เมื่อเก็บโทรศัพท์ หนานซ่งก็รู้สึกดี
ทุกครั้งหลังจากที่ได้คุยกับพี่ใหญ่ เธอรู้สึกมีความสุขและผ่อนคลายมาก ราวกับว่าต่อให้เกิดเรื่องใหญ่อะไรก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเพราะมีเขาอยู่ด้วย
แค่เพียงพี่ใหญ่นั้นค่อนข้างยุ่ง ทั้งยังมีสาเหตุเรื่องของตัวตนของเขา เขาจึงไม่อาจไปต่างประเทศได้ตามต้องการ ดูเหมือนว่าเธอคงจะได้บินไปประเทศYแล้ว ไปปลอบใจคนโสดมีระดับเสียหน่อย
แล้วเขายังพูดอีกว่า 'ซื้อเกาะไว้ให้เธอแล้ว เธอไม่มาดูหน่อยล่ะ?'
เห็นได้ชัดเลยว่าคิดถึงเธอแล้ว
ผู้ชายปากแข็ง
มุมปากของหนานซ่งเผยรอยยิ้มเบาๆ จากนั้นฟู่ยวี่ก็แซวเธอ
"เกิดเรื่องอะไรดีๆเหรอ ยิ้มมีความสุขเชียว?"
ฟู่ยวี่เลิกคิ้ว "พูดมาเลย ให้ทุกคนได้มีความสุขไปด้วย"
เขาก้าวเท้าเข้ามาและนั่งลงด้านข้างหนานซ่ง หนานซ่งผลักเขา ในขณะเดียวกันลั่วโยวเองก็ดึงฟู่ยวี่ไว้ "ใช่ที่ที่นายจะนั่งไหม?"
จากนั้นเนื่องจากความช่วยเหลือของหนานซ่ง ลั่วโยวก็ได้นั่งลงอย่างเกียจคร้าน
ฟู่ยวี่...ทำได้เพียงแค่ยืน
เขาส่งเสียงฮึอย่างไม่พอใจ
"ให้ฉันเดานะ"
ลั่วโยวกระพริบตาคู่สวยและมองไปที่หนานซ่ง "ไอ้ยวี่จะกลายเป็นปลาหมอสีหัวโล้นใช่ไหม? แค่คิดก็น่ารักแล้วก็ตลกแล้ว ฮ่าๆๆ"
หนานซ่งกระตุกมุมปาก "ปลาหมอสีหัวโล้น?"
"ใช่ไง ฉันกับฟู่ยวี่ตั้งฉายาใหม่ให้ไอ้ยวี่เลย ไม่เลวใช่ไหม?"
สีหน้าของลั่วโยวดูชื่นชมและยกยอตนเอง
หนานซ่งครุ่นคิดเกี่ยวกับฉายาปลาหมอสีหัวโล้น เธอนึกถึงหน้าผากที่กว้างของยวี่จิ้นเหวิน จริงๆแล้วมันก็เหมาะสมมาก เธอพยักหน้า "เยี่ยมยอด"
ฟู่ยวี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา จากนั้นเขาก็เอนหลังพิงผนังอย่างเกียจคร้าน
"ไอ้ยวี่ตื่นขึ้นมาตามหาเธอไปทั่ว เธออยากเจอเขาหรือเปล่า?"
หนานซ่งคิดแล้วว่าใกล้ถึงเวลาที่เขาจะตื่นแล้ว เธอมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของเธอ เธอผ่าตัดด้วยมือของเธอเอง เธอรู้ถึงสถานการณ์อาการของยวี่จิ้นเหวินดีและไม่แปลกใจ
เธอลูบลำคอที่เจ็บของเธอและสูดลมหายใจเข้า
"เอาสิ ฉันต้องคุยกับเขาเกี่ยวกับข้อควรระวังหลังการผ่าตัด"
หนานซ่งลุกขึ้น เธอสัมผัสแขนลั่วโยวเบาๆและตรงไปยังห้องพักผู้ป่วย
ลั่วโยวนั่งยกเท้าขวาวางไว้บนหัวเข่าซ้าย ท่านั่งที่ยิ่งใหญ่ เธอมองแผ่นหลังที่เพรียวบางของหนานซ่งจากนั้นเธอถอนหายใจ "ลำบากเสี่ยวซ่งของฉันเสียจริง"
ฟู่ยวี่ยืนจนเหนื่อย เขาเดินมาและนั่งไขว่ห้างบนที่นั่งของหนานซ่งเมื่อครู่
"สิ่งนี้เรียกว่า คนมีความสามารถก็ต้องเหนื่อยมากหน่อย เหมือนกับอัจฉริยะอย่างเราที่เหนื่อยมากไง"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจราวกับว่าเป็นความจริง
"พวกเรา? อัจฉริยะ?"
ลั่วโยวยื่นมือออกไปแตะหน้าผากของฟู่ยวี่ "พี่น้อง นายไม่ได้ป่วยใช่ไหม?"
"เธอน่ะสิป่วย!"
ฟู่ยวี่ตอบกลับ เขาจ้องไปที่ร่างสูงที่มาจากมุมห้อง ใบหน้ามืดมน ดวงตาของเขาราวกับลูกศรพิษ "แกด่าใคร?"
เมื่อเฉวียนเยี่ยเชียนมา เขาก็จิกกัดฟู่ยวี่
น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดีนัก ฟู่ยวี่แสดงความอ่อนแอต่อคู่ต่อสู้อย่างไม่เต็มใจ
"ฉันถกเถียงสู้รบกับสหายสนิท ฉันยังต้องให้คุณชายเฉวียนยินยอมด้วยหรือ?"
"ต้องสิ"
เฉวียนเยี่ยเชียนตอบโดยไม่คิด
ฟู่ยวี่หัวเราะอย่างขุ่นเคือง "เฮอะๆ ทำไม? คุณเกี่ยวข้องอะไรกับลั่วโยว?"
"ฉันเป็นผู้ชายของเธอไง"
เฉวียนเยี่ยเชียนเดินมาข้างกายลั่วโยว มือล้วงกระเป๋ากางเกงและจ้องมองฟู่ยวี่
"ถ้าไม่อยากเจอดี รีบไสหัวไป"
ฟู่ยวี่พูดในใจ : นายให้ฉันไปแล้วฉันก็ไป ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็ดูไม่มีศักดิ์ศรีน่ะสิ
เขายังนั่งอยู่อย่างนั้นและจ้องมองลั่วโยว "พวกเธอกำลังมีความรักกันงั้นเหรอ?"
ลั่วโยวส่ายหน้า "เปล่านี่"
จากนั้นเขามองไปที่เฉวียนเยี่ยเชียนอย่างไม่มั่นใจนัก "มีหรือเปล่า?"
เฉวียนเยี่ยเชียน “มี!”
ลั่วโยว "........"
พวกเขากำลังเดทกันอยู่เหรอ? ทำไมเธอไม่รู้เลย?
“นี่ฉันไม่ทันข่าวอะไรไปหรือเปล่า?”
—
ทันทีที่เธอเข้ามาภายในห้องพักผู้ป่วย เธอก็พบว่าทุกคนในตระกูลยวี่ต่างก็อยู่ที่นี่
และทันทีที่เธอเข้าไป เธอก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น——
"เสี่ยวซ่ง!"
นายหญิงยวี่เดินเข้ามาหาเธอพร้อมรอยยิ้มและจับมือเธอไว้ ทุกคนในตระกูลยวี่หลีกทางให้เธอจากนั่งหยิบเก้าอี้ให้เธอนั่ง "มาเร็ว เร็วๆเลย มานั่งนี่"
หนานซ่งไม่อาจต้านทานการต้อนรับที่อบอุ่นเช่นนี้ได้ เธอค่อยๆยิ้ม
ทันทีที่นั่งลง เธอก็สบสายตาเข้ากับสายตาของยวี่จิ้นเหวิน
ศีรษะของเขายังคงพันผ้าพันแผลไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อและเจอฝุ่นควัน แต่ผ้าพันแผลนี้ไม่สามารถปกปิดใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาได้ ใบหน้านี้ในปีนั้นทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ
สิ่งที่เรียกว่ารักแรกพบเป็นเรื่องของความรู้สึก ประโยคนี้ไม่ได้โกหกเลยแม้แต่น้อย
หากว่ายวี่จิ้นเหวินเติบโตขึ้นอย่างน่าเกลียด บางทีชะตากรรมระหว่างเธอกับเขาจะยังคงอยู่ในขั้นของ "การตอบแทนความเมตตา" เท่านั้น จะไม่มีความรู้สึกทางอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องและจะไม่มีชะตากรรมรักที่เลวร้ายเกิดขึ้น
“รู้สึกอย่างไรบ้าง” เธอเอ่ยถามเบาๆอย่างเป็นธรรมชาติ
ยวี่จิ้นเหวินขยับริมฝีปากที่แห้งเป็นขุยของเขา "ก็โอเค แค่รู้สึกมึนๆหัวนิดหน่อย"
"นายเพิ่งผ่าตัดใหญ่เสร็จ ร่างกายยังไม่แข็งแรง ผลกระทบจากการถูกกระแทกยังไม่หาย มีอาการมึนๆเป็นเรื่องปกติ ต้องพักผ่อนเยอะๆ ภายในห้องพักผู้ป่วยอย่าให้มีคนอยู่จำนวนมาก"
หนานซ่งเอ่ยจบ คนตระกูลยวี่ต่างก็พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง
"รู้แล้ว เข้าใจแล้ว พวกเราเยี่ยมเสร็จก็กลับแล้ว จะผลัดกันมาเฝ้า"
หนานซ่งพยักหน้า จากนั้นเธออธิบายข้อควรระวังหลังจากผ่าตัด
ทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังกันอย่างเงียบๆและจดจำคำพูดของหนานซ่ง ตอนนี้คำพูดของหนานซ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องทำตาม เมื่อได้ยินคำสั่งของแพทย์ออกจากปากของเธอ พวกเขาทั้งชื่นชมและรู้สึกมหัศจรรย์
"พี่หนาน พี่นี่สุดยอดไปเลย! พี่จะเก่งไปหมดทุกด้านได้ไงกัน!"
ยวี่เจ๋ออวี่มองหนานซ่งด้วยแววตาชื่นชม "หากว่าฉันเรียนแพทย์ได้ดี ฉันจะเคารพพี่ในฐานะปรมาจารย์อย่างแน่นอน"
คุณท่านยวี่สามตบศีรษะลูกชายของเขา "หยุดเอาหน้าเถอะ หัวสมองแกหลังจากเรียนจบเหมือนกับเอาขี้เถ้ายัดใส่สมอง พี่หนานเธอจะสนใจแกเหรอ?"
ทุกคนหัวเราะ หนานซ่งมองไปที่ยวี่เจ๋ออวี่ เขาลูบศีรษะของตนเองและแสดงสีหน้าไม่พอใจ เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
"ก็ไม่มีอะไรมาก ถ้าหากไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อน"
หนานซ่งลุกขึ้นจากนั้นยวี่จิ้นเหวินคว้าข้อมือเธอเอาไว้
"อย่าไป"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...