รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 814

“คุณ…นิสัยไม่ดีสุดๆ ไปเลย ” เยี่ยวานวานอดไม่ได้ที่จะใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบไปยังอกแกร่ง

เจียนจือเพ่ยจูบหน้าผากของเธอเพื่อปลอบโยนอารมณ์ “พวกเราลงรถกันเถอะ!”

เยี่ยวานวานพยักหน้า เธอกุมหน้าอกอย่างตื่นเต้น “ฉันตื่นเต้นมากทำยังไงดี”

เจียนจือเพ่ยจูงมือของเธอเอาไว้ “มีฉันอยู่ ไม่ต้องกลัว”

เมื่อประตูรถเปิดออก บอดี้การ์ดและผู้ช่วยต่างก็กรูกันเข้ามาจนเต็ม ช่างแต่งหน้าช่วยกันจัดแจงชายกระโปรงให้เธอ เจียนจือเพ่ยก็ช่วยนำผ้าคลุมหน้าลงมาปิดให้เธออีกแรง ภายใต้ผ้าขาวได้ซ่อนใบหน้าอันงดงามของเธอเอาไว้ เยี่ยวานวานมองดูห้องโถงอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ปลายยอดสูงตระหง่านสะท้อนแสงทองแวววาวเมื่อแสงอาทิตย์ได้ส่องกระทบ ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์

เจียนจือเพ่ยจูงมือเยี่ยวานวานเดินเข้าไปยังโบถน์ ในขณะเดียวกันพ่อบ้านที่คอยอยู่นานแล้วก็รีบปรี่มาทางพวกเขา “คุณชาย ในที่สุดก็มาจนได้ รีบเข้าไปเถอะครับ แขกรอนานมากแล้ว”

ภายใต้ผ้าขาว ผู้ดูแลในงานต่างก็ไม่มีใครสังเกตว่าเจ้าสาวที่พวกเขาคิดได้ถูกเปลี่ยนตัวไปแล้ว แต่ภายในใจเยี่ยวานวานก็ยังคงตื่นเต้นมาก ฝ่ามือของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอมองผู้คนที่ยิ้มและอวยพรให้เธอ เธอคิดว่าพวกเขาจะต้องนึกว่าเธอเป็นเฉียวเสวี่ยเม่ยอย่างแน่นอน

เจียนจือเพ่ยรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นจากฝ่ามือที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของเธอ เขาค่อยๆ ก้มลงกระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ทำให้ใจสบายๆ แล้วมาเป็นเมียฉันเถอะ!”

เยี่ยวานวานอึ้งไปสักพัก เงยหน้าผ่านผ้าขาวมองไปยังดวงตาที่แอบซ่อนรอยยิ้มของเขา การได้แต่งงานกับเขา ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่กล้าหาญที่สุดในชีวิตของเธอ ยังเป็นเรื่องที่เธอมีความสุขที่สุดอีกด้วย

คำพูดของผู้ชายคนนี้เพียงประโยคเดียวก็สามารถทำให้อารมณ์ของเธอสงบลง เยี่ยวานวานถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยักหน้าเบาๆ พร้อมทั้งเงยหน้ายืดอก คล้องแขนเขาเดินเข้าไปยังพรมแดง

บรรดาแขกที่เฝ้ารอคอยพวกเขา ในที่สุดก็ได้พบกับคู่บ่าวสาว เสียงปรบมือดังขึ้นระนาวในห้องโถงใหญ่เป็นสัญญาณต้อนรับการมาถึงของพวกเขาสองคน เสียงปรบมือเงียบลง กลายเป็นเสียงเพลงบรรเลงมาแทนที่

คุณนายเจียนที่นั่งอยู่แถวหน้าสุด ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกได้เสียที นึกว่าเจ้าหลานตัวดีจะหนีงานแต่งเสียแล้ว ยังดีที่พาเจ้าสาวมาได้ตามกำหนดเวลา

อีกทั้งสีหน้าของหลานชายก็ดูไม่เย็นชาเหมือนก่อนหน้านี้ มุมปากของเขายกยิ้มขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและดีใจ เผยให้เห็นความสุขที่พรั่งพรูออกมา

แต่ในขณะที่บาทหลวงกำลังเตรียมอ่านคำสาบานแทนพวกเขาอยู่นั้น จู่ๆ ประตูใหญ่ที่ปิดสนิทก็ถูกเปิดออกด้วยแรงผลักจากคนด้านนอก พร้อมกับเสียงประกาศดังลั่นตามมาติดๆ ว่า “พวกเขาแต่งงานกันไม่ได้”

เป็นเสียงของเฉียวเสวี่ยเม่ยนั่นเอง เธอตะโกนออกไปราวกับคนคลุ้มคลั่ง “ฉันต่างหากที่เป็นเจ้าสาว”

ประโยคนั้นทำเอาบรรดาแขกทั้งหมดหันหลังมามองด้วยความตะลึงงันไปตามๆกัน ทำไมที่นี่ถึงมีเจ้าสาวสองคนกันล่ะ

เฉียวเสวี่ยเม่ยเดินผ่านพรมแดงเข้ามา พรางดึงผ้าคลุมหน้าออกอย่างไม่ใส่ใจ เผยให้เห็นใบหน้าของเธอ

แขกเหล่านั้นล้วนรู้ดีว่าเธอคือเจ้าสาวของวันนี้ ถ้าอย่างนั้น เจ้าสาวที่กำลังยืนจับมือกับคุณชายอยู่บนเวทีนั้นคือใครกัน

คุณนายเจียนที่ตกใจไม่ต่างกัน เธอยืนขึ้นมองดูสีหน้าโกรธจัดของเฉียวเสวี่ยเม่ย และหันกลับไปมองยังเจ้าของร่างบางที่ถูกหลานชายตัวดีกุมมือเอาไว้บนเวที จู่ๆ เธอก็พอจะเดาออก นี่เจ้าหลานชายเปลี่ยนตัวเจ้าสาวอย่างนั่นหรือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว