เขาถูกหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งวางแผนหลอกให้ชำระหนี้ที่กู้ยืมมาหลายพันล้านด้วยสิทธิของผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทของเขา ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงถูกขายออกไป และผลกำไรส่วนนั้นของเขาก็ถูกส่งคืนธนาคารทันที แล้วก็ยังถูกให้ชำระบัญชีหนี้สินที่เขากู้ยืมมาในนามของเขาเองด้วย
ซึ่งก็คือหนึ่งพันล้านที่เจียนจือเพ่ยปิดหนี้ให้
เยี่ยกั๋วเหาก็ทั้งรู้สึกอับจนหนทางทั้งรู้สึกโกรธ แต่ถูกหลอกไปแล้ว เขาจึงทำได้แค่ยอมรับความพ่ายแพ้ อีกทั้งเขาก็อยากเกษียณแล้วด้วย
“พ่อ พ่อไปพักผ่อนก่อนดีกว่าค่ะ!” เยี่ยวานวานพูดปลอบโยน เธอยืนอยู่บนราวบันไดชั้นสอง และมองผู้ชายที่กำลังทำงานในคอมพิวเตอร์อยู่บนโซฟาชั้นล่าง บุคลิกของเขาเย็นชา สุขุม แต่กลับมีเสน่ห์
ทำให้จนตอนนี้เธอก็ยังไม่อาจเชื่อได้เลยว่าริมฝีปากบางๆ ของเขาเคยจูบเธอ
วันนี้ถังจือซย่ามาที่บริษัทแต่เช้าตรู่เพื่อเข้าพบลูกค้าที่มาสั่งทำจำนวนสองสามท่าน เดิมทีเธอก็มีอาชีพเป็นนักออกแบบเครื่องประดับอยู่แล้ว เธอปฏิบัติต่อลูกค้าด้วยความใส่ใจและอดทน ถึงแม้ว่าตัวตนของเธอจะเฉิดฉายมากอยู่แล้ว แต่พฤติกรรมการรับลูกค้าด้วยตัวเองของเธอนั้น ทำให้เธอดูน่านับถือมากยิ่งขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หลังจากดื่มกาแฟไปสองแก้ว ก็ได้เจรจากับคุณนายทั้งสามคนเรื่องใบสั่งซื้อสินค้าแบบสั่งทำมูลค่าเกือบสิบล้านเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถังจือซย่าเองก็รู้ว่าตอนนี้อุตสาหกรรมเครื่องประดับได้เข้าสู่ช่วงดุเดือดแล้ว ถ้าเธออยากจะออกจากรูปแบบการบริหารจัดการเดิมจริงๆ ก็ต้องเดินในเส้นทางระดับไฮเอนด์มากยิ่งขึ้น และเธอก็ตั้งใจที่จะพัฒนาหอรุ่ยเป่าให้กลายเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดด้วย
ตอนที่ถังจือซย่าเป็นพนักงาน เธอรู้ว่ามีคนอู้งานแอบซ่อนอยู่ในบริษัทจำนวนไม่น้อย คนเหล่านี้ปะปนอยู่กับผู้บริหารระดับสูง ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ยังได้รับประโยชน์จากเรื่องนั้นๆ ไปเป็นจำนวนมาก
ถังจือซย่าตัดสินใจทำการปฏิรูปและโยกย้ายตำแหน่งพนักงาน
ในห้องประชุม มีหลี่เหมย หลี่หยาง และซ่งอวี้นั่งอยู่ ถังจือซย่าไว้ใจพวกเขาสามคนมากที่สุด
ถังจือซย่ายืนขึ้นอย่างสบายๆ และจ้องมองผู้จัดการคนนี้ด้วยสายตาที่เย็นชาและเฉียบคม “ผู้จัดการชิว จากนี้เป็นต้นไปหอรุ่ยเป่าจะไม่จ่ายเงินที่มากเกินความจำเป็นให้คนที่ไม่มีอะไรทำ ถ้าคุณไม่ให้ความร่วมมือในการโยกย้ายตำแหน่ง ก็ยื่นใบลาออกได้เลยค่ะ ฉันเองก็จะน้อมรับด้วยความยินดีเช่นกัน”
“ถังจือซย่า เธอก็เป็นนักออกแบบที่ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งสูงเหมือนกันไม่ใช่เหรอ เธอก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันหรอกมีอะไรให้ทำตัวอวดดีขนาดนี้ด้วยเหรอ” ชิวกั๋วจื้อเย้ยหยัน “ไม่พึ่งหน้าสวยๆ ของเธอไปอ่อยผู้ชายแบบสีจิ่วเฉินแล้วเหรอ ตอนที่ยังเธอไม่ได้เข้ามาทำงานที่หอรุ่ยเป่า ฉันก็นั่งอยู่ที่ตำแหน่งผู้จัดการ ตอนนี้เธอกล้าดียังไงถึงได้มาลดตำแหน่งของฉัน”
ถังจือซย่าก็ไม่ได้คิดที่จะให้ท้ายใคร เธอจึงพูดออกไปอย่างเย็นชาว่า “เนื่องจากตอนนี้ฉันเป็นเจ้านายของหอรุ่ยเป่า ฉันจึงมีสิทธิ์ในการตัดสินใจทำทุกสิ่งทุกอย่าง”
“ถังจือซย่า โยกย้ายตำแหน่งน่ะได้ แต่ลดเงินเดือนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นฉันจะพาคนของฉันหยุดงานประท้วงกันให้หมด” ชิวกั๋วจื้อเองก็มีสถานะที่มีอำนาจที่นี่และมีลูกน้องอยู่ไม่น้อยเลยด้วย
“ถ้าคุณมีปัญญา คุณก็ลองดู มาดูกันว่าหลักฐานในมือของฉันจะทำให้คุณเข้าไปอยู่ในคุกก่อน หรือว่าคุณจะก่อเรื่องอยู่ที่นี่ได้เร็วกว่า” หลังจากถังจือซย่าพูดจบ เธอก็ร่ายความผิดทางอาชญากรรมของเขาอย่างเย็นชา “เงินที่คุณฉกออกไปเข้ากระเป๋าตัวเอง ถ้าไม่ถึงหนึ่งพันล้าน ก็ต้องถึงแปดร้อยล้านแน่นอน คุณคิดว่าฉันไม่รู้จริงๆ เหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...