เจียนจือเพ่ยถามกลับ “ทำไมให้ฉันไปไหว้ล่ะ เธอไม่ไหว้เหรอ?”
เยี่ยวานวานยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ “ฉันไม่เอาหรอก ถึงอย่างไร ฉันก็จะไม่แต่งงานก่อนอายุสามสิบแน่”
เจียนจือเพ่ยก็ไม่ได้เข้าไปไหว้เช่นกัน เพราะเขาก็ไม่ได้วางแผนว่าจะแต่งงานด้วย
และในขณะนั้นเอง จู่ๆ ฝนในฤดูร้อนก็ตกลงมาทันทีที่พูดออกมา ทั้งสองจึงถูกขังอยู่ในวัดบนภูเขา และก็ถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่ของวัดเลิกงานแล้ว พวกเขาลืมไปว่ายังมีแขกอีกสองคนที่ขึ้นไปในตอนสุดท้าย ดังนั้นพวกเขาจึงล็อคประตูและเลิกงานไปแล้ว
สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างหนาแน่น และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลยสักนิด
เยี่ยวานวานมองดูเวลา และก็อดไม่ได้ที่จะหันไปพูดกับเจียนจือเพ่ย “ไม่แน่ว่าเจ้าหน้าที่อาจจะเลิกงานไปแล้ว และก็ขังเราไว้ที่นี่น่ะ!”
“ฝนตกหนักขนาดนี้ จะไปกันยังไง?” ผิดกับเจียนจือเพ่ยที่มีความคิดพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้
“มันจะไม่ตกถึงตอนกลางคืนเลยหรือไง!” เยี่ยวานวานเอามือทั้งสองข้างจับหน้าของตัวเองแล้วบ่นอุบเบาๆ
แต่ไม่นาน เธอก็รู้สึกว่าลักษณะของหยาดฝนที่โปรยปรายลงมาจากชายคานั้นช่างงดงามยิ่งนัก เธอจึงยื่นมือไปรองน้ำตรงนั้นเล่น
สีของท้องฟ้าที่ห่างไกลออกไปค่อยๆ เปลี่ยนเป็นครึ้มลง และถึงเวลาฟ้ามืด
วัดบนภูเขาด้านหลังก็มืดสนิทและเงียบสงบ
“ถ้างั้นเราลงไปกันดีกว่า” เยี่ยวานวานหันไปพูดกับเขา “เปียกลงไปเลย”
เจียนจือเพ่ยพยักหน้า ทั้งสองจึงเดินฝ่าสายฝนไป และในขณะที่ลงบันไดนั้น จู่ๆ มือของชายหนุ่มก็ยื่นออกมา “ให้ฉันจูงมือเธอสิ”
“ไม่ต้องๆ ...” เยี่ยวานวานโบกไม้โบกมือ
“ฉันกลัวเธอหลง” เจียนจือเพ่ยไม่อยากจะกังวลเช่นนั้น ผู้หญิงคนนี้ซุ่มซ่ามอยู่หลายครั้งจนนับไม่ถ้วน มันทำให้เขาไม่สามารถเดาได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอันตรายอะไรกับเธอบ้างจริงๆ
เยี่ยวานวานยื่นมือไปให้เขาอย่างไม่มีทางเลือก ทั้งสองจึงจูงมือเดินเปียกฝนลงบันไดไป อันที่จริงมันก็มีความรู้สึกโรแมนติกอยู่บ้างล่ะนะ
ในที่สุดก็ลงมาถึงชั้นล่างแล้ว เยี่ยวานวานตะโกนอยู่ประมาณสองสามครั้ง และก็ไม่มีใครตอบกลับมา เธออดไม่ได้ที่จะตบปากตัวเอง “ฉันนี่มันปากพล่อยจริงๆ ไม่คิดว่าจะพูดถูก พวกเขาเลิกงานกันไปแล้วจริงๆ ด้วย”
เยี่ยวานวานขยับไปมาบนกำแพงอย่างกังวล ในขณะที่เตรียมจะเปลี่ยนตำแหน่ง และทันใดนั้น “อ๊ะ...”
เธอกระโดดที่ไหนกัน? เธอล้มลงมาต่างหากล่ะ
โชคดีที่เจียนจือเพ่ยเดาสถานการณ์ออกก่อนแล้ว ในตอนที่เธอร่วงลงมา เขาก็อุ้มเธอไว้ในท่าเจ้าสาว เยี่ยวานวานตกใจกลัว จึงกอดคอของเขาไว้แน่น ใบหน้าเล็กๆ ฝังลงบนกระดูกไหปลาร้าของเขา
เสื้อผ้าของทั้งสองเปียกซกทั้งตัว อ้อมกอดที่แนบแน่นในตอนนี้ ทำให้ร่างกายท่อนบนของทั้งคู่เหมือนไร้สิ่งกีดขวางใดๆ
“เธอโตมาโดยที่ไม่เป็นอะไรได้ไงเนี่ย?” เจียนจือเพ่ยถามเธออย่างไม่สบอารมณ์
เยี่ยวานวานรู้สึกน้อยอกน้อยใจเป็นอย่างมาก! ตั้งแต่เล็กจนโต เธอโตมาได้โดยที่ไม่เป็นอะไร! แต่พอหลังจากที่ได้มาพบกับเขา เธอก็เจอเหตุการณ์บ่อยขึ้นก็เท่านั้น
เยี่ยวานวานนั่งลงในรถ ด้านนอกหน้าต่างมืดสนิท เจียนจือเพ่ยเปิดเครื่องทำความร้อนในรถ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นสักเท่าไหร่ ผมสีดำขลับปกคลุมระเกะระกะบนหน้าผาก ภายใต้แสงไฟในรถ เสื้อเชิ้ตเปียกชื้นบางติดกับผิว ทำให้เห็นร่องกล้ามเนื้อแน่นและแข็งแกร่งของเขาออกมาจากข้างในอย่างไม่มีสาเหตุ
ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ เมื่อเขาเสยผมสีดำขลับบนหน้าผากไปทางด้านหลัง ก็ยิ่งเผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อลากดินมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...