สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 113

ตอนเย็น หนานหลินนอนด้วยกันกับหนานซ่ง

เธอได้เล่ากับประสบการณ์มากมายเมื่อหลายปีที่ผ่านมาให้หนานซ่งฟัง หนานซ่งถึงได้เข้าใจอย่างแท้จริง ว่าหนานหนิงจู๋ เป็นพ่อที่ไร้ความสามารถและเหอซินผู้เป็นแม่เลี้ยงมีความน่ากลัวเพียงใด

หนานหลินอยู่บ้านหลังนั้น ได้รับความทรมานอย่างมาก สามารถมีชีวิตมาถึงวันนี้ ไม่ได้ถูกพวกเขาทารุณจนตาย มันไม่ง่ายเลยจริงๆ

หนานซ่งได้เช็ดน้ำตาให้หนานหลินอย่างอ่อนโยน ลูบไปศีรษะเธอเบาๆ “ต่อไปเธออยู่กับพี่ เราสองพี่น้องพึ่งพาอาศัยกันเพื่อความอยู่รอด สบายใจได้ยังมีพี่คอยปกป้อง ไม่มีใครกล้ารังแกเธอได้อีก”

แต่ก่อน เป็นพ่อแม่และพี่ชายที่คอยปกป้องเธอ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอต้องปกป้องพวกพี่ชายและน้องสาวแล้ว

……

บริษัทหนานจิวเวลรี่ต้องประสบความสำเร็จในการจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

งานแถลงข่าวได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง กับแคมเปญการชักชวนเรื่องราวความรักทางออนไลน์เมื่อครั้งก่อน และคะแนนโหวตในสิบอันดับแรกจะได้รับรางวัล ทำให้ชาวเน็ตได้มีส่วนร่วมกันสูงมาก พร้อมเสียงที่กระตือรือร้นมากเช่นกัน

เฮ่อเซินพี่ชายของบริษัทหนานซิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้นำน้องชายและน้องสาวจากบริษัทเดียวกันมาที่เวที เพื่อมีส่วนร่วมกันในการโต้ตอบและมอบรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขันสิบอันดับแรก บรรยากาศดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา

เหล่าแฟนคลับร้องไห้ด้วยความดีใจ และถอนหายใจด้วยความหดหู่ “ในที่สุดก็เห็นพี่ชายตัวเองออกมาทำธุรกิจ เป็นการรอคอยที่นานแสนนานจริงๆ”

“ในที่สุดบริษัทหนานซิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ก็เริ่มเป็นผู้เป็นคนแล้ว ก็ถูกแล้ว ปุ๋ยไม่ไหลเข้าสู่ทุ่งของคนอื่น ยังไงก็ตามแบรนด์เครื่องประดับของตัวเอง แน่นอนว่ามันต้องได้รับการโปรโมตจากคนของตัวเอง”

“ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเป็นใครที่จะได้เป็นพรีเซนเตอร์ หากสามารถทำให้ต่างคนต่างได้เป็นพรีเซนเตอร์ก็คงดี จะได้ยุติธรรมขึ้นด้วย”

ในงานแถลงข่าว พิธีกรได้ประกาศในจุดที่ว่าผลิตภัณฑ์อัญมณีที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ จะได้ดาราดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ในงานที่เข้าร่วมนี่ด้วย หนึ่งคนหนึ่งรายการและไม่สามารถที่จะแทนที่กันได้

“พระเจ้า เป็นประธานอะไรจะเก่งได้ขนาดนี้ ในที่สุดก็รู้จักดูแลเด็กๆ แล้ว ป้าแก่ๆ อย่างฉันได้เสียใจและทั้งซาบซึ้งจนน้ำตาคลอเบ้าแล้ว!”

“พี่ชายของเรายากจนมากจนไม่ได้กินแม้แต่ข้าว ในที่สุดเขาก็ได้รับการเป็นพรีเซนเตอร์ ค่าพรีเซนเตอร์คงไม่น้อย คุณเห็นว่าเขามีความสุข และยิ้มเหมือนคนโง่ ยิ้มจนไม่อาจจะหุบปากได้ "

“ยิ่งเห็นโลกนานยิ่งไม่มีอะไรน่าแปลกใจจริงๆ คนอื่นมักเป็นพรีเซนเตอร์หนึ่งคนต่อหนึ่งปี หรือไม่ก็สามเดือนต่อหนึ่งพรีเซนเตอร์ บริษัทตระกูลหนานดีกว่า ที่เป็นพรีเซนเตอร์ของผลิตภัณฑ์โดยตรง และสามารถมองเห็นความมั่งคั่งร่ำรวยและมีอำนาจได้”

“ตอนนี้ศิลปินที่บอกเลิกสัญญากับบริษัทหนานซิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คงจะต้องร้องไห้ตายแล้วมั้ง ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ คุ้มค่าที่รอดูมาก”

ที่สะดุดตาที่สุด คืองานจิวเวลรี่ปีนี้ในธีมกุหลาบสุดท้าย แล้วกุหลาบประเภทไหนที่จะได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์หลัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระแสแฟชั่น

ท้ายที่สุดแนวคิดของเครื่องประดับแฟชั่นในปีนั้น ได้เริ่มต้นขึ้นโดยบริษัทหนานจิวเวลรี่ในประเทศซึ่งเป็นผู้นำกระแสแฟชั่น และครั้งหนึ่งเคยถูกรวมอยู่ในรายชื่อบริษัทที่มีคุณูปการอันโดดเด่นในอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลก

มีสินค้ามากมายที่เปิดตัวโดยบริษัทหนานจิวเวลรี่ และยังคงเป็นที่พูดถึงกันในวงการแฟชั่น และสิ่งที่สำคัญที่สุดของแฟชั่นคือสไตล์

แฟชั่นอาจจะล้าสมัยง่าย แต่สไตล์คงอยู่ตลอดไป

"ค้นหาสไตล์ที่ตัวเองชอบ สไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเอง มันก็สามารถที่จะเข้ากับคุณได้" และสโลแกนนี้เคยเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมายเกี่ยวกับแฟชั่น

ที่งานจัดนิทรรศการโชว์ดอกกุหลาบประจำปีนี้ที่เมืองหนาน ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ชนะชุดแยกประเภทกุหลาบได้แก่lady of shalott สีส้มแดง Golden celebration สีเหลืองทองสดใส และยังมีEden rose สีชมพูอ่อนหวาน

ทุกคนสงสัยว่าสุดท้ายแล้วประเภทไหนจะกลายเป็นยอดพธู และได้รับความโปรดปรานจากประธานเล็กหนานท่านนี้?

พิธีกรต่างจงใจที่จะยั่วน้ำลายด้วยน้ำเสียงที่สูงและต่ำลงครั้นแล้วแผ่วหายไป ทั้งผู้ชมในที่สถานที่นั้น กับผู้ชมหน้าที่อยู่หน้าทีวีต่างกลั้นหายใจและจ้องเขม็งรอจังหวะที่แบบร่างและตัวอย่างออกมาพร้อมๆ กัน

ยวี่จิ้นเหวินไม่พูดอะไร เพียงแค่คิ้วได้ขมวดแน่นเล็กน้อย และยังคงจ้องไปที่หน้าจอ

เมื่อม่านถูกเปิดออก และคำตอบก็ถูกเปิดเผยในที่สุด——

ทันทีที่ได้เห็นหน้าจอขนาดใหญ่ นักข่าวและผู้ชมที่มาร่วมงาน รวมถึงผู้ชมที่ยืนอยู่หน้าทีวี ต่างก็เปลี่ยนสีหน้าทั้งหมด และได้ถามออกมาพร้อมกันอย่างสงสัย “จริงๆ แล้วคือสองแบบ?”

เป็นสองแบบจริงๆ

เมื่อยวี่จิ้นเหวินมองดูผลิตภัณฑ์เครื่องประดับสองชิ้นที่แสดงบนหน้าจอ ก็อดคิดเกี่ยวกับการสนทนาที่เขาพูดกับหนานซ่งในนิทรรศการดอกไม้ในวันนั้นไม่ได้

“คุณคิดว่าสุดท้ายแล้วเป็นดอกไหนที่จะชนะ?”

“ดอกไหนชนะนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ ฉันได้ถูกใจดอกไหน”

“ที่จริงแล้วดอกไม้สามชนิดด้านหน้านี้เป็นตัวแทนของคำยืนยันของตลาดอยู่แล้ว ไม่ว่าสุดท้ายจะเลือกแบบไหน ก็ต้องตามเทรนด์แฟชั่นอย่างใกล้ชิด”

“ตลาดจำเป็นต้องพิจารณาจริงๆ แต่คุณคิดผิดแล้ว บริษัทหนานจิวเวลรี่ไม่เคยที่จะตามกระแสแฟชั่นใดๆ อย่างใกล้ชิด และไม่เคยเป็นผู้ตามตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่กลับเป็นผู้สร้างต่างหาก”

เธอพูดแล้ว เธอก็ทำได้แล้วเช่นกัน

ริมฝีปากบางของยวี่จิ้นเหวินค่อยๆ สูงขึ้นอย่างช้าๆ นิ้วของเขาแตะที่เข่าเป็นจังหวะ และเมื่อมองดูกล้องที่กำลังเล็งไปที่อัญมณีสองชิ้นนั้น ก็ถูกพวกมันถึงดูดไปโดยไม่รู้ตัว

สินค้าทั้งสองชิ้นนี้ ต่างก็มีชื่อของมันเอง

ชิ้นแรกชื่อ ประตูใจ อีกชิ้นชื่อว่า ประตูชีวิต