เมื่อเห็นหนานซ่งรับสัญญาไป เสียงของหนานซานไฉและซูรุ่ยต่างก็หยุดลง
เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ที่ไม่พอใจของหนานซ่ง ภายในใจของนายท่านหนานก็รู้สึกตื่นตระหนกอย่างอดไม่ได้ "ซ่งอา ฉันน่ะ...."
ในขณะที่เขากำลังจะอธิบาย หนานซ่งยิ้มและเอ่ยเบาๆ "โปรเจ็กต์นี้ดีเลยทีเดียว หากว่าคุณยินดีที่จะเข้าร่วมก็ไปเถอะ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับสัญญา ฉันจะขอให้ฝ่ายกฎหมายของบริษัทช่วยดูให้ อย่าให้มีข้อบกพร่องใด"
คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะยินยอมอย่างง่ายดาย หนานซานไฉดูประหลาดใจเล็กน้อยและพยักหน้าด้วยความงุนงง "โอเค โอเค"
เมื่อออกจากโรงพยาบาลมาก็เป็นช่วงพลบค่ำแล้ว
เมื่อได้ยินว่าซูรุ่ยมาแล้ว เฉวียนเยี่ยเชียนและไป๋ลู่ยวี๋ต่างก็โทรเข้ามา เพื่อเลี้ยงต้อนรับการเดินทางมาของเขาจึงได้จองร้านอาหารสือเว่ยไว้
ฝนตกลงมาอย่างหนักหน่วงทั้งยังเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ผู้คนต่างก็กำลังเลิกงาน บนท้องถนนมีรถเป็นจำนวนมาก รถของหนานซ่งเองก็ไม่สามารถขับเคลื่อนไปด้านหน้าได้
ภายในเมืองถูกปกคลุมไปด้วยเมฆฝนและหมอกทำให้บรรยากาศอับชื้นรวมถึงทำให้จิตใจผู้คนต่างรู้สึกหมองหม่น
เมื่อนึกถึงสัญญา ภายในใจของหนานซ่งก็รู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างอดไม่ได้
ซูรุ่ยที่นั่งอยู่เบาะหลัง เขานั่งถัดไปจากหนานซ่ง จู่ๆเขาก็เอ่ยขึ้นมาอย่างแผ่วเบา "เรื่องบางเรื่องหากว่าต้องเผชิญหน้ายังไงก็ต้องเผชิญหน้า หลบเลี่ยงไปก็ไร้ประโยชน์"
หนานซ่งหันศีรษะไปมองใบหน้าด้านข้างของซูรุ่ย ทันใดนั้นเขาหันศีรษะและเหลือบมองเธอ
"ฉันพูดผิดเหรอ?"
ดูเหมือนว่าเหมยซูจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก แต่ตราบใดที่ซูรุ่ยอยากจะรู้เรื่องอะไร เขาก็สามารถรับรู้ได้ทุกเรื่อง ไม่มีอะไรคลาดจากสายตาของเขา
เรื่องที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาสามปีระหว่างเธอและยวี่จิ้นเหวิน รวมถึงเรื่องที่พัวพันหลังจากที่หย่าร้างมาแล้วสองเดือน เขาจะต้องรู้แน่
"พี่พูดถูกต้องมาก" มุมริมฝีปากของหนานซ่งกระตุกเบาๆพร้อมกับเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน "แต่ฉันไม่อยากฟัง"
"........."
ซูรุ่ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เขายกมือขึ้นมาและเคาะหน้าผากหนานซ่ง "ซูยินเจ้าเด็กลิงนั่นเรียนรู้เรื่องแย่ๆมาจากเธอทั้งนั้น คอยdiss คอยแขวะฉันอยู่ทุกวัน"
"โอ้ คุณชายซูยังเข้าใจภาษาอังกฤษ ฉันคิดมาตลอดว่าพี่น่ะมาจากยุคโบราณ"
ซูรุ่ยเหลือบมองเธออย่างขุ่นเคือง "อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง"
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ หนานซ่งจึงจ้องมองดวงตาของซูรุ่ยจากนั้นเอ่ยว่า "พี่ พี่ก็รู้ว่าการผ่าตัดลำไส้และขูดกระดูกมันเป็นเจ็บปวดมากแค่ไหน?"
