ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 66

วันต่อมา กวินมาส่งนับหนึ่งถ่ายทำฉากสุดท้ายด้วยตัวเอง พอมาถึงสถานที่ถ่ายทำ

นับหนึ่งกับมีมี่ก็เปิดประตูก้าวลงจากรถ แล้วมีมี่ก็พานับหนึ่งเข้าไปยังห้องแต่งหน้า ส่วนมีมี่ก็เดินไปนั่งรอในห้องรับรอง

พอแต่งหน้าทำผมให้นับหนึ่งเสร็จ ช่างคนหนึ่งก็เดินออกจากห้องเพื่อไปหากรที่รออยู่ในห้องรับรอง ส่วนนับหนึ่งก็เดินเข้าไปในห้องแต่งตัว

" คุณกรคะ น้องนับหนึ่งกำลังเข้าไปแต่งตัวในห้องแล้วค่ะ "

" อือ ขอบใจ "

กรเอ่ยขอบใจเสียงเย็น จากนั้นก็ยกโทรศัพท์กดโทรออกไปยังเบอร์เจ้านาย พอเจ้านายรับสายเขาก็เอ่ยขึ้น

" คุณนับหนึ่งกำลังไปแต่งตัวแล้วครับ "

" อือ "

กวินส่งเสียงสุขุมออกมาผ่านลำคอแล้วก็กดวางสายไป จากนั้นก็เปิดประตูก้าวลงจากรถ เดินเข้ามาด้านในแล้วผลักประตูก้าวเข้าไปในห้องแต่งหน้า

มีมี่รู้สึกได้ถึงแผนการของสองเจ้านายลูกน้อง หล่อนจึงลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องรับรองเพื่อไปดูน้อง แต่กรกลับตามไปจับแขนเขาไว้ แล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงเย็น

" คุณะจะไปไหน "

หล่อนหันมามองหน้ากรแล้วเอ่ยตอบเสียงแข็ง

" ฉันจะไปหาน้องสาวฉัน ปล่อย "

" แบบนั้นยิ่งปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด "

เอ่ยจบเขาก็ลากมีมี่กลับมานั่งลงที่เดิมและจับมือหล่อนไว้ไม่ปล่อย

ภายในห้องแต่งหน้า เมื่อฝ่ายคอสตูมที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้า กำลังจะเข้าไปแต่งตัวให้นับหนึ่ง

พอเห็นท่านประธานบริษัทผู้หล่อเหลามาดนิ่งเดินเข้ามาในห้อง

ด้วยสีหน้าสุขุม เคร่งขรึม สวมใส่ชุดสูทสีดำส่งให้บุคลิกดูสง่า องอาจ น่าเกรงขำ

มีความหล่อ ดูดี สุขุม เย็นชา จนคนดูแลเสื้อผ้า ต้องหลีกทางให้เขาเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวของนับหนึ่งอย่างสง่าผ่าเผย

นับหนึ่งที่อยู่ในห้อง เธอกำลังนั่งรอคนที่ช่วยแต่งตัวเข้ามารูดซิปข้างหลังให้

กวินเปิดประตูเข้าไป ดวงตาคมทรงเสน่ห์มองไปยังแผ่นหลังขาวเนียนใสตรงหน้า

จับจ้องบริเวณต้นคอที่มีผมปล่อยสยายลงมาบังไว้ แล้วเขาก็ก้าวเข้าไปหานับหนึ่งอย่างเงียบๆพร้อมกับพึมพำในใจเบาๆ

[ สาวน้อย จะใช่คุณหรือเปล่า เดี๋ยวก็รู้ ]

เขาเข้าไปหยุดลงตรงข้างหลังเธอแล้วยื่นมือออกไปรูดซิปให้เธออย่างเบามือ

นับหนึ่งที่ยืนหันหลังอยู่ก็ยิ้มออกมาแล้วเอ่ยขึ้นตามความเคยชิน

" ขอบคุณค่ะ "

ในขณะที่เธอกำลังจะหมุนตัวหันมามองคนที่รูดซิปให้ ฝ่ามือใหญ่ก็จับลงตรงหัวไหล่ แล้วเอ่ยออกมาอย่างสุขุมข้างหูเธอ

" อย่าเพิ่งขยับ "

นับหนึ่งตกใจ เธอเอียงคอ แหงนมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง ในขณะที่หัวไหล่ทั้งสองข้าง ถูกฝ่ามือของชายหนุ่มจับเอาไว้แน่น ไม่ให้เธอหมุนตัวได้

" ทำไมถึงเป็นคุณ แล้วคุณเข้ามาได้ยังไง "

เธอเอ่ยถามขึ้นเสียงแข็ง อย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย ลึกๆในใจก็แอบกลัวเขามากเช่นกัน

กวินรู้ว่าเธอกลัว เลยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เพื่อให้เธอสบายใจ แต่ก็ไม่วายที่จะเอ่ยขู่ทิ้งท้ายเพื่อให้เธอเชื่อฟัง

" ผมไม่คิดจะทำอะไรคุณหรอก แค่จะมาใส่สร้อยให้เท่านั้นเอง อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากให้ผมลวนลามคุณในห้องแต่งตัว "

" นี่คุณขู่ฉันเหรอ "

เธอเอ่ยถามเสียงดุอย่างไม่พอใจ ทำให้กวินกระตุกยิ้มมุมปากแล้วเอ่ย

" หึ ผมขู่คุณหรือเปล่า ลองไม่อยู่เฉยๆดูสิ แล้วคุณจะรู้ ว่าผมขู่คุณหรือเปล่า "

ได้ยินดังนั้นนับหนึ่งก็ได้แต่ยืนนิ่งด้วยความหวั่นกลัว เธอไม่ได้โง่นะ ที่จะทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงถูกลวนลาม

[ ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ รู้รักษาตัวรอเป็นยอดดี ฉลาดรู้สถานการณ์แบบนี้ จะไม่ใช่เธอได้ยังไง ]

ด้วยนิสัยที่ฉลาดรู้จักเอาตัวรอดของของหญิงสาวตรงหน้ากับกลิ่นหอมอ่อนๆบนตัวเธอ ทำให้เขามั่นใจว่าเธอคือสาวน้อยของเขา

เขายิ้มออกมาแล้วเอากล่องเครื่องประดับออกมาจากถุง มาเปิดกล่องแล้วหยิบสร้อยมาสวมใส่ให้นับหนึ่ง

แล้วค่อยๆปัดผมที่สยายลงมาปิดต้นคอออกไปด้านข้าง จนเผยให้เห็นแผ่นหลังเรียบเนียนของเธอ

ตรงบริเวณต้นคอ ขาวจั๊วะ หอมนุ่ม เรียบเนียน ไร้ซึ่งสิ่งสะดุดตาใดๆ

คิ้วหนาบนใบหน้าหล่อเหลากระตุกวูบแล้วขมวดเข้าหากันเป็นปม นัยน์ตาคมกริบดูแข็งกร้าว

จ้องมองแผ่นหลังอันเนียนนุ่มของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่กะพริบ

เพื่อมองหาร่องรอยของการลบรอยสัก แต่ก็ไม่เห็นร่องรอยใดๆเลย

[ เป็นไปได้ยังไง ทำไมเธอถึงไม่มีรอยสักชื่อเรา ทำไมถึงไม่มีร่องรอยอะไรเลย หรือว่าเธอจะไม่ใช่สาวน้อยของเรา ]

เมื่อคิดว่านับหนึ่งไม่ใช่สาวน้อยในคืนนั้นของเขา เขาก็รีบใส่สร้อยให้เธอแล้วหมุนตัวเดินออกไปด้วยสีหน้าเคร่งครึมอย่างถมึงทึง

นับหนึ่งหมุนตัวมามองแผ่นหลังของชายเอาแต่ใจมี่เดินออกไปพร้อมกับเอานิ้วมือมาจับสร้อยคอเบาๆ

" นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป เป็นผีบ้าหรือไง "

เธอบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ ที่เห็นเขาทำตัวเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างตามใจ

จากนั้น เธอก็ก้าวออกไป แต่ก้าวออกไปยังไม่ถึงประตู มีมี่ก็วิ่งเข้ามาหาเธออย่างหน้าตาตื่นพร้อมกับเอ่ยอย่างรู้สึกผิด

ได้ยินลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามแบบนั้น กวินก็ชายตามองลูกน้องด้วยหางตาอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยออกมาเสียงเย็น

" ดูเหมือนว่า เดี๋ยวนี้คุณจะชอบถามมากไปแล้วนะกร "

" ขอโทษครับ เอ่อ...แล้วท่านประธานจะไปไหนครับ "

" ไปโรงแรม แล้วเรียกอิงฟ้ามาให้ผมด้วย "

" ได้ครับ "

หลังจากเอ่ยตอบรับคำเสร็จ กรก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไป

ระหว่างทาง กวินนั่งหน้าขรึม คิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลา จนกรต้องถือวิสาสะเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

" ในห้องแต่งตัวมันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ ถึงทำให้ท่านประธานออกมาด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีแบบนี้ "

กวินนั่งหน้านิ่ง สักพักก็เอ่ยตอบลูกน้องด้วยน้ำเสียบราบเรียบอย่างเย็นชา

" เธอไม่ใช่หญิงสาวในคืนนั้นที่ผมต้องการ เธอไม่มีรอยสักชื่อผม

บนแผ่นหลังของเธอ เรียบเนียน ไร้ร่องรอยของการลบรอยสัก "

กวินรู้สึกผิดหวังอย่างมาก กรเลยเลยเอ่ยถามต่อว่า

" ในเมื่อเธอไม่ใช่หญิงสาวของท่านประธาน แล้วท่านประธาน จะเอายังไงกับเธอต่อครับ จะให้เธอถ่ายโฆษณาของบริษัทต่อมั้ยครับ "

" เรื่องงานต้องยอมรับว่าเธอทำได้ดีจริง คุณเคธี่เลือกคนไม่ผิด เธอเหมาะสมมาก "

แค่เจ้านายเอ่ยออกมาแบบนี้ กรก็รู้แล้วว่ามันคือคำตอบ ให้นับหนึ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อ

จากนั้นเขาก็เอ่ยถามต่อด้วยความระมัดระวังในเรื่องทายาท

" แล้วเรื่องทายาทที่ท่านประธานวางแผนไว้ล่ะครับ ยังจะเลือกเธออยู่มั้ย "

กวินเอ่ยตอบลูกน้องคนสนิทพร้อมกับสั่งงานต่อทันที

" เรื่องทายาทเป็นเรื่องสำคัญ หากถึงเวลาแล้วค่อยตัดสินใจอีกที

อ้อ แล้วคุณอย่าลืมส่งคน สะกดรอยตามสองคนนั้นไปด้วยล่ะ ดูว่าเธอพักที่ไหน กับใคร "

" ได้ครับ อ้อ ผมลืมบอกท่านประธานไปเลย พรุ่งนี้กฤตเดินทางกลับมาถึงไทยแล้ว ท่านประธานจะให้เขากลับมาทำงานเลยมั้ยครับ "

" ยังไม่ต้องหรอก ให้เขาพักผ่อนสักอาทิตย์ก็แล้วกัน หวังว่ากลับมาคราวนี้ เขาจะไม่ทำผิดเหมือนครั้งก่อนอีก "

" ครับ ผมจะคอยเตือนไม่ให้เขาเลอะเลือนอีกแล้วครับ "

" อือ "

แม้สองหนุ่มจะเป็นเจ้านายกับลูกน้อง แต่พวกเขาเป็นเจ้านายกับลูกน้องที่สนิทสนมกัน

จนกลายเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันไปแล้ว มีความซื่อสัตย์ต่อกัน สามารถเปิดใจ พูดคุย ปรึกษากัน ตามประสาผู้ชายได้ทุกเรื่อง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก