ต่อให้ถามจางเหลียงอีกครั้งคงไม่ได้รับข้อเพิ่มเติมอีก ฉู่เฮ่าควักเงินออกมาให้เขาสองล้านหยวน คนแบบนี้ไม่สมควรได้รับเงินมากไปกว่านี้
เวลาเช้าตรู่
ถังจือซย่าตื่นมาด้วยความมึนงง เมื่อเธอได้ยินเสียงลูกชายและเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง เธอจึงลุกขึ้นทันทีและเดินออกจากห้องโถงเพื่อมองหาสีจิ่วเฉิน จึงได้เห็นลูกชายของเธอเล่นกำลังนั่งเล่นรูบิกอยู่บนโซฟา
“หม่ามี๊ คุณอาสีห่ออาหารเช้ามาให้ หม่ามี๊มากินเร็ว” เด็กน้อยพูดกับเธอ
ถังจือซย่าเห็นอาหารเช้าบนโต๊ะ “จ้ะ เดี๋ยวแม่ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนค่อยมาทานอาหารนะ
”
หลังอาหารเช้า สีจิ่วเฉินต้องออกไปข้างนอก ฉู่เฮ่ายืนรอรับเขาอยู่ที่ประตู สีจิ่วเฉิน กล่าวด้วยเสียงต่ำ “มีอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดเวลา”
“ผู้ช่วยฉู่ คุณช่วยดูแลเขาให้ดีๆ ถ้าไม่มีธุระอะไรอย่าส่งเขามาที่บ้านของฉันอีก” ถังจือซย่าพูดกับฉู่เฮ่าโดยไม่สนใจสีจิ่วเฉิน
ไม่คิดถึงความรู้สึกของเขาบ้างเลยเหรอ
“คุณถัง ประธานสีพักผ่อนที่บ้านของคุณเพียงแค่คืนเดียว สภาพจิตใจของเขาก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม พวกคุณไม่ต้องมาหาฉันอีกแล้ว” หลังจากถังจือซย่าพูดจบ เธอจงใจไม่มองไปที่ชายคนนั้นและปิดประตูอย่างเงียบ ๆ
สีจิ่วเฉินและฉู่เฮ่ากลับไปที่รถ ก่อนที่ฉู่จะเฮ่ารายงานการสอบสวนเมื่อคืน สีจิ่วเฉินขมวดคิ้วแน่น “ทำไมถึงบังเอิญขนาดนี้”
“ผมก็คิดเหมือนกันครับว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ฐานข้อมูลจะเกี่ยวข้องกับการละเมิดคุณถังเมื่อห้าปีก่อนหรือเปล่า”
“ยังมีวิธีอื่นอีกไหม”
“ผมคิดออกอยู่วิธีหนึ่งครับ ผู้หญิงคนนั้นลบหมายเลขโทรศัพท์ของจางเหลียงออกไปก็จริง แต่บริษัทเครือข่ายผู้ให้บริการจะบันทึกมันเอาไว้แน่ ผมจะค้นหาบันทึกการโทรของจางเหลียง เพื่อค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้นและตรวจสอบต่อไปครับ” ฉู่เฮ่ากล่าว
สีจิ่วเฉินชื่นชมวิธีการของเขา ก่อนจะพูดต่อว่า “ส่งฉันกลับไปที่บ้าน”
ถึงเวลาไปพบคุณย่าและถามถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น แล้ว ถ้าคุณย่าใช้กำลังข่มขู่นายกเทศมนตรีเพื่อช่วยชีวิตเขาจริง นั่นเท่ากับว่าเขเป็นหนี้ตระกูลถัง ไม่สามารถชดเชยด้วยเงินและความเสน่หาได้
แต่สีจิ่วเฉินกลับจงใจปกปิดความสัมพันธ์กับถังจือซย่า
“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่สงสัยเฉยๆ”
“ตอนนั้นย่าโทรหานายกเทศมนตรีจริงๆ ย่ากลัวจะเสียหลานไป”
“แล้วคุณย่าได้ข่มขู่เขาไหมครับ”
“นิยามคำว่าข่มขู่ของหลานคืออะไรล่ะ ย่าแค่หวังว่าเขาจะโทรหาตำรวจและพยายามช่วยหลานให้ดีที่สุด ตลาดหุ้นในปีนั้นผันผวนมาก แต่หลานถูกลักพาตัวไป ย่าก็เลยไม่มีกะจิตกะใจเล่นหุ้น นายกเทศมนตรีบอกกับย่าว่าเขาจะช่วยหลานได้แน่ และให้ย่าใช้อำนาจของสีเอ็มไพร์กรุ๊ปเพื่อรักษาตลาดหุ้น เหตุการณ์ในปีนั้นมันเลวร้ายมากจริงๆ”
หัวใจของสีจิ่วเฉินสั่นสะท้าน นั่นแปลว่าคุณย่าไม่ได้ข่มขู่นายกเทศมนตรี แต่นายกเทศมนตรีให้ความมั่นใจกับคุณย่าว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือเขาและรักษาสถานการณ์ตลาดหุ้น?
สีรุ่ยหมิงเป็นคนที่เจ้าเล่ห์จริงๆ เขาบิดเบือนความจริงต่อหน้าถังจือซย่า
ถังจือซย่าคิดว่าคุณย่าของเขาที่ทำให้เกิดสงครามในตลาดหุ้น และบีบบังคับให้นายกเทศมนตรีสั่งให้ตำรวจช่วยชีวิตผู้คน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...