รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 489

หญิงสาวคนนี้หอบจนต้องสางผม “ให้ตายสิ จะวิ่งเร็วไปไหนกัน” 

ในเวลานี้ ข้างหลังเธอ ก็มีผู้ชายหกคนเข้ามาล้อมรอบตัวเธอเอาไว้ โดยทำการล้อมเธอเอาไว้ให้อยู่ตรงกลาง ภายใต้เงามืดดำๆ แววตาคู่นั้นของหญิงสาวใสจนเห็นได้อย่างชัดเจนราวกับน้ำใสๆ เผยให้เห็นถึงความรู้สึกจนใจ 

โดนจับได้อีกแล้ว 

“คุณหนู นายท่านบอกไว้ว่า หากยังมาเที่ยงเล่นในไนต์คลับหรือบาร์อีกครั้ง บัตรเครดิตที่เป็นชื่อของคุณหนู จะถูกอายัดทั้งหมด” 

“ทราบแล้วค่า คุณอากวน” หญิงสาวกัดริมฝีปากและกลืนน้ำลายเล็กน้อย 

“คุณหนู คุณวิ่งออกมาคนเดียวแบบนี้ มันอันตรายมากเลยนะ” 

“ก็แค่อยากลองสัมผัสกับการใช้ชีวิตก็เท่านั้นเองไม่ได้เหรอ?” 

“นายท่านยังบอกอีกว่า ขอให้คุณหนูเตรียมตัวให้ดีกับการหมั้นหมายกับนายน้อยอวี๋ ไม่สามารถเลื่อนออกไปได้อีกแล้ว” 

หญิงสาวพองแก้มขึ้น เมื่อลมพัดผ่าน ผมยาวๆก็ปลิวไสว ถึงแม้ว่าจะแต่งหน้าหนาๆ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังใบหน้าเล็กๆเท่าฝ่ามือที่รูปหน้าได้รูปและงดงามได้

รถลีมูซีนสีดำขับมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอเข้าไปนั่ง ที่หลังคอที่โดนบีบยังมีความรู้สึกเจ็บอยู่ เธอเปิดไฟรถเหนือหัว มองดูอัญมณีเม็ดกลมที่อยู่ในมือ เจ้าเพชรเม็ดนี้ทั้งใหญ่และหาได้ยากจริงๆ ตัวเพชรเม็ดกลมสมบูรณ์แบบอีกทั้งยังกลมมนตามธรรมชาติเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นคงมีค่าเป็นอย่างมาก! 

เฮ้อ! จะไปคืนให้ผู้ชายคนนั้นยังไง? หญิงสาวเอามือเท้าคางอย่างลำบากใจ 

ในเวลานี้เอง มือถือของเธอก็มีข้อความดังเข้ามา “คุณหนู เอกสารทั้งหมดของคุณเอาออกมาให้หมดแล้ว ไปเจอกันที่ร้านกาแฟในสนามบิน ไฟล์บินคือตอนเที่ยงคืน คุณหนูรีบไปที่สนามบินเถอะ!” 

หญิงสาวยกริมฝีปากแดงขึ้นๆ หันไปพูดกับคนขับรถที่นั่งอยู่ด้านหน้า “คุณอากวน ไปรับเพื่อนกับฉันที่สนามบินหน่อยนะ” 

“คุณหนู...เลิกเล่นลูกไม้เถอะครับ” 

“ฉันไม่ได้เล่นลูกไม้อะไรเสียหน่อย ฉันมีเพื่อนที่รอฉันไปรับอยู่ที่สนามบินจริงๆนะ คุณอากวนขอร้องล่ะ เธอมาเพื่อร่วมฉลองงานหมั้นของฉัน” หญิงสาวทำเสียงออดอ้อน 

ชายหนุ่มวัยกลางคนที่ขับรถอยู่ถอนหายใจออกมา และให้บอดี้การ์ดขับรถไปยังทิศทางของสนามบิน

ภายในโรงแรม 

เจียนจือเพ่ยที่เพิ่งกลับมาถึงห้องในโรงแรม รู้สึกว่าที่คอเหมือนมีของบางอย่างขาดหายไป ตอนที่เขาเอื้อมมือไปคว้านหาสร้อยที่อยู่บนคอนั้น รู้สึกว่าตัวสร้อยที่ปกติจะมีน้ำหนัก อยู่ ๆ ก็เบาลงอย่างน่าประหลาดใจ เขาจึงแหวกเสื้อผ้าออกดู จึงเห็นว่าที่ปลายห่วงนั้น ไม่พบสมบัติที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลเขาเสียแล้ว

บอดี้การ์ดรับขานรับคำสั่งทันที “ครับ พวกเราจะรีบไปหาทันที” 

ณ สนามบิน 

ภายในร้านกาแฟ มีหญิงสาวคนหนึ่งถือกระเป๋าหนีออกไปทางประตูอีกด้านหนึ่งของร้านกาแฟ ขณะที่บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ตรงหน้าประตูกลับไม่ทันได้สังเกตเห็น สิบนาทีต่อมา หญิงสาวก็มาทันเที่ยวบินของเธอ และนั่งลงในที่นั่งชั้นหนึ่งเรียบร้อย เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก และก็นำข้อความที่ร่างเอาไว้ระหว่างทางที่มาส่งออกไป “พ่อค่ะ หนูไม่อยากหมั้น หนูไปก่อนนะ ยกโทษให้ลูกที่อกตัญญู” 

ส่งข้อความเสร็จ ก็ปิดเครีองทันที หญิงสาวรู้สึกว่าโลกทั้งใบสงบลงแล้ว ใบหน้าที่ถูกล้างเครื่องสำอางออกจนหมดจดของเธอ ที่ถูกสาดส่องอยู่ภายใต้แสงไฟนั้น เป็นใบหน้าที่เยาว์วัยแบบคนวันยี่สิบต้นๆ ผิวเนียนใส่ละเอียดอ่อน รูปหน้าสวยงดงาม

เครื่องบินค่อยๆขับเคลื่อนอยู่ที่รันเวย์ก่อนจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ายามราตรี หญิงสาวไม่รู้เลยว่า ในมือของเธอกำลังกำมรดกตกทอดของตระกูลของชายหนุ่มอีกคนอยู่ 

ที่จริงแล้วเธอก็อยากจะเอาไปคืนเขา แต่ว่าเธอรีบร้อนที่จะบินออกนอกประเทศ ไม่มีเวลาที่จะไปหาตามหาเขา ได้เพียงแต่หวังว่าภายภาคหน้าคงมีวาสนาคงได้พบกันอีกครั้ง 

ในคอนโดแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ซ่งซานที่กำลังนั่งรอคังเฮ่าเซวียนกลับมา ในสมองของเธอก็เต็มไปด้วยเรื่องที่ถังจือซย่ากำลังแต่งงานกับสีจิ่วเฉิน 

เธอจะต้องทำยังไงถึงจะหยุดยั้งไม่ให้พวกเขาหมั้นหมายกัน? การหมั้นหมายของพวกเขาเป็นสิ่งที่กำหนดไว้แล้วหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าหากไม่มีเรื่องใหญ่ๆเกิดขึ้น คงไม่สามารถหยุดยั้งการหมั้นหมายในครั้งนี้ได้ 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว