สถานที่ที่ตกลงกันคือห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก ที่นั่นมีร้านอาหารยูนนานที่มีคะแนนโหวตบนแอพดีพอสมควร
เมื่อเวลาค่ำมาเยือน ก็เป็นเวลาของการทานอาหาร ลูกค้ามีจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ภายใต้แสงไฟสีเหลืองนวล บรรยากาศร้านดีมาก แถมบนโต๊ะยังมีกลองPellet Drumแบบชนเผ่าไตวางอยู่ (ลักษณะเป็นกลองสองด้านที่มีไม้เสียบยาวอยู่ด้านใต้ ข้างตัวกลองมีเชือกที่ปลายด้านหนึ่งมีลูกตุ้มห้อยอยู่) เอาไว้ใช้สั่งอาหาร
หนานซ่งถามซือเจ๋อว่าอยากกินอะไร
ซือเจ๋อเทน้ำให้เธอ แล้วตอบไปเบา ๆ : "พี่เลือกอะไรมาก็ได้ครับ ผมกินได้หมด"
คำนวณจากปริมาณอาหารของนักกีฬา หนานซ่งสั่งซุปไก่ เต้าหู้แข็งผัดไส้หมู บะหมี่ไก่ตุ๋นสไตล์คุนหมิง ปลาย่างสไตล์ชนเผ่าไต
แถมยังสั่งเหล้าที่หมักจากข้าวผสมกับดอกหอมหมื่นลี้มาอีกหนึ่ง
"พอหรือยัง?" หนานซ่งถามซือเจ๋อ
ซือเจ๋อยิ้ม "พอแล้วครับ ตอนเย็นไม่ได้กินเยอะมาก ไม่พอค่อยสั่งเพิ่ม"
หนานซ่งส่งเมนูให้กับพนักงาน "อย่างนั้นสั่งแค่นี้ก่อนแล้วกันค่ะ"
อาหารมาเสิร์ฟค่อนข้างเร็ว หนานซ่งตักซุปให้ซือเจ๋อหนึ่งถ้วย จากนั้นก็ใช้ที่คีบ คีบขาไก่ให้เขา "กินเยอะ ๆ บำรุงร่างกาย ดูสิเธอผอมหมดแล้ว"
"ครับ พี่เองก็กินเยอะ ๆ "
ซือเจ๋อมีรอยยิ้มสดใส ใบหน้าหล่อเหลานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ได้มองแล้วก็ทำให้คนเจริญอาหาร
ทั้งสองคนกินไปแล้วก็คุยกันไป
"ซือตั้วเป็นยังไงบ้าง?"
ช่วงนี้หนานซ่งยุ่งมาก ไม่มีเวลาดูแลบริษัทหนานซิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เลยด้วยซ้ำ เพียงได้คุยกับพี่สามเฮ่อเซินบ้างก่อนหน้านี้
ซือเจ๋อตอบ: "พี่ก็สบายดีครับ ฉากที่เมืองชิงถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว สองสามวันมานี้ก็ได้กลับมาถ่ายที่สตูดิโอต้าเซิ่งแล้ว ที่นั่นห่างจากเมืองหนานไม่ไกล พอฝึกซ้อมเสร็จผมสามารถไปสังเกตการทำงานที่นั่นได้"
หนานซ่งพยักหน้า "เดี๋ยวขอดูเวลาอีกที ถ้าเกิดว่างฉันจะไปสังเกตการทำงานกับเธอ"
"ดีเลยครับ"
ดวงตาของซือเจ๋อเป็นประกาย "พี่ พี่จะกลับไปเมืองหนานตอนไหนเหรอ?"
"ก็น่าจะไม่กี่วันนี้แหละ ก่อนวันชีซี มีงานที่ต้องรีบไปจัดการให้เสร็จ"
หนานซ่งดื่มเหล้าข้าวเข้าไปอึกหนึ่ง รสชาติที่เข้าไปในปากนุ่มละมุนลิ้น ไม่เลวเลยทีเดียว
ซือเจ๋อพยักหน้า มองหนานซ่งที่นั่งอยู่ใต้แสงไฟ ริมฝีปากสีแดงเรื่อ ฟันขาว เครื่องหน้าสวยงามราวกับโดนวาด เขารู้สึกเจริญอาหาร
"พี่" เขาพูดขึ้นด้วยความสงสัย "วันนี้ที่ไปโรงพยาบาล มีเพื่อนป่วยเหรอครับ?"
หนานซ่งนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็บอกออกมา: "อืม ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย ฉันก็เลยไปเยี่ยม"
แววตาที่มองหนานซ่งอยู่ของซือเจ๋อดูเข้มขึ้นเล็กน้อย หัวใจของเขากระตุก แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้
"คือสามีเก่าของพี่ คุณชายยวี่เหรอครับ?"
หนานซ่งเหลือบตามองเขา จากนั้นก็ยิ้มออกมา "รู้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย"
"ผมเห็นข่าว"
ซือเจ๋อเม้มริมฝีปาก "ในข่าวรายงานว่าประธานบริษัทตระกูลยวี่กระทำความดี ออกโรงปกป้องผู้หญิงคนหนึ่ง ถึงจะไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่ว่าผมเดา ว่าน่าจะเป็นพี่"
"เป็นฉัน"
หนานซ่งบอกออกมานิ่ง ๆ จากนั้นก็กระดกเหล้าเข้าปาก เสียงใสเอ่ยออกมาต่อ "ที่เขาได้รับบาดเจ็บก็เพราะเข้ามารับไม้นั่นแทนฉัน"
ซือเจ๋อมองหนานซ่งที่ดูใจลอย เขาก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา บอกไม่ถูกว่าในใจรู้สึกยังไง โทษตัวเองที่เลือกพูดหัวข้อที่ทำให้ตัวเองรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
"ผมพูดมากไปหน่อย พี่อย่าถือสาเลยนะ ไม่อยากพูดก็ช่างมันเถอะ"
ซือเจ๋อหยิบที่คีบขึ้นมาคีบเต้าหู้แล้ววางลงในจานของหนานซ่ง "เต้าหู้ของที่นี่รสชาติไม่เลว พี่ลองชิมดู"
หนานซ่งไม่อยากให้บรรยากาศดี ๆ แบบนี้โดนทำลายเพราะอดีตสามีของตัวเอง เธอเองก็พยายามเปลี่ยนบทสนทนาเป็นเรื่องอื่นเหมือนกัน
"ช่วงนี้เธอเป็นยังไงบ้าง ฝึกหนักหรือเปล่า?"
"ยังพอไหวครับ"
ซือเจ๋อซดน้ำซุปของซุปไก่เข้าไป "ก็แค่พอเข้าไปในทีมระดับประเทศแล้ว การฝึกก็เข้มงวดขึ้น ไม่ได้มีเวลาไปช่วยที่ร้านมากขนาดนั้นแล้ว"
หนานซ่งตาเป็นประกายในทันที "อยู่ในทีมระดับประเทศแล้วเหรอ?"
"อืม" ซือเจ๋อพยักหน้า
"เก่งมาก ยินดีด้วยนะ! ซือเจ๋อของเราเก่งที่สุด"
หนานซ่งยกถ้วยซุปขึ้นมาอย่างดีใจ "มา พวกเรามาใช้ซุปไก่ฉลองกันดีกว่า ฉันขอเป็นกำลังใจให้นาย ไฟต์ติ้ง"
ซือเจ๋อเดินช้า ๆ เรื่อย ๆ เพราะเขายังไม่อยากกลับ มือของเขาถือกระเป๋าเอาไว้ หลังจากที่พิจารณาอย่างถี่ถ้วนเขาก็เอ่ยออกมา
"พี่ หลังจากที่ฝึกซ้อมเสร็จ ผมก็จะเข้าสู่ช่วงการแข่งขันระดับประเทศแล้ว ถึงตอนนั้นพี่มาดูผมได้ไหม?"
หนานซ่งถาม: "เป็นช่วงไหนล่ะ แล้วจัดที่ไหน?"
ซือเจ๋อส่ายหน้า แล้วเม้มปาก "ไม่รู้ครับ ยังไม่แน่ใจ"
หนานซ่งหัวเราะออกมาด้วยความจนใจ "ถามเธอ เธอก็ไม่รู้อะไรสักอย่าง อย่างนี้จะให้ฉันรับปากได้ยังไง?"
"ผมอยากให้พี่มา"
ซือเจ๋อมองหนานซ่งด้วยสายตาอ้อนวอน ท่าทางดูใสซื่อ
เรื่องที่อาจจะทำได้ไม่สำเร็จ น้อยนักที่หนานซ่งจะรับปาก แต่ว่าดวงตาใสซื่อเหมือนลูกกวางคู่นี้ ก็ทำให้เธอใจแข็งปฏิเสธไม่ไหวเหมือนกัน
"อย่างนั้นก็ได้ เธอต้องบอกฉันล่วงหน้านะ ถ้าเกิดว่าฉันอยู่ในประเทศ ไม่มีเรื่องด่วน ฉันจะไป"
"ครับ ผมจะจองตั๋วไว้ให้พี่หนึ่งใบ"
ซือเจ๋อโบกมือลาหนานซ่ง เดินไปแล้วก็ยังหันกลับมามองเธออยู่อีก และในตอนที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง เขาก็รีบวิ่งออกมาอีก
หนานซ่งเห็นว่าเขากลับออกมาอีก "ทำไมเหรอ?"
"พี่ ถ้าเกิดว่าผมแข่งชนะ พี่ให้รางวัลผมได้ไหม?"
หนานซ่งชะงักไป จากนั้นก็หัวเราะออกมา: "ยังไม่ทันได้แข่ง ก็คิดถึงชัยชนะเสียแล้ว แถมยังขอรางวัลอีก......เด็กน้อย กิเลสมากขนาดนั้นเชียว"
เธอตีหัวเขาเบา ๆ แต่เขากลับมองเธอนิ่ง ๆ ถ้าไม่ได้สิ่งที่ต้องการเขาก็ไม่ยอมแพ้
"ก็ได้~" หนานซ่งหมดหนทางจะบังคับเด็กคนนี้ "เธอตั้งใจซ้อมเถอะ ถ้าเกิดว่าเอาเหรียญทองกลับมาได้ ฉันจะให้รางวัล"
"ตกลงแล้วนะ!"
มองร่างกายสูงใหญ่ที่วิ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว หนานซ่งก็อดจะบ่นกับตัวเองเบา ๆ ไม่ได้ "วัยรุ่นนี่มันดีจริง ๆ เลยนะ ถ้าฉันเด็กกว่านี้สักเจ็ดแปดปีก็ดีสิ นั่นก็คงเป็นช่วงเวลาของสาวน้อยสินะ"
เหล่าบอดี้การ์ดพูดขึ้น: "ตอนนี้คุณก็ยังสาวนี่ครับ ไม่ได้แก่เลยสักนิด"
"จิ๊ ปากหวานนะ"
หนานซ่งอารมณ์ดี "มาเอาอั่งเปาไปเลย!"
เหล่าบอดี้การ์ดเองก็ดีใจเหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...