“ไม่งั้นคุณเอารถให้ฉัน ฉันจะขับรถกลับเองค่ะ” อันฉีพูดขึ้นด้วยความกล้าหาญ
เนี่ยเหยียนเฟิงไม่รับปากเธอ เพราะภูเขาที่สูงและอันตรายตั้งขนาดนั้น และเธอเองก็ไม่มีฝีมือ
“ไม่” เนี่ยเหยียนเฟิงปฏิเสธ
ตอนนี้เอง สภาพอากาศฟ้าฝนไม่สู้ดีนัก และฝนในฤดูหนาวก็กำลังจะถล่อมตกลงมา แน่นอนว่าอีกแปปนึงมันจะตกแปะๆ ลงบนหัวของอันฉี และเธอได้แต่ยกมือป้องปิดหัวเอาไว้ แต่จู่ๆ สายฝนก็ตกเทลงมาห่าใหญ่
“ขึ้นรถครับ” คนในรถสั่งเสียง ทุ้มต่ำ อาการหวัดของเธอเพิ่งจะดีขึ้น หรือว่าเธออยากตัวเปียกอีกสักรอบกัน?
อันฉียังอารมณ์เสียหลังจากถูกพระเจ้าข่มเหง เธอเดินไปที่นั่งผู้โดยสาร เปิดประตู และเข้าไปโดยไม่แลมองชายที่เบาะหลัง
มองจากในรถเห็นสายฝนที่ถูกกั้นให้อยู่ด้านนอก มันทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบเป็นพิเศษ
จิตใจของอันฉีสับสนไปหมด ประสาทสัมผัมการรับรู้ทั้งหมดของเธอตอบสนองต่อชายหนุ่มที่นั่งด้านหลัง เธอฟังเสียงเขาเคาะแป้นพิมพ์ และได่ยินถอนหายใจเล็กน้อยของเขา
“คุณไม่ไปปฏิบัติภารกิจเหรอคะ ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่ล่ะคะ” อันฉีถามขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“คุณไม่อยากเจอผมเหรอ” เนี่ยเหยียนเฟิงถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง สายตายังคงจ้องไปที่หน้าจอ
“ฉันแค่พูดว่า เราไม่ต้องพบกัน ฉันไม่ได้หมายความว่าจะขับไล่คุณออกจากฐานซะหน่อย" อันฉีคิดว่าหลายวันมานี้เขาใช้เวลาในหมู่บ้าน นี้ รึเปล่า แล้วเขานอนที่ไหน กินอย่างไร คงไม่ใช่ว่าใช้เวลาอยู่ในรถคันนี้คนเดียวอย่างนี้หรอกนะ!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอมองกลับมาที่เขาอย่างปวดใจ แต่เมื่อเห็นว่าเสื้อของเขาสะอาดและเรียบร้อย ดูไม่เหมือนเขานั่งอยู่ในรถตลอดเลย
เนี่ยเหยียนเฟิงไม่ได้พูดอะไร แต่อันฉีรู้สึกว่าคอแห้งผากขึ้นมา เธออยากดื่มน้ำ เธอจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “ในรถของคุณมีน้ำไหมคะ”
เยียนเฟิงเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำจากช่องเก็บของข้างประตูรถและยื่นให้เธอ เมื่ออันฉีเห็นว่าเป็นแก้วน้ำของเขา เธอก็นิ่งชะงักไปหลายวินาที “ฉันหมายถึงน้ำแร่น่ะค่ะ”
เนี่ยเหยียนเฟิงเงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้วแน่น “ไม่มี”
เนี่ยเหยียนเฟิงโกรธมาก เขาเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม จ้องไปที่ด้านหลังหัวของเธออย่างโกรธ ๆ เขาอดไม่ได้ที่จะโกรธในสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำ
อันฉีกลับหยิบเงินห้าร้อยบาทของเขาและลงจากรถฝ่าสายฝนไปซื้อน้ำ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็วิ่งกลับมาพร้อมกับขวดน้ำหนึ่งขวดและเงินทอน ปอยผมหน้าม้าสองข้างของเธอเปียกปอน เธอรวบผมยาวของเธอ จากนั้นคลายเกลียวฝาน้ำออกแล้วดื่ม
เสียงดื่มน้ำของเธอดังก้องอยู่ในหูของชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลัง มันมีแรงดึงดูดที่อธิบายไม่ได้ไม่มีที่มาที่ไป ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและมองเห็นลำคอระหงเชิดขึ้นเล็กน้อย บางและขาวผ่อง มันทำให้คนกลายรู้สึกเหมือนอยากร่างเป็นแวมไพร์และกัดให้จมเคี้ยวหลายๆ คำซะเลย
อันฉีรู้สึกว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังเธอกำลังมองมาที่เธอ หลังจากเธอดื่มน้ำเสร็จ เธอก็หันหน้าไปถามว่า “เราจะออกเดินทางกันเมื่อไหร่เหรอคะ”
"รอให้ฝนหยุดก่อนสักหน่อย" เนี่ยเหยียนเฟิงตอบเธอ
“ถ้าไม่ไปล่ะก็ ฟ้ามันจะมืดก่อนนะคะ พอถึงตอนนั้นถนนบนภูเขาจะเดินทางยากขึ้น ถ้าคุณไม่อยากขับรถ ให้ฉันขับได้นะคะ” อันฉีกระตือรือร้นอยากจะลองขับดู เพราะเธอได้ใบขับขี่มาจะห้าหกปีแล้ว จึงมั่นใจมากกว่าขับได้
“ไม่” เนี่ยเหยียนเฟิงปิดคอมพิวเตอร์ลงและตอบปฏิเสธไม่ให้เธอขับรถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...