สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 64

ถ้าพูดว่าหลังจากหย่าแล้วหนานซ่งเอาแต่ทำให้ยวี่จิ้นเหวินตกตะลึงตลอด แต่ท่าทางการทำงานของเธอในตอนนี้ เป็นครั้งที่ทำให้เขารู้สึกตกตะลึงมากที่สุด

ไม่ใช่ว่ายวี่จิ้นเหวินไม่เคยร่วมงานกับประธานหญิง แต่ภาพลักษณ์ส่วนใหญ่ของประธานหญิงที่ให้เขา บางคนก็ใช้ความรู้สึกมากไป บางคนก็หัวแข็งเกินไป ไม่มีใครเหมือนหนานซ่ง รู้จักตึงรู้จักหย่อน แล้วพูดตรงๆ

แล้วอีกอย่าง เธอรู้ดีว่าตอนนี้เขาอยากทำอะไร แล้วสามารถพูดจุดประสงค์หลักของเขาออกมาได้ตรงๆ

ถ้าเมื่อก่อนเป็นแค่ข่าวลือ งั้นตอนนี้ก็คงเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะ

เขาดูถูกภรรยาของเขามาโดยตลอด

ในใจยวี่จิ้นเหวินว้าวุ่น รับสัญญาที่เธอยื่นมาให้ แล้วเปิดไปหน้าสุดท้ายเลย ยกปากกาขึ้นมาจะเซ็นชื่อทันที

หนานซ่งจิบชาอยู่ แล้วเอ่ยเตือนเสียงเบา "ไม่ต้องรีบเซ็นก็ได้ค่ะ ประธานยวี่ลองอ่านรายละเอียดของสัญญาก่อนก็ได้ ถ้าแน่ใจแล้วค่อยเซ็นก็ไม่สายค่ะ"

"ไม่จำเป็น ผมเชื่อว่าประธานหนานคงไม่เอาเปรียบผม" ยวี่จิ้นเหวินเซ็นชื่อตัวเอง แล้วหยิบตราประทับดอกกุหลาบออกมา ปั๊มหมึก แล้วปั๊ม"ตราประทับของยวี่จิ้นเหวิน"ลงข้างๆ

ดวงตาหนานซ่งเบิกกว้าง เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะพกตราประทับที่เธอให้เขาติดตัวแบบนี้

นี่กำลังทำอะไร? ใช้แผนความรู้สึกเหรอ?

ไม่ใช่สไตล์ของเขาเลย

ในเมื่อเขาเอาออกมาแล้ว งั้นหนานซ่งคงแกล้งทำเป็นไม่เห็นไม่ได้

"ตราประทับนี้ ประธานยวี่ชอบเหรอคะ?"

ยวี่จิ้นเหวินเงยหน้าขึ้น ภาพลักษณ์ที่สะอาดสะอ้านแฝงไปด้วยความเย็นชา เหมือนแววตาที่เธอมองเขาตอนนี้ ดวงตากลมโตแฝงไปด้วยความเย็นชา เหมือนน้ำใสในลำธาร จึงทำให้เขาจับตราประทับแน่นกว่าเดิม

เขาเม้มริมฝีปากบาง แล้วยอมรับ "ชอบมาก"

"ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของหยกหรือว่าฝีมือแกะสลัก ถือว่าเป็นของชั้นดี ไม่รู้ว่าคุณจ้างให้ใครแกะสลักให้เหรอครับ"

ยวี่จิ้นเหวินพูดอีกว่า "ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจ้างให้เขามาแกะสลักให้ผม"

"ช่วงนี้เขาไม่ว่าง"

หนานซ่งปฏิเสธคำขอของเขาอย่างเรียบนิ่ง จากนั้นจึงยกชาขึ้นจิบ พร้อมสั่งให้กู้เหิงนำสัญญาไปดำเนินการต่อ จากนั้นก็เอ่ยกับยวี่จิ้นเหวิน "รอทางฟู่ยวี่แน่นอนแล้ว ธุรกิจฟาร์มม้าคงเริ่มลงสร้างได้แล้ว"

ยวี่จิ้นเหวินพยักหน้าเบาๆ ในใจยังสงสัยกับคำปฏิเสธของหนานซ่งอยู่ เธอช่วยคนอื่นปฏิเสธเด็ดขาดมาก เธอคงไม่ใช่คนแกะสลักคนนั้นหรอกมั้ง?

ความคิดนี้แว็บเข้ามาในหัวชั่ววินาที ยวี่จิ้นเหวินจึงแอบยิ้มเสียดสีตัวเอง

ทำไมเขาถึงกลายเป็นคนขี้สงสัยแบบนี้?

แฮกเกอร์มือโปร เชฟชื่อดัง ก็ทำให้เขาตกตะลึงมากแล้ว ถ้าเธอยังแกะสลักหยกเป็นอีก งั้นจะให้คนอื่นมีชีวิตรอดอีกได้ยังไง

หนานซ่งยืนขึ้น "ประธานยวี่คงยุ่งมาก ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันคงไม่รั้งให้คุณอยู่ต่อ"

ไล่กันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ

ยวี่จิ้นเหวินจึงลุกขึ้น แล้วทอดมองเธอ "ถ้าประธานหนานมีเวลา ไปดื่มด้วยกันไหมครับ?"

"วันอื่นดีกว่าค่ะ" หนานซ่งยิ้มอย่างเกรงใจ "คุณก็เห็นแล้ว ทางฉัน……ค่อนข้างยุ่ง"

ยวี่จิ้นเหวินเหมือนฟังความหมายที่เธอพูดไม่ออก "ไม่เป็นไร ผมรอคุณได้"

หนานซ่ง : "……"

หมอนี่ไม่โดนคนอื่นปฏิเสธมานาน สมองโดนชามเคลือบฟาดจนอื้อไปแล้วเหรอ?

"วันนี้ไม่ว่างจริงๆค่ะ ตอนเย็นฉันมีนัด" หนานซ่งปฏิเสธอย่างมีมารยาทอีกครั้ง

เธอเพิ่งพูดจบ กู้เหิงก็ถือโทรศัพท์เดินเข้ามา "ประธานหนานครับ คุณชายเจ็ดโทรมา บอกว่า เม่นทะเลจากฮอกไกโดส่งมาถึงก่อนกำหนด ถ้าคุณไม่ยุ่ง ให้คุณไปตอนนี้จะดีที่สุดครับ"

หนานซ่งตอบ"อื้อ" แล้วก้มหน้าก้มตากิน

หนานหลินมองพี่สาวที่อารมณ์ไม่ดีด้วยสีหน้ากังวล ไม่กล้าพูดไม่กล้าถาม สายตาที่สงสัยก็มองไปทางกู้เหิง แล้วถามเขาอย่างไม่ส่งเสียงว่า : พี่ใหญ่เป็นอะไรคะ?

กู้เหิงส่ายหน้าให้เธอ แล้วตอบว่า : ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง

เขาดันซูชิไปให้หนานหลิน "ไม่ชินกับการทานปลาแซลมอนก็ทานนี่ อิ่มมากกว่าครับ"

หนานหลินพยักหน้าอย่างเป็นเด็กดี แล้วยิ้มอย่างขอบคุณให้เขา

ถนนตรงข้ามร้านอาหารญี่ปุ่น ยวี่จิ้นเหวินเฝ้ามองหนานซ่งที่นั่งอยู่ริมกระจกที่ก้มหน้าก้มตากินอยู่ ตรงข้ามเธอเป็นผู้ชายใส่ชุดสีขาว หน้าตาหล่อเหลามาก ไม่ใช่คนอื่น เป็นคุณชายเจ็ดตระกูลไป๋คนเดิม ไป๋ลู่ยวี๋

คุณชายเจ็ดตระกูลไป๋ก็เป็นคนมีชื่อเสียง กับคนนอกเขาถือว่าเป็นคุณชายเย็นชา แต่ไม่รู้ทำไมต่อหน้าหนานซ่งถึงกระตือรือร้นขนาดนี้

ตักอาหารให้ก็ช่างเถอะ ยังเช็ดปากให้เธออีก……นี่เกินไปหรือเปล่า!

แววตาที่มืดมนของยวี่จิ้นเหวินดูเยือกเย็นมากในความมืด พอนึกถึงหนานซ่งเอาแต่ปฏิเสธเขา ก็เพื่อมาเดตกับผู้ชายคนอื่น ในใจเขาจึงไม่สบอารมณ์

เหอจ้าวนั่งอยู่ข้างคนขับ เพิ่งวางสายโทรศัพท์ จึงรายงานยวี่จิ้นเหวิน "บอสยวี่ครับ ผมให้คนไปเอาชามเคลือบออกมาจากพิพิธภัณฑ์แล้ว พรุ่งนี้จะส่งมาถึงเมืองหนานครับ"

ยวี่จิ้นเหวินตอบ"อื้อ"เสียงเบา

เหอจ้าวคิดไปมา ก็อดถามไม่ได้ว่า "คุณคิดดีแล้วