สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 419

ยวี่จิ้นเหวินรู้ดีว่า พวกเขา ที่ออกมาจากปากของหนานซ่งนั้นหมายถึงใคร

เพียงแต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะกลับมาไวขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเรื่องของเซียวเอินนั้นจะผ่านไปด้วยดีและจบลงก่อนที่จะถึงเวลา

เขาเอ่ยอย่างไม่ลังเล "ฉันจะกลับไปเมืองหนานกับเธอด้วย"

“ไม่ต้องหรอก”

หนานซ่งเอ่ย “ไม่ง่ายเลยกว่านายจะกลับมาได้ อยู่กับครอบครัวนายไปเถอะ มาถึงแล้วก็จะไปเลยงี้เหรอ?”

"แต่ว่าเธอ..."

ยวี่จิ้นเหวินขมวดคิ้วแน่น "ให้เธอกลับไปคนเดียว ฉันไม่สบายใจ"

"พี่ใหญ่ส่งเครื่องบินส่วนตัวมารับแล้วก็พี่รุ่ยอยู่เมืองเป่ยพอดี เขาจะกลับพร้อมฉัน"

"แต่ว่า...."

"ไม่ต้องแต่แล้ว"

หนานซ่งถอนหายใจ "การรวมญาติของเราไม่อบอุ่นเหมือนของนายหรอก การพบกันอาจเป็นพายุนองเลือด นายไม่ต้องเห็นคงจะดีกว่า"

ยวี่จิ้นเหวินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

สิ่งนี้ลั่วอินเองก็เคยพูด เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าการพบปะญาติมิตรนั้นร้ายแรงถึงขั้นนองเลือดได้อย่างไร

แม้ว่ายวี่จิ้นเหวินจะยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่า หนานซ่งก็ยังไม่ยอมให้เขากลับไปเมืองหนาน หากว่ายังดื้อด้านต่อไปมีหวังเธอได้โกรธเขาแน่ ยวี่จิ้นเหวินจึงรับฟังแต่โดยดี

"งั้นฉันอีกสองสามวันค่อยตามไปเมืองหนาน"

เมื่อเห็นหนานซ่งขมวดคิ้ว เขาก็รีบพูดว่า "เรื่องงานน่ะ ฉันอยากจะคุยกับเธอหน่อย"

เมื่อได้ยินคำว่าเรื่องงาน คิ้วของหนานซ่งก็ค่อยๆคลายปม

เมื่อยวี่จิ้นเหวินกลับมา ภาระของบริษัทยวี่ก็เบาลง ทันทีที่พ่อแม่ของเธอกลับมา ภาระของบริษัทหนานก็เบาลงเช่นกัน

เมื่อเธอคิดได้ว่าเธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลาย อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้น สีหน้าของเธอก็ดูดีขึ้นโดยธรรมชาติ

เธอตอบรับ 'อืม' และไม่ได้ห้ามเขา

"งั้นช่วงสองสามวันนี้นายก็อยู่ที่นี่อยู่เป็นเพื่อนตากับยายเถอะแล้วก็คุณน้ายวี่ด้วย อย่าไปเที่ยวเล่นที่ไหน ส่วนเรื่องงานไม่ต้องเร่งรีบขนาดนั้น"

ยวี่จิ้นเหวินพยักหน้า "ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะเชื่อฟังเธอ"

อาจเป็นเพราะเคยชินกับการเล่นกับเด็ก เมื่อได้ยินยวี่จิ้นเหวินพูดเช่นนั้น หนานซ่งก็ตอบโดยไม่รู้ตัวว่า "เด็กดี"

"...."

ปากเร็วกว่าสมอง

หลังจากพูดจบ เธอรู้สึกว่าบรรยากาศเงียบไปชั่วขณะ แต่ยวี่จิ้นเหวินยังดูเป็นปกติ

หากคนอื่นไม่ได้รู้สึกอึดอัด ความอึดอัดนั้นก็จะอยู่ที่ตัวเอง

เธอโบกมือลาตระกูลยวี่ หนานซ่งพาหนานซานไฉขึ้นรถและตรงไปยังสนามบิน

หนานซานไฉเม้มริมฝีปาก "เฮ้? ทำไมฉันรู้สึกว่ายวี่จิ้นเหวินกลับมาครั้งนี้ ท่าทางระหว่างเธอและเขานั้นดูแปลกๆไปนะ?"

หนานซ่งเงยหน้าขึ้นทันที "แบบนั้นเหรอ? แปลกเหรอ?"