ซูรุ่ยมองดูเธอด้วยแววตาที่ล้ำลึก แววตานั้นมืดมนลง
"ฉันเคยลิ้มรสมาแล้วสองครั้ง"
หนานซ่งค่อยๆเปิดริมฝีปากของเธอ สีหน้าของเธอหม่นหมองมากกว่าท้องฟ้าด้านนอก "ชีวิตนี้ฉันไม่อยากสัมผัสลิ้มรสแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สาม"
ซูรุ่ยมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของหนานซ่ง เขารู้สึกลำคอแหบแห้งและตื่นตระหนก
เขารู้ว่าที่เธอบอกว่าสองครั้งคืออะไร
ครั้งแรกอาจจะเป็นตอนที่พ่อและแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
อีกครั้งก็คงเป็นตอนที่ยวี่จิ้นเหวินหย่ากับเธอ
คนที่รักเธอมากที่สุดและคนที่เธอรักมากที่สุดได้หายตัวไปจากโลกของเธอในระยะเวลาเพียงไม่นานนัก
ด้วยเหตุผลนี้ หนานซ่งคนก่อนหน้านี้ที่ร้ายลึก ร่าเริงและซุกซนจึงกลายเป็นคนเย็นชา ไม่แยแสใครและดูหม่นหมอง
ทันใดนั้นซูรุ่ยก็เอ่ยขึ้นว่า "จริงๆแล้วช่วงสามปีนั้นที่เธอแต่งงานกับยวี่จิ้นเหวิน ฉันกับอาเหิงไปหาเธอที่เมืองเป่ย"
หนานซ่งกระพริบตาในทันใดและเธอหันหน้าไปทันที "พี่กับพี่ใหญ่?"
"อืม"
ดวงตาของซูรุ่ยเหมือนสายน้ำ "เขายังคงกังวลเรื่องเธอและลากฉันไปหาเธอ"
ไม่ง่ายเลยที่จะปีนออกมา
แต่สุดท้ายเรื่องมันก็น่าเศร้าสลด
——
ในคืนนี้ท้องฟ้าในเมืองเป่ยนั้นมืดสนิท ไม่มีดวงดาวบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
ยวี่จิ้นเหวินทำงานล่วงเวลา เมื่อเขาออกจากบริษัท เดิมทีเขาต้องการกลับไปยังคฤหาสน์ยวี่ หลังจากคิดถึงบ้านที่ว่างเปล่าแล้วเขาก็ขมวดคิ้วและเอ่ยว่า "ไปพิพิธภัณฑ์จิงเหวิน"
เมื่อเคาะประตูใหญ่ของพิพิธภัณฑ์จิงเหวิน ด้านในมีเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆก้าวมาดังขึ้นตามด้วยเสียงที่เอ่ยขึ้น "ใคร?"
"อาจารย์ ผมเอง"
ทันทีที่ได้ยินเสียงก็รู้ว่าชายชราถูกปลุกจากห้วงความฝัน ยวี่จิ้นเหวินรู้สึกเกรงใจ ขณะที่ยังไม่เห็นหน้าเขาจึงเอ่ยตอบรับอาจารย์
เมื่อประตูเปิด ภัณฑารักษ์เหวินเห็นคนที่มาเยือน เขาเอ่ย "ไอยา แขกที่มาเยือนไม่บ่อยนัก"
เขาให้ยวี่จิ้นเหวินเข้ามาจากนั้นเขาก็ล็อคประตู เขาเดินเข้ามาพร้อมกับตะเกียงน้ำมัน หาวครั้งหนึ่งและพูดว่า "รู้ว่านายกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับหยกที่แตกหัก ฉันจะคอยอยู่เป็นเพื่อนนายแล้วกัน"
กองเศษหยกที่แตกหักวางอยู่ในตู้เซฟ มันแข็งแรงและเป็นส่วนตัวพอๆกับตู้เซฟธนาคาร กุญแจมีเพียงสองดอกซึ่งอยู่ในมือของยวี่จิ้นเหวินและภัณฑารักษ์เหวิน
ขั้นแรกเปิดตู้เซฟและตรวจสอบชิ้นส่วนหยกที่แตกหัก หยกที่หักเป็นส่วนๆก็ยังดูเป็นหยกที่ดี ยวี่จิ้นเหวินจินตนาการได้ว่าหยกที่แตกหักเหล่านี้หลังจากการแกะสลักอย่างพิถีพิถันของหนานซ่งจะกลายเป็นสิ่งของที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก
หากว่าหนานซ่งได้เริ่มลงมือ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ยิ่งดี
เมื่อนึกได้เช่นนี้ ภายในใจของยวี่จิ้นเหวินก็รู้สึกเศร้าหมอง
ภัณฑารักษ์เหวินจ้องมองสีหน้าของยวี่จิ้นเหวิน เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มและเอ่ยถาม "ทำไมนายถึงมองหยกชิ้นนี้ราวกับว่ากำลังมองหญิงสาวอย่างไรอย่างนั้น ทำไมกัน คิดถึงภรรยาของนายอีกแล้วหรือ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...