หนานซ่งและอีกสองคนนั่งอยู่ในห้องชิงหยาครู่หนึ่ง จากนั้นเฉิงเซี่ยนก็เพิ่งมาถึง
ซูอิงและซือตั๋วลุกขึ้นยืนต้อนรับ แต่เมื่อได้เห็นชายหนุ่มเดินเข้ามา ทั้งคู่ต่างตกตะลึง พวกเขารู้แล้วว่าทนายเฉิงยังหนุ่มยังแน่น แต่กลับไม่รู้ว่าเขาจะหล่อเหลาถึงเพียงนี้
เฉิงเซี่ยนสวมสูทลายทางสีเรียบ ความสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเมตร ผมของเขาหยักโศก สันจมูกสูงได้รูป สวมแว่นตากรอบทอง บนข้อมือสวมนาฬิกา Rolex ดูเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและมีเงินทอง
"ขอโทษด้วย รถติดมาก ผมมาสายแล้ว"
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ แม้แต่คำขอโทษก็ยังเผยให้รู้สึกถึงความจริงจัง
ซูอิงและซือตั๋วต่างตอบว่า 'ไม่สายไปหรอก' แต่หนานซ่งกลับตอบว่า "พี่เฉิง หากมาช้ากว่านี้อีกหน่อย หมูสับทอดตุ๋นผักกาดจะเสียรสชาติแล้ว"
สีหน้าที่เคร่งขรึมของเฉิงเซี่ยนเมื่อครู่นี้เผยให้เห็นถึงความแปรปรวนในอารมณ์ เขาถอดเสื้อคลุมออกแล้วพูดอย่างเป็นกันเองว่า "ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วยังไม่รีบเอาอาหารมาเสิร์ฟอีก หากไม่ใช่เพราะหมูสับทอดตุ๋นผักกาดของเธอ ฉันจะตรงมาจากเมืองไป๋เพื่อมาเมืองหนานไปทำไมกัน?"
หนานซ่งดีดนิ้วเรียกให้อาหารมาเสิร์ฟ จากนั้นเธอก็เปิดไวน์ใหม่ ไวน์นี้เพิ่งนำขึ้นมาจากชั้นใต้ดินเมื่อครู่นี้ ด้านบนขวดไวน์ยังคงเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นที่หนาแน่น
"พี่เฉิง วันนี้ฉันเตรียมไวน์ฮวาเตียวไว้ให้พี่ด้วย นี่คือสิ่งที่พี่สี่บอกให้ฉันต้องเตรียมไว้ให้พี่โดยเฉพาะ"
เฉิงเซี่ยนจุดบุหรี่ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาหรี่สายตาลงเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของเขา "สิ่งเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ ช่างมีน้ำใจจริงๆ"
ไวน์ชั้นดีและอาหารชั้นเลิศต่างก็วางอยู่บนโต๊ะอาหาร เฉิงเซี่ยนไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาขยี้บุหรี่และใช้ตะเกียบคีบหมูสับทอดตุ๋นผักกาดขาว จากนั้นแววตาที่อยู่ใต้แว่นก็ส่องประกาย "ไม่เลวเลย รสชาติยังเหมือนเดิม!"
หนานซ่งบอกให้ซูอิงและซือตั๋วทานอาหารได้เลย พวกเขาพลางทานอาหาร พลางพูดคุยถึงเรื่องความคืบหน้าของคดีไปด้วย
แม้ว่าการพูดคุยเรื่องธุรกิจระหว่างทานอาหารจะทำให้อาหารนั้นย่อยยากก็ตาม แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากการหาเวลาของทนายเฉิงนั้นยากยิ่งกว่าการรีดนมวัวเสียอีก ทุกๆนาทีมีค่าไม่ควรเสียเวลา
ทุกคำพูดของเฉิงเซี่ยนเป็นเหมือนกับทองคำ เขาไม่ชอบพูดคุยเรื่องไร้สาระ เขาตรงเข้าประเด็นและพูดคุยเพียงแค่เรื่องความคืบหน้าของคดี
ซือตั๋วยินดีจ่ายชดใช้ค่าเสียหายและหนานซ่งเองก็จะช่วยเขาชำระหนี้ที่เขาต้องชดใช้ให้หลี่หลงเซิง การยกเลิกสัญญานั้นไม่ยาก แต่เรื่องของซูอิงนั้นค่อนข้างยุ่งยาก
หลี่หลงเซิงไม่ยอมปล่อยบ่อเงินบ่อทองอย่างซูอิงไปง่ายๆแน่ ซูอิงอยู่กับหลี่หลงเซิงมาหลายปีแล้วและทั้งสองคนก็ยากที่จะตัดขาดความสัมพันธ์ เธอรู้ว่าหลี่หลงเซิงนั้นมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากมาย เธอเองก็ยังคงอยู่ในกำมือของหลี่หลงเซิง ต่อหน้าเธอนั้นสามารถยกเลิกสัญญาได้ แต่ลับหลังหลี่หลงเซิงก็สามารถทำลายเธอได้เช่นกัน
เมื่อได้ยินเฉิงเซี่ยนกล่าวถึงท่าทีที่แข็งกร้าวและดื้อดึงของหลี่หลงเซิงแล้ว หนานซ่งและซือตั๋วก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปทางซูอิง
ริมฝีปากสีแดงของซูอิงเผยรอยยิ้มเย้ยหยันตนเอง เธอจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบและพ่นออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย "ฉันเองก็คิดไว้ว่าเขาจะเป็นแบบนั้น เขาอยากจะทำลายฉันด้วยมือของเขาเองและเขาก็คงไม่ปล่อยฉันไป"
ซ่งหนานกำลังขยับริมฝีปาก ขณะที่เธอกำลังจะพูด เฉิงเซี่ยนก็เอ่ยถามเธอด้วยสีหน้านิ่งเฉย "หลี่หลงเซิงพยายามแบล็คเมล์ขืนใจคุณใช่ไหม?"
