นับหนึ่งใส่ชุดเดรสสีฟ้าพาสเทลน่ารักๆ ผมที่มีการดัดลอนเล็กน้อย ถูกปล่อยผมลงมาอย่างเรียบง่าย
สวมรองเท้าส้นสูงแฟชั่นสีฟ้าพาสเทลเซตเดียวกับชุดตามที่เคธี่จัดให้ ทำให้บุคลิกแลดูสดใส เป็นธรรมชาติ
เธอลงจากรถแล้วเดินเข้ามาในร้านอาหารสุดหรูที่ไม่คุ้นเคยอย่างเกร็งๆ กฤตที่รออยู่หน้าร้านอาหาร
พอเห็นนับหนึ่งลงจากรถ ก็ถึงกับยืนจ้องอย่างตกตะลึงในความสวยสดใสน่ารักของเธอ
[ เธอช่างดูสดใสน่ารักไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ ]
นับหนึ่งกวาดสายตาสังเกตทุกสิ่งรอบตัวอย่างเงียบๆ พอเห็นกฤตยืนอยู่ไกลๆ
เธอก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ แล้วเดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
" คุณกฤต คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ "
กฤตได้สติก็เอ่ยตอบเสียงเรียบด้วยท่าทีนิ่งสงบ
" มารอรับคุณครับ "
นับหนึ่งชี้นิ้วมาที่ตัวเองพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นถาม
" รอรับฉัน "
กฤตจึงเอ่ยตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ
" ครับ "
นับหนึ่งทำหน้าหรี่ตาจ้องหน้ากฤตอย่างเงียบๆ
กฤตเลยเอ่ยถามขึ้น
" อย่าบอกนะว่า คุณไม่รู้ ว่ามีนัดทานข้าวกับท่านท่านประธาน "
นับหนึ่งส่ายหน้าแล้วเอ่ยตอบอย่างไม่คาดคิด
" ฉันไม่รู้ค่ะ ว่าท่านประธานที่พี่เคธี่ให้มาพบ คือเจ้านายของคุณ "
" ในเมื่อรู้แล้ว ก็เชิญเข้าไปข้างในเลยครับ ท่านประธานรอคุณอยู่ "
ได้ยินดังนั้น นับหนึ่งก็เอ่ยปฏิเสธขึ้นเสียงแข็ง
" ถ้าเป็นเขา ฉันไม่ขอร่วมโต๊ะค่ะ "
เอ่ยจบเธอก็หมุนตัวเดินออกไป กฤตจึงรีบวิ่งไปยืนขวางทางเธอไว้แล้วเอ่ยเสียงเรียบด้วยสีหน้าสุขุมนิ่งเฉย
" อย่าทำให้ผมลำบากใจเลยครับ "
นับหนึ่งยืนจ้องหน้าเขาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา
" ดูแล้ว ฉันไม่สามารถไว้ใจคุณได้ตามที่พี่มีมี่บอกเลย
คุณก็รู้ ว่าเจ้านายของคุณอันตรายมาก สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉัน
ยิ่งให้อยู่ตามลำพัง ยิ่งไม่ควร แต่คุณก็ยังอยากให้ฉันไปพบเขา
พี่เคธี่ก็อีกคน หวังดีกับฉันจริงๆ อย่างที่พูดหรือเปล่า ถึงให้ฉันมาพบคนอย่างนายกวินคนเดียว
ไม่ว่ายังไง ฉันก็ไม่เข้าไปพบเขาเด็ดขาด ถ้าคุณไม่หลีกทาง อย่าหาว่าฉัน ไม่เกรงใจก็แล้วกัน "
เมื่อเห็นท่าทางดื้อรั้นไม่สนใจใครของนับหนึ่ง กฤตจึงเอ่ยขึ้น
" ท่านประธานแค่ต้องการทานข้าวกับคุณ การที่คุณเคธี่ยอมส่งคุณมา
ก็แสดงว่า ท่านประธานได้ทำการตกลงกับคุณเคธี่แล้ว ว่าจะไม่แตะต้องคุณ นอกจากทานข้าว
คุณเชื่อใจคุณเคธี่ได้ เขาไม่ใช่นักปั้นที่เห็นแก่เงิน ยอมส่งเด็กของตัวเองขายให้คนรวย
เด็กที่เขาปั้นล้วนเป็นนักแสดงที่มีเกียรติและมีคุณภาพ ไม่ใช่ใครอยากได้ก็จะได้ง่ายๆ
ยิ่งคุณเป็นเด็กใหม่ที่เขาไว้ใจมอบงานใหญ่ให้ เขาก็จะยิ่งหวงมาก
คุณเข้าไปเถอะ ทานข้าวเสร็จก็ออกมา ดีกว่าทำให้ท่านประธานโกรธแล้วเล่นงานคุณเคธี่นะ
ในวงการนี้ มีเพียงคุณเคธี่เท่านั้นที่ท่านประธานพอจะให้เกียรติบ้าง อย่าทำให้เขาเดือดร้อนเลย "
กฤตเกลี้ยกล่อมให้นับหนึ่งเข้าไปพบเจ้านายของตัวเอง ไม่ใช่ว่าไม่ห่วง แต่เขาเชื่อมั่นในการตัดสินใจของเคธี่
เพราะเขารู้มาว่า ที่เจ้านายของเขาซื้อบ้านให้นับหนึ่งอยู่ ยังต้องอยู่ในข้อตกลงสัญญา
ที่นับหนึ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ของบริษัท ไม่ใช่เคธี่ยอมให้เจ้านายเขา ซื้อให้ด้วยความพิสวาสเหมือนดารานางแบบคนอื่น
ทุกอย่างมีการเซฟตัวนักแสดงอย่างดี เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงในภายหลัง
และเป็นการปกป้องนักแสดงที่ปั้นมาอย่างชาญฉลาด โดยสร้างคุณค่า ยกระดับนักแสดงของตัวเองให้มีเกียรติ
หยิ่งในศักดิ์ศรีของความเป็นผู้หญิง โดยไม่ให้ใครเข้าถึงตัวนักแสดงในสังกัดได้ง่ายๆ
ทำให้คนใหญ่คนโตรวมถึงเจ้านายเขาให้เกียรตินักแสดงที่เคธี่ปั้นมาอย่างมาก
กฤตก้มหน้ามองต่ำพร้อมกับเอ่ยขอโทษอย่างหน้านิ่งๆ ทำให้กวินรู้สึกเกลียดหน้านิ่งๆของกฤตมาก
เขาโกรธมากที่ลูกน้องชอบผู้หญิงของตัวเองและมั่นคงในความรู้สึก จนไม่เกรงกลัวความผิด ยอมโกหกเพื่อไม่ให้เขาสมหวัง
" อย่างที่ฉันเคยพูด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด นายจะไม่ได้รับการละเว้นใดๆอีก ครั้งนี้หากไม่มีเหตุผลที่น่าฟังฉันไม่เก็บนายไว้แน่ "
เอ่ยจบเขาก็ยกโทรศัพท์กดโทรออกไปหากร ทันทีที่กรรับสาย เขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงโกรธจัดอย่างเยือกเย็น
" มาที่ร้านอาหารวิวเคียงเดือน แล้วลากตัวกฤตไปขังไว้ที่โกดังกลางป่า
ไม่มีคำสั่งจากผม ห้ามให้ข้าวให้น้ำ จนกว่าเขาจะสำนึกผิดได้จริงๆ "
คำสั่งเด็ดขาดของเจ้านายราวกับโทษตัดสินประหารที่ไม่อาจปฏิเสธได้ กรได้แต่เอ่ยตอบรับคำอย่างยำเกรง
" ครับ รับทราบครับ "
กรเอ่ยตอบรับคำอย่างไม่สามารถเอ่ยถามคำใดได้ และไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเขาไปทำอะไรผิดอีก ถึงทำให้เจ้านายโกรธจัดขนาดนั้น
หลังจากกดวางสายไป กวินเหลือบมองกฤตด้วยแววตาแข็งกร้าวอย่างเยือกเย็น ก่อนจะหมุนตัวตามนับหนึ่งเข้าไปในร้านอาหาร
กฤตมองตามแผ่นหลังอันแข็งแกร่งของเจ้านาย อย่างไม่รู้ชะตากรรมของนับหนึ่งอีกต่อไป
แอบหวังเพียงให้เจ้านายไม่ทำกับนับหนึ่งเหมือนผู้หญิงคนอื่น
จากนั้นก็นั่งรอกรมาลากตัวเขาไปจับขังตามคำสั่งเจ้านายอย่างเงียบๆ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กรก็มาถึงร้านอาหาร เขาเปิดประตูลงมาจากรถ แล้วเดินเข้ามาหากฤตพร้อมกับลูกน้องร่างสูงใหญ่อีกสองคน
" ไอ่กฤต นายทำอะไรให้เจ้านายโกรธอีกวะ "
เขาเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้ กฤตจึงเอ่ยตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า
" เรื่องเดิม "
เอ่ยตอบเพื่อนแล้ว เขาก็เดินไปที่รถโดยมีชายฉกรรจ์สองคนตามประกบข้าง
กรเลยเอ่ยด่าทอตามหลังเพื่อนด้วยความโมโห
" นายมันโง่จริงๆเลยว่ะไอ่กฤต "
เขาโมโหเพื่อนมากที่ทำให้ตัวเองรับโทษเพราะผู้หญิงครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดี ถึงทำให้เจ้านายกับกฤตหลงกันนักหนา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก