แต่ดันยกเว้นสิ่งนี้ เขาคือคนที่ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
ถังจือซย่าออกมาจากห้องทำงาน และถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณของชายผู้นี้เยอะจนเกินไป เพราะเธอกลัวว่าวันหนึ่งตนเองจะทดแทนบุญคุณเขาได้ไม่หมด
ฉะนั้น เพื่อไม่ให้ตนเองก้าวไปถึงขั้นนั้น เธอจึงปฏิเสธทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้
เวลาบ่ายสามโมงการประชุมประจำเริ่มขึ้น
เป็นไปตามคาด มันคือการแนะนำนักออกแบบผู้หนึ่งที่ทางการส่งมา นามว่าหลินจิงจิง หลี่เหมยแนะนำเธออย่างยิ่งใหญ่ ในบรรดานักออกแบบทั้งหลาย นอกจากเพื่อนร่วมงานชายแล้ว ความกระตือรือร้นของเพื่อนร่วมงานหญิงก็ดูจะขาดๆ หายๆ ไปบ้าง เพราะมีประโยคที่ว่า สาวงามย่อมเกิดมาเป็นศัตรู และยิ่งไม่ต้องพูดถึง คู่แข่งที่ไม่ทราบพละกำลังเพิ่มขึ้นมาอีกราย ใครจะไปดีใจ?
“สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อหลินจิงจิงนะคะ จบการศึกษาจากสถาบันการออกแบบที่ประเทศฝรั่งเศส เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเครื่องประดับค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ” หลินจิงจิงก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าการศึกษาที่เธอได้รับมาตั้งแต่ยังเด็ก จะกลายเป็นหนึ่งในความสามารถพิเศษเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับสีจิ่วเฉินอย่างพอดิบพอดี
เห็นได้ชัดว่าไอ้หย่ายิ่งหงุดหงิดมากขึ้น เรื่องถังจือซย่ายังจัดการไม่เสร็จ ก็มีหลินจิงจิงมาอีก
ถังจือซย่าก็ยังรู้สึกกดดันเล็กน้อย หอรุ่ยเป่าจะเปิดตัวเครื่องประดับขนาดใหญ่ทันทีในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า มีโอกาสที่จะได้แสดงความสามารถพิเศษของตนเอง และเธอเองก็อยากจะใช้โอกาสนี้ทำออกมาให้ดีที่สุด
“เอาล่ะ ลำดับต่อมาพูดถึงเรื่องงานแสดงเครื่องประดับช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิกัน เนื่องจากเรากลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ภายใต้สังกัดของQR สถานที่จัดแสดงเครื่องประดับในครั้งนี้จัดขึ้นในประเทศ เราจะต้องคว้าโอกาสในการอวดโฉมรูปแบบของเราในงานนี้ บริษัทก็ยังสนับสนุนอย่างยิ่งที่จะให้เราเหล่านักออกแบบเข้าร่วมการแข่งขันด้วย” หลี่เหมยพูดจบ ก่อนจะพูดด้วยแววตาลุ่มลึก “นี่คืองานแสดงเครื่องประดับมูลค่าหลายสิบล้านเชียวนะ”
“จะสามารถมีชื่อเสียงและก้าวสู่เวทีระดับโลกได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของพวกคุณแล้ว สู้เข้านะ! เวลาหมดเขตส่งแบบร่างคือสิ้นเดือนนี้”
ในตอนท้ายของการประชุม ถังจือซย่ากำลังเก็บโต๊ะอยู่ หลินจิงจิงก็เข้ามาทักทายด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรอย่างมาก “สวัสดีค่ะคุณถัง เราเพิ่งจะพบกันตรงห้องทำงานของประธานสีเมื่อครู่นี้น่ะค่ะ”
“ความผิดฉันเองที่เข้าไปรบกวนพวกคุณ” ถังจือซย่ายิ้มบางๆ
หลินจิงจิงยิ้มมุมปาก “ไม่หรอก เราคุยกันเสร็จก่อนแล้ว”
เธอตัดสินใจที่จะเป็นเพื่อนที่ดีกับถังจือซย่าเพื่อจะได้รับความไว้วางใจจากเธอก่อน จากนั้นก็ค่อยหาโอกาสทำให้เธอหายไปจากข้างกายสีจิ่วเฉิน
ถังจือซย่านั่งอยู่ในห้องทำงาน หลี่เหมยมอบหมายให้เธอทุ่มเทและให้ความสำคัญกับงานแสดงเครื่องประดับในครั้งนี้ เพราะบริษัทคาดหวังกับโอกาสพัฒนาในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นานหลี่เสี่ยวซินก็ผลักประตูเข้ามา ในมือถือแก้วกาแฟและหันมาพูดกับถังจือซย่าว่า “พี่จือซย่า รับสิ นี่ส่งมาให้พี่น่ะ”
ถังจือซย่ามองที่กาแฟและขมวดคิ้วเล็กน้อย “ใครส่งมาให้?”
“พี่ไม่รู้เหรอว่าดีไซเนอร์หลินเลี้ยงกาแฟพวกเราทั้งออฟฟิศน่ะ แถมยังเป็นกาแฟสดด้วยนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...