ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 70

ในขณะที่สาวๆคุยกันอยู่ ธีร์ที่นั่งดูอยู่ในห้อง ผ่านจอกล้องวงจรปิดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาเจน

( เจนให้นับหนึ่งมาหาผมที่ห้องหน่อย )

พิมพ์เสร็จก็กดส่งไป เจนที่อยู่ชั้นล่าง พอมีข้อความแจ้งเตือนดังขึ้นมา

เลยหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นข้อความจากบอส เลยเปิดอ่านแล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

( ค่ะ )

หลังจากกดส่งข้อความเสร็จ เธอก็ละความสนใจจากโทรศัพท์มามองหน้านับหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น

" บอสบอกให้น้องขึ้นไปหาน่ะ "

" ค่ะ "

แล้วนับหนึ่งก็ลุกขึ้น หมุนตัวเดินขึ้นไปชั้นบน ส่วนสามสาวก็นั่งคุยกันต่อ

" เมื่อไหร่น้อที่น้องนับหนึ่งจะรู้ตัว ว่าบอสมีใจให้ นับวันน้องก็ยิ่งเดินออกไปไกลจากบอสมากขึ้นทุกที ฉันล่ะกลัวบอสของเราจะกินแห้วจริงๆ "

เจนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบด้วยความรู้สึกเห็นใจบอส

" นั่นสิ บอสเราไม่ยอมพูดความรู้สึกให้มันชัดเจนสักที ไม่รู้ว่ากลัวอะไรอยู่

เก๊กอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็ไม่ทันคนอื่นหรอก เป็นฉันนะ ถ้าชอบ จะพูดออกไปเลย

เขาจะ เซย์เยส หรือ เซย์โน ก็ช่างเขา อย่างน้อยๆก็ได้พูดและจะได้ไม่เสียเวลาทำมาหากิน "

มีมี่เอ่ยตามสไตล์หล่อน ครีมที่เป็นผู้ใหญ่กว่าจึงเอ่ยขึ้นแบบคิดต่างออกไป

" ก็เพราะว่าบอสมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ไง การจะสารภาพรักใครสักคน

เขาจะต้องแน่ใจก่อน ว่าอีกฝ่ายมีใจให้หรือไม่ ไม่ใช่นึกจะรักก็รัก นึกจะสารภาพก็สารภาพได้เลย

เขาเป็นถึงผู้บริหารนะ จะทำอะไรสักอย่าง ก็ต้องรอบคอบมั้ยคะ "

" อือ เรื่องงานยังพอเข้าใจ แต่เรื่องหัวใจ เจนไม่เข้าใจเลยจริงๆค่ะ ถ้าเป็นเจนนะ ก็จะทำอย่างมีมี่นั่นแหละ จะได้ชัดเจนไปเลย "

" ก็เพราะว่าบอสคาดหวังไง เลยไม่รีบร้อนและไม่ต้องการความชัดเจนที่มันทำให้ผิดหวังในตอนนี้ เลยเลือกที่จะค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ทีละขั้นๆไง "

ครีมเอ่ยอย่างเข้าใจบอส แต่มีมี่กลับส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วยแล้วเอ่ย

" ไม่ทันกินค่ะ เชื่อดิ กว่าจะได้สารภาพรักนะ น้องนับหนึ่ง ก็ตกเป็นของคนอื่นพอดี

สายรุกเท่านั้นที่จะครองใจสาวได้ แล้วสายรุกคนนั้นก็หน้าตาหล่อเหลาพอๆกับบอสด้วยนะ

และดูเหมือนจะทำให้ใจน้องนับหนึ่งหวั่นไหวแล้วด้วย มันเร็วจนน่าเหลือเชื่อ

กลัวก็แต่ไม้กันหมาอย่างฉันจะช่วยกันหมาตัวอื่นออกไปไม่ได้แล้ว

หากบอสยังใจเย็นอยู่แบบนี้ เนื้อชิ้นโปรดจะต้องถูกหมาตัวอื่นคาบไปกินแน่ๆ "

ได้ยินดังนั้นเจนก็เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น

" จริงเหรอ สายรุกคนนั้นคือใครอ่ะ บอกหน่อยสื อยากรู้ "

" แฟนของคุณอิงฟ้า ประธานกวิน ธนินกุล แห่งธนินกรุ๊ป ที่มีข่าวกับคุณอิงฟ้า ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีข่าวกันเมื่อปีที่แล้วมั้ง "

" อ้าว มีแฟนแล้วทำไมถึงได้ทำแบบนั้นล่ะ มันเป็นแผนการหรือเปล่า เขาน่าจะรู้นะ ว่าน้องนับหนึ่งกับคุณอิงฟ้าไม่ถูกกัน "

เจนเอ่ยขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น

" แต่ประเด็นคือ เขาไม่รู้ไง ว่าน้องนับหนึ่ง คือคนที่ทะเลาะกับคุณอิงฟ้า จนทำให้คุณอิงฟ้าถูกคนทั้งประเทศถล่มด่าเละน่ะสิ "

ครีมนั่งฟังอย่างเงียบๆโดยไม่ออกความเห็นอะไรอีก ส่วนนับหนึ่งที่นั่งอยู่ในห้องธีร์ ก็ได้แต่นั่งรอเขาทำงานอย่างเงียบๆ

หลังจากเคลียร์งานบนคอมเสร็จ ธีร์ก็ละสายตาจากงานหันมาสนใจคนตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นเสียงอ่อน

" รอนานมั้ย "

นับหนึ่งส่ายหน้าแล้วเอ่ยตอบ

" ไม่ค่ะ แต่ ถ้าคุณยุ่งอยู่ก็ทำงานต่อได้เลย ฉันรอได้อยู่แล้วค่ะ "

เธอเอ่ยเสียงเรียบอย่างไม่คิดอะไร สำหรับเธอแล้วธีร์คือผู้มีพระคุณคนหนึ่ง ที่เธอสามารถรอและยอมได้เสมอ

แม้เขาจะทำอะไรผิดต่อเธอ เธอก็สามารถให้อภัยได้เขาได้อย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ

แต่สำหรับธีร์แล้วคำพูดของเธอกลับทำให้เขาฟังดูเหมือนคำประชด จึงต้องเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าสุขุม

" คุณประชดผมเหรอ "

" เปล่าค่ะ ฉันพูดจริงๆ สำหรับคุณแล้วฉันรอได้เสมอค่ะ "

เธอส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ธีร์ยิ้มหล่อออกมาเมื่อได้ยินเธอเอ่ยแบบนั้น

" อืม...ที่ผมเรียกคุณมา ก็แค่อยากเจอคุณน่ะ "

" แค่นี้เองเหรอคะ? "

นับหนึ่งเอ่ยถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจในความคิดบอส ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ธีร์ยิ้มแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

" แค่นี้ครับ ก็ผมไม่ได้เจอคุณตั้งสองอาทิตย์นี่ "

นับหนึ่งกะพริบตาปริบๆแล้วเม้มปากยิ้มออกมาอย่างไม่เต็มหน้า

" ค่ะ "

เธอรู้สึกว่าคำพูดของบอสวันนี้มันฟังดูทะแม่งๆยังไงไม่รู้ แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ ว่าวันนี้มีนัดกันไปกินชาบู จึงเอ่ยขึ้น

" อ้อ วันนี้ทุกคนจะไปกินชาบูกัน ไปด้วยกันนะคะ

ครั้งนี้นับหนึ่งตั้งใจจะเลี้ยงขอบคุณทุกคนค่ะ

แม้ว่าชาบู จะไม่ใช่อาหารราคาแพงเหมือนที่คุณเคยพาไปกิน แต่มันก็เลิศรสมากนะคะ "

เธอพยายามพูดให้ชาบูดูน่าสนใจในสายตาธีร์ ที่มักจะพาเธอไปทานแต่อาหารดีๆแพงๆ

ธีร์ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มให้เธอเบาๆแล้วเอ่ยตอบเสียงอ่อนอย่างอ่อนโยน

" ไปสิ ขอแค่ได้ทานกับคุณ ผมทานได้หมดแหละ แต่ถ้าผมเป็นอะไรไป คุณจะต้องเป็นคนดูแลผมนะ "

เธอจ้องหน้าเขาแล้วฉีกยิ้มออกมาพร้อมกับลอบพึมพำในใจ

[ ทำไมวันนี้บอสถึงได้พูดจาทะแม่งๆแบบแปลกๆนะ ถ้าไม่ทานกับเรา มันจะทานไม่ได้เหรอ หรือยังไง งง ]

เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่ธีร์ต้องการจะสื่อคืออะไร จากนั้นเธอก็ยิ้มสดใสออกมาแล้วเอ่ย

" โอเคครับ งั้นผมถือว่าคุณอนุญาตแล้วนะ ตอนนี้ผมง่วง แล้วก็เหนื่อยมาก ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ "

ธีร์เอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องทำงานเดินไปยังห้องของนับหนึ่ง

นับหนึ่งเดินตามหลังเขาไปแล้วเอ่ยถามขึ้น

" คุณจะนอนแล้วชุดนอนคุณล่ะคะ "

" อยู่ข้างล่าง ลงไปเอาให้หน่อย ในรถ "

เอ่ยจบ เขาก็โยนกุญแจรถมาให้นับหนึ่งโดยไม่หันหลังมามอง ทำเอานับหนึ่งรับแทบไม่ทัน

จากนั้น นับหนึ่งก็หมุนตัวหันหลังเดินลงไปเอากระเป๋าให้เขาเสร็จแล้วก็หิ้วกระเป๋าเขาขึ้นมา

พอเข้ามาในห้อง เธอก็ได้ยินเสียงน้ำไหลดัง ซ่าซ่า ในห้องน้ำแล้ว เธอได้แต่มองบน แล้วเอ่ยเรียกขึ้นเสียงดัง

" คุณธีร์ ฉันวางกระเป๋าคุณไว้หน้าห้องน้ำนะคะ "

เอ่ยจบ เธอก็เดินออกมานั่งลงบนเก้าอี้โซฟา

สักพัก ธีร์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยชุดนอนผ้าซาตินสีกรม ที่มีความนิ่ม ลื่น ทิ้งตัว ดูเย็นตา

กำลังเช็ดผมด้วยผ้าเช็ดตัวของนับหนึ่ง พอนับหนึ่งหันไปเห็นก็โวยวายขึ้นมาทันที

" คุณธีร์ นั่นมันผ้าเช็ดตัวของฉันนะ "

" ก็ใช่ไง ทำไมเหรอ "

เขาเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามอย่างหน้าตาเฉย

" คุณ คุณไม่ถือเหรอ "

" อะไรที่เป็นของคุณผมไม่ถือและไม่รังเกียจด้วย "

ได้ยินดังนั้น นับหนึ่งก็ได้แต่นั่งเงียบไป แบบไปต่อไม่เป็น ทำได้แค่ช่างมันเถอะ หากเขาสบายใจ ไม่ถือ เธอก็ตามใจเขาได้อยู่แล้ว

จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบไดร์เป่าผมมายื่นให้เขา แต่เขากลับเงยหน้าขึ้นมามองเธอแล้วเอ่ยขึ้น

" ไดร์ให้ผมหน่อย ผมขับรถแล้วเมื่อยข้อมือ "

" ได้ค่ะ "

เธอทำได้แค่ทำตามใจเขาแล้วไดร์ผมให้เขาด้วยความรู้สึกแปลกๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

พอไดร์ผมให้เขา จนเส้นผมทุกเส้นแห้งสนิท แล้วเธอก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับปิดปุ่มสวิตช์

" ผมคุณแห้งแล้ว คุณนอนพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาผ้าห่มมาให้ค่ะ "

เอ่ยจบเธอก็หมุนตัวไปเก็บไดร์เป่าผมแล้วเดินไปเอาผ้าห่มของตัวเองมาห่มให้เขา ที่นอนรอบนโซฟามองเธอด้วยสีหน้ายิ้มๆ

ในใจของธีร์อยากจะสารภาพรักออกไป แต่ก็ยังไม่กล้าพอ กลัวเธอจะตกใจแล้วปฏิเสธทันควัน

จากนั้นนับหนึ่งก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องของตัวเองด้วยความรู้สึกแปลกๆอย่างอธิบายไม่ถูก

เธอนั่งลงบนเตียงแล้วเอาฝ่ามือทาบอก ตรงบริเวณที่หัวใจกำลังเต้นแรงแล้วพึมพำในใจเบาๆ

[ แปลก ทำไมถึงรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆเหมือนไปทำอะไรผิดมาเลย กับพี่มีมี่ไม่เห็นจะเป็นเลย หรือเป็นเพราะเราไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายขนาดนี้มาก่อน ]

ตอนนี้เธอยอมรับว่าใจเต้นแรงมา รู้สึกเขินจนไม่กล้าออกไปไหน ในใจก็แอบกลัวพี่มีมี่จะกลับเข้ามาเห็นแล้วเข้าใจผิดเช่นกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก