มาจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังคงเกลียดถังจือซย่า เป็นเพราะเธอทำให้เธอกลายมาเป็นแบบนี้
สิ้นปีใกล้เข้ามา มีการจัดเตรียมงานฉลองภายในหอรุ่ยเป่า และเช้านี้ หลี่เหมยโทรหาถังจือซย่า
“ฮัลโหล!” ถังจือซย่ายังคงนอนเกียจคร้านอยู่บนเตียง
ผ้านวมหนาๆ ผืนนี้นี่มันนุ่มสบายจริงๆ!
“ทำไมหรือ เมื่อคืนเหนื่อยมากเลยหรือไงจ๊ะ” หลี่เหมยแซวติดเรตกับเธอทันที
ถังจือซย่าหัวเราะ “พี่เหมย พี่คิดไปถึงไหนน่ะ”
“ทำไมล่ะ ไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดหรือประธานสีไม่ได้นอนอยู่ข้างๆ เธอหรอกหรือ!”
“พี่เหมย เราสองคนยังไม่ได้ไปถึงขนาดนั้นค่ะ!” ถังจือซย่าโต้เธอขณะที่นอนซุกผ้าห่ม
หลี่เหมยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เป็นไปไม่ได้! จือซย่า เธออยู่กับเขาตลอดเวลา เธอสองคนทนมาได้ถึงขนาดนี้หรือ นับถือเธอจริงๆ” หลี่เหมยไม่ล้อเธอเล่นแล้ว และพูดเรื่องที่จะโทรมา “ที่หอรุ่ยเป่าได้จัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองสิ้นปีมาตั้งแต่ครึ่งเดือนที่แล้ว เธอมีเวลามาร่วมงานไหม”
“จริงหรือคะ ฉันอยากไป” ถังจือซย่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะไปร่วมงาน
“ได้ ถ้าอย่างนั้นเธอถามประธานสีดูด้วยว่า เขามีเวลาไปร่วมงานด้วยไหมรองประธานหลี่หยางให้ฉันมาถามเธอดู” หลี่เหมยกล่าว
หลี่หยางเป็นหัวหน้าแผนกต่างประเทศ โดยปกติแล้ว ถังจือซย่าไม่ค่อยได้เจอเขาเท่าไหร่ แต่หอรุ่ยเป่าจะไม่สามารถเจริญรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้ได้ หากไม่มีเขา
“ได้ค่ะ ฉันจะถามเขาดู”
“ครั้งนี้เราจัดค่อนข้างยิ่งใหญ่เรายังเชิญพิธีกรและนักร้องมาด้วยนะ"
“นักร้องคนไหนจะมาคะ”
“ที่เรารู้จักกันดี ก็มีหวังซิงเฮ่า กับหวงชิน”
ถังจือซย่าพูดด้วยความตื่นเต้น “ฉันชอบหวังซิงเฮ่า”
ถังจือซย่าไม่รู้ว่าเธอควรจะมองลูกชาย หรือว่ามองเขา แต่ต้องยอมรับว่า วันนี้ลูกชายของเธอไม่ได้สะดุดตาไปกว่าชายคนนี้เลย
ดังนั้น เธอรู้สึกผิดต่อลูกชายเล็กน้อย เขาเตะบอลอย่างเต็มที่ แต่หม่ามี้ของเขากลับจดจ้องไปที่ผู้ชายอีกคนด้วยความเคลิบเคลิ้ม
ในที่สุด เด็กน้อยก็วิ่งเข้ามากอดเธอ พร้อมเหงื่อเต็มหน้า “หม่ามี้ ผมเตะบอลเก่งมั้ยครับ”
“อืม เก่งมากเลยจ้ะ” ถังจือซย่าหอมเขาฟอดหนึ่ง
สีจิ่วเฉินเดินเข้ามา พร้อมกับผ้าเช็ดหน้าในมือผืนหนึ่ง แล้วนำผ้าที่พาดอยู่ที่ตัวของเด็กน้อยมาเปลี่ยนผืนใหม่ให้อย่างใส่ใจ ความละเอียดนี้ทำให้ถังจือซย่ารู้สึกซึ้งใจ และละอายใจเล็กน้อย เธอผู้เป็นแม่ยังไม่มีความละเอียดอ่อนขนาดนี้เลย
ถังอวี่เฉินเปรียบเสมือนลูกชายแท้ๆ ของสีจิ่วเฉิน ทุกการเคลื่อนไหวของเขา ส่งผลต่ออารมณ์ความคิดของชายคนนี้ และเพราะความเป็นห่วงเป็นใย เขาจึงคิดอยู่เสมอว่าควรจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรให้ดียิ่งๆ ขึ้น
เด็กน้อยเปลี่ยนผ้าเช็ดหน้าแล้วก็วิ่งเข้าไปในสนามหญ้าอีกครั้ง สีจิ่วเฉินนั่งลงข้างๆ ถังจือซย่านึกถึงเรื่องงานฉลองสิ้นปีขึ้นมาได้ จึงถามเขาว่า “วันศุกร์นี้มีงานฉลองที่หอรุ่ยเป่า คุณมีเวลาไปร่วมงานไหมคะ”
“อ่อ หลี่หยางมีบอกฉันแล้ว แต่ฉันไม่ว่าง” สีจิ่วเฉินเอียงคอขึ้นมาตอบเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...