะรู้ว่าหลินจิงจิงเป็นลูกสาวเพื่อนพ่อของสีจิ่วเฉินก็ตาม เธอก็จะไม่พูดอะไรทั้งนั้น
“เลิกนินทาแล้วไปทำงานซะ!” ถังจือซย่าพูดตัดบทธอ
หลินจิงจิงจะมาทำงานในหอรุ่ยเป่า แต่ในแง่มุมสัมผัสที่หกของผู้หญิงอย่างเธอ เธอไม่ได้มาเพื่อทำงาน แต่มาเพื่อสีจิ่วเฉินต่างหากล่ะ
เหอะ มีคนจ้องเข้าหาสีจิ่วเฉินเพิ่มอีกคนแล้วสิ
คนที่อยากเข้าหาเขามีมากเสียจนทำอย่างไรก็คงกีดกันไม่ไหว ผู้หญิงคนไหนที่จะแต่งงานกับผู้ชายประเภทนี้ ต่างต้องใจสลาย เพราะแม้ว่าเขาจะไม่ได้เริ่มเข้าหาผู้หญิงก่อน ก็ต่างมีคนจำนวนไม่น้อยถาโถมเข้ามาใส่เขา
ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ออฟฟิศที่อยู่ตรงหน้าเธอก็ดังขึ้น เธอจึงเอื้อมมือไปรับ “สวัสดีค่ะ”
“ตอนบ่ายฉันไปรับเฉินเฉินเป็นเพื่อนเธอไม่ได้แล้วล่ะ ไว้ฉันไปเป็นเพื่อนเธอพรุ่งนี้นะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มจากปลายสายแฝงไปด้วยคำขอโทษ
ถังจือซย่าเข้าใจในทันที เขามีนัดทานข้าวกับครอบครัวในตอนค่ำ ไม่มีเวลาไปรับลูกชายกับเธออย่างแน่นอน
“ไม่เป็นไรค่ะ ประธานสีมีเรื่องที่ต้องทำตั้งเยอะแยะ ต่อไปไม่ต้องกังวลเรื่องไปรับเฉินเฉินแล้วนะคะ” ถังจือซย่าพูดด้วยความเกรงใจ
“โกรธเหรอ?” เสียงต่ำน่าดึงดูดของชายหนุ่มมีความยั่วเย้าเล็กน้อย
“ฉันจะโกรธทำไมล่ะ ประธานสีคิดมากไปแล้วค่ะ” ถังจือซย่าไม่ได้โกรธอะไร
ชายที่อยู่ปลายสายยังคงอธิบายว่า “ตอนเย็นผมมีงานเลี้ยงที่ปฏิเสธไม่ได้น่ะ”
“ประธานสีไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้ฉันฟังหรอก” ถังจือซย่าพูดจบก็วางสาย เธอลุกออกไปอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย และไปเอาน้ำมะนาวที่ห้องชงชามาดื่ม เธอถือแก้วน้ำมะนาวและตั้งใจจะมาหาที่นั่ง ก่อนจะได้ยินเสียงคนกำลังเดินเข้าประตูมา
พนักงานชายโสดผู้หนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับหลินจิงจิง “ดีไซเนอร์หลินครับ เย็นนี้ว่างไหม ไปทานข้าวกับผมสักมื้อนะครับ!”
ถังจือซย่ารีบปฏิเสธทันที “ไม่ๆ ฉันกับประธานสีเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องกัน ก็เท่านั้นเอง”
หลินจิงจิงแอบตกตะลึงในใจ ถังจือซย่าปฏิเสธความสัมพันธ์กับสีจิ่วเฉินงั้นเหรอ?
“พี่จือซย่า ฉันเพิ่งมาบริษัทครั้งแรก ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
“เธอวางใจเถอะ ประธานสีจะต้องดูแลเธอเป็นอย่างดีแน่นอน” ถังจือซย่าพูดปลอบเธอ
หลินจิงจิงเกิดความฉงนในใจ ถังจือซย่าไม่หึงสักนิดเลยเหรอ? ไม่ใช่ว่าเธอเองก็ชอบสีจิ่วเฉินมากเหมือนกันหรอกเหรอ? ข่าวกรองของพ่อบุญธรรมผิดพลาดหรือเปล่า?
“พี่จือซย่า พี่ชอบประธานสีไหม” หลินจิงจิงถามตรงๆ
พรึ่ด!
ถังจือซย่าสำลักชามะนาว เธอไอเบาๆ ก่อนจะพูด “ฉันบอกไปแล้วไงว่าฉันกับประธานสีเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องกัน แม้คุณหลินจะได้ยินคำนินทาอะไรเข้าก็ตาม อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาดเลยนะคะ! ฉันกับประธานสีไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรเกินเลยกันจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...