"ใช่แปลก"

หนานซานไฉดูดท่อยาสูบพร้อมกับพยักหน้าและเอ่ยอย่างจริงจัง "แต่ชายคนนี้ หลักจากผ่านช่วงชีวิตหลังความตายมาแล้วเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนจริงๆ ฉันคิดว่าไอ้เจ้าเด็กยวี่นี้ช่างดูเป็นผู้เป็นคนกว่าเมื่อก่อนมาก เขาดูมีตะกอนความคิด เหมือนเขาได้กลับไปหลอมตัวเองและสร้างตัวเองขึ้นใหม่ แต่เหมือนฉันเห็นเงาพ่อของเธอทับซ้อนกับเขา เธอว่าเกิดอะไรขึ้น?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหนานซ่งก็ตื่นตระหนกไปชั่วขณะ แต่ปมภายในใจของเธอกลับดูคลายลง

ยวี่จิ้นเหวินอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเธอมานานกว่าครึ่งปีแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีความคล้ายคลึงกับพ่อและแม่ของเธออยู่บ้าง

แต่ปู่ก็พูดอ้อมค้อม วนไปวนมา ทั้งที่อยากจะได้ยินนั้นก็คือเรื่องของพ่อและแม่ของเธอ

"เด็กน้อยซ่ง บนศีรษะของยวี่จิ้นเหวินนั้นคำว่า 'ซ่ง' มันเป็นลายมือของพ่อเธอ ลายมือของเขานั้นในตอนเด็กๆเป็นฉันเองที่ถือไม้หวายสอนเขา เป็นสไตล์ของตัวเองและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แค่แวบเดียวฉันก็มองออกแล้ว!"

หนานซานไฉพ่นลมหายใจ "ทักษะฝีมือการตัดผมก็เป็นเอกลักษณ์ของอินอิน เธอชอบตัดลวดลายลงบนศีรษะของผู้คน ก่อนหน้านี้เธอเคยตัดเป็นรูปดอกกุหลาบลงบนศีรษะพ่อของเธอและยังคิดจะตัดรูปท่อยาสูบลงบนศีรษะฉัน ฉันเลยไล่ตะเพิดเธอไป!"

อะไรที่เรียกว่า'น่าอับอาย' หลังจากที่ห่างหายจากความรู้สึกนี้ไปนาน ยวี่จิ้นเหวินก็ได้สัมผัสอีกครั้ง

เรื่องนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเปิดเผยตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่การขอโทษนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องที่ผิด

การขอโทษผ่านวีแชทนั้นดูไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่ ยวี่จิ้นเหวินจึงกดโทรออกในทันที

ขณะที่โทรออก หัวใจของเขาก็เต้นเร็วเกินร้อยหกสิบครั้งต่อหนึ่งนาที เขากลัวว่าหนานซ่งจะไม่รับสายและตัดสายเขาทิ้งไป

รอประมาณห้าถึงหกวินาที ยวี่จิ้นเหวินกลับรู้สึกเหมือนเขารอมาห้าหรือหกปีแล้ว เขากัดนิ้วด้วยเองพร้อมด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

ฟู่ยวี่และจ้าวซวี่มองมาทางเขาและร้องเพลงประกอบ "เพื่อนตัวน้อย นายมีคำถามมากมาย..."

'ติ๊ง' หัวใจของยวี่จิ้นเหวินแทบหยุดเต้น เขาคิดว่าหนานซ่งตัดสายเขาไปแล้ว เมื่อเขาเห็นสถานะการสื่อสาร เขาก็ตระหนักว่าหนานซ่งรับสายเขา

"เสี่ยวซ่ง!" จู่ๆเขาก็ลุกขึ้นและตะโกนออกมา "ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ..."

"ไม่สิ ฉันตั้งใจ..."

ยิ่งเขาอธิบายก็ยิ่งผิด ยวี่จิ้นเหวินหลับตาลง จากนั้นภายในใจของเขาก็รู้สึกหงุดหงิดใจ "ฉันปลอมเป็นยวี่เจ๋ออวี่เพื่อที่จะติดต่อกับเธอ ขอโทษด้วย ฉันผิดเอง!"

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เขาได้เรียนรู้เทคนิคที่ทรงพลังที่สุดที่จะเอาตัวรอดได้มาจากหนานหนิงซง

หนานหนิงซงได้สอนเขาไว้ว่า "ผู้ชายน่ะเป็นเพศที่อยู่ด้านนอกก็มีการสร้างภาพลักษณ์และอารมณ์ของตัวเอง เมื่อกลับบ้านไปเผชิญหน้ากับภรรยาและลูกจะใช้อารมณ์และสร้างภาพลักษณ์ไปทำไม? ทำให้สิ่งที่ทำให้พวกเธอมีความสุขสิ จะไปรักษาหน้าตากันทำไม? ไม่ต้องรักษาน่ะถูกต้องยิ่งกว่า การขอโทษไม่ใช่ว่าจะโดนตัดแขนตัดขาเสียหน่อย อะไรที่ควรขอโทษก็ขอโทษไปเถอะ"

ยวี่จิ้นเหวินเห็นด้วยอย่างยิ่งและคิดว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผลมาก

เมื่อฟู่ยวี่และจ้าวซวี่ได้ยินคำว่า 'ขอโทษด้วย ฉันผิดเอง' เสียงนั้นเป็นเหมือนเสียงฟ้าลั่นฟ้าผ่า พวกเขาช็อคและอ้าปากค้างอยู่เป็นเวลานาน

เขาพูดอะไร?

พวกเขาได้ยินอะไรนะ?

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา? ปลาแห้งตัวนี้ผ่านเรื่องราวอะไรมากันแน่?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา