ใจของเยี่ยวานวานอ่อนยวบลง “ขอบคุณค่ะ”
เจียนจือเพ่ยเอากระดาษที่ไว้บนโต๊ะก่อนหน้านี้ มาวางไว้ข้างตัวเธอ “อยากร้องไห้ก็ร้องเลย ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรหาฉันได้เลย”
เยี่ยวานวานอึ้งไปหลายวินาที เธอดูการกระทำของเขาอย่างละเอียด จู่ๆ เธอก็รู้สึกมึนงง เขาจำเธอได้ใช่ไหม ยังชอบเธอเหรอ
แต่คำถามเหล่านี้ มันไม่มีความหมายอะไรแล้ว วันมะรืนก็จะเป็นงานแต่งงานของเขาแล้ว
มันทำให้เธอทนไม่ไหวจนต้องร้องไห้ออกมาอีกรอบ
คนรับใช้ข้างนอกเตรียมอาหารมื้อดึกสองชุด เป็นอาหารเบาๆ อร่อย เจียนจือเพ่ยมาเคาะประตูอีกครั้ง
เยี่ยวานวานเปิดประตูออกมา เปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว เธอเดินกะโผลกกะเผลกออกมา แขนของชายหนุ่มเข้ามาพยุงเธอไว้อย่างเป็นธรรมชาติ เยี่ยวานวานเงยหน้าขึ้นมองเขา สายตาเห็นว่ามีคนรับใช้อยู่ เธอรีบชักมือกลับ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ”
แต่ขณะที่เธอเดินกะเผลกอยู่นั้น แขนที่ถูกผลักออกไป ก็กลับเข้ามาประคองอีกครั้ง
และจับแขนเธอเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอปฏิเสธ
พอได้นั่งที่โต๊ะแล้ว เยี่ยวานวานหิวมากจริงๆ เธอก้มหน้าลงและดื่มโจ๊ก
คนรับใช้รู้ดีว่าควรออกไป ห้องอาหารเงียบสงบ แสงไฟนุ่มนวล แต่ชายตรงข้ามดูไม่ค่อยอยากอาหารนัก แค่มองหญิงสาวร่างผอมบางภายใต้แสงไฟเป็นครั้งคราว
เขาชำเลืองมองที่มือถือของเธออีกครั้ง เขาอยากจะดูหน่อยว่า มีรูปถ่ายของเขาอยู่ในมือถือของเธอหรือเปล่า ระหว่างพวกเขาใกล้ชิดกันไปถึงขั้นไหนแล้ว?
“เธอมีแฟนแล้วจริงๆ เหรอ” เจียนจือเพ่ยถามขึ้นอีกครั้ง ครั้งที่แล้วที่ได้ยินเธอพูด ทำให้เขาค่อนข้างช็อก
เยี่ยวานวานเงยหน้าขึ้น และพยักหน้าอย่างจริงจัง “มีค่ะ”
“พวกเธออยู่ด้วยกันแล้วเหรอ”
“ใช่ค่ะ! เราอยู่ด้วยกันแล้ว” เยี่ยวานวานตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ
เจียนจือเพ่ยวางช้อนลง เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อย เสียงช้อนกระทบกันดังขึ้น
เยี่ยวานวานไม่กล้ายอมรับเรื่องนี้ เธอไม่กล้ายอมรับว่าความเศร้าทั้งหมดของเธอมาจากเขา เธอคนโจ๊กแล้วพูดว่า “ไม่ใช่จริงๆ ค่ะ ฉันเป็นคนขี้แย จะมีหรือไม่มีเรื่องอะไรฉันก็ร้องไห้ได้ทั้งนั้น มันจะดีต่อสุขภาพนะคะ”
ข้อแก้ตัวหามาแถแบบฝืนๆ ไป แต่เธอไม่มีทางอื่นแล้ว ได้แต่พูดต่อไปอย่างขอไปที
เจียนจือเพ่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดูเหมือนหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นไปอีก ส่งเสียงเหอะในคอ “เรื่องไร้สาระแบบนี้ ใครจะเชื่อเธอ?”
“คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่เป็นไรค่ะ คุณชายเจียน ฉันขอให้คุณมีความสุขในวันแต่งงานจากใจจริง และขอให้มีลูกชายไวๆ นะคะ” เยี่ยวานวานเงยหน้าขึ้นพูดกับเขา
เจียนจือเพ่ยกัดริมฝีปาก ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของเธอแปรปรวนผิดปกติ
ถ้าเป็นคนอื่นอวยพรให้ เขาคงไม่มีความรู้สึกอะไร ไม่แม้แต่หรือมีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับ แต่ทำไมพอผู้หญิงคนนี้พูดแบบนั้น กลับทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่เสนาะหู กระทั่งไม่อยากได้ยินคำพวกนี้เลยด้วยซ้ำ
“ฉันจะมีความสุขหลังแต่งงานแล้ว” เจียนจือเพ่ยตอบกลับเธอ ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “ฉันทานเสร็จแล้ว เธอควรพักผ่อนเร็วๆ ด้วยนะ!”
ดูเหมือนว่าเขาจะโมโหโดยไม่มีสาเหตุ พอเจียนจือเพ่ยจากไปแล้วจริงๆ ร่างของเยี่ยวานวานจึงดูโดดเดี่ยวขึ้นมาห้องอาหารห้องใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...