ทันทีที่ประโยคนี้ถูกถามออกไป มันรวดเร็วและเป็นคำถามที่ตรงไปตรงมา ซูอิงตัวสั่นเทาและบุหรี่ในมือของเธอก็สั่น
"พี่เฉิง..." หนานซ่งขมวดคิ้วและพยายามจะหยุดเขา
เฉิงเซี่ยนโบกไม้โบกมือไม่ยอมให้หนานซ่งขัดจังหวะ เขาถามซูอิงต่ออีกว่า "คุณต้องบอกผมว่าใช่หรือไม่ใช่"
แม้ว่าจะเคยผ่านประสบการณ์ที่เลวร้ายมามากมาย แต่ซูอิงก็ไม่ได้เล่าเรื่องของตนให้ผู้อื่นได้รับรู้ เธอไม่สามารถต้านทานคำถามของเฉิงเซี่ยนได้ ยิ่งไปกว่านั้น ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก เธอเองก็ละอายใจที่จะเปิดเผยความจริงออกมาให้ผู้อื่นได้รับรู้
ได้ยินมาว่าทนายเฉิงเป็นคนที่อารมณ์แปลกประหลาด นอกจากเก่งเรื่องคดีความแล้ว เขายังเก่งในเรื่องพูดจาแทงใจคนอีกด้วย คนที่ไม่สิ้นหวังจริงๆจะไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเขา
เมื่อเห็นสีหน้าของซูอิงซีดเผือด คำตอบก็ดูเหมือนจะชัดเจน
หนานซ่งให้คนของเธอมาปิดประตูให้เรียบสนิทมิดชิดและเอ่ยกับซูอิงว่า "คุณซูไม่ต้องแปลกใจ ทนายเฉิงไม่ได้จะทำร้ายคุณ เหมือนที่หมอตรวจคนไข้ ทนายความเองก็ต้องรู้เรื่องราวอย่างลึกซึ้งเพื่อลูกความของเขา ฉันพูดแบบนี้ คุณเข้าใจไหม?"
"หลังจากนั้น....ไอ้เฒ่าหวางนั้นก็คิดว่าไม่เอาเปรียบฉันก็คงน่าเสียดาย มันก็เหมือนหลี่หลงเซิงที่ต้องการฉัน หลี่หลงเซิงก็เป็นเหมือนกับเจ้าของซ่องโสเภณี ขายคนของตัวเอง"
เธอยิ้มเย้ยหยัน "ฉันรู้สึกท้อใจ เดิมทีฉันยอมแพ้แล้ว ในใจฉันคิดอยากจะฆ่าตัวตายและตายไปพร้อมกับเขา... ใครจะไปล่วงรู้ได้ว่าเฮ่อเซินจะมาและบอกว่าจะช่วยเหลือฉัน"
เมื่อเฉิงเซี่ยนได้ยินดังนั้น การแสดงออกบนใบหน้าของเขายังคงนิ่งสงบ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการว่า "ดังนั้นสิ่งที่หลี่หลงเซิงได้ทำก็คือการพยายามก่ออาชญากรรมและมันไม่สำเร็จ ในเมื่อไม่สามารถให้เขามาเป็นลูกไก่ในกำมือได้ ดูเหมือนว่าคุณก็คงจะหนีเขาไม่พ้น อยู่บริษัทซิงยวี่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ต่อไปเถอะ จะมายกเลิกสัญญาอะไร"
เมื่อเขาพูดแบบนี้ราวกับว่าเขาประกาศว่าความอดทนของเขาได้หมดลงและเขาได้พูดคำว่า 'ทานอิ่มแล้ว' เขาลุกขึ้นและเดินจากไป
หนานซ่งขมวดคิ้วแน่น
เธอรู้นิสัยและอารมณ์ของพี่ชายคนนี้ที่มักจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่รู้ว่าเธอฟังพี่สี่บ่นมากี่ครั้งกี่หนแล้ว แต่การทำแบบนี้แล้วจากไป มันไม่เหมือนเขาเลย
ซูอิงมองแผ่นหลังของเฉิงเซี่ยนที่กำลังจะจากไป ซูอิงตื่นตระหนกและอดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า "หากว่าฉันมีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาทำร้ายร่างกายฉันล่ะ?"
ฝีเท้าของเฉิงเซี่ยนหยุดลง เขาหันกลับไปมองซูอิง
แววตาคู่นั้นเฉียบคม หัวใจของซูอิงสั่นสะท้าน มีความรู้สึกอึดอัดและขาดความมั่นใจที่เขาสัมผัสได้
แน่นอนว่าหากไม่ใช่เพราะการกระตุ้นจากเฉิงเซี่ยน บางทีทั้งชีวิตที่เหลือของเธอ เธอจะไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงและก้าวมาอยู่ในจุดนี้
แต่ถ้าหากเรื่องหลังจากนี้มันสามารถประสบความสำเร็จได้ล่ะ?
เธอตัดสินใจและเอ่ยว่า "ฉันบันทึกวิดีโอของหลี่หลงเซิงและไอ้เฒ่าหวางไว้ ฉันบันทึกมันไว้หมด"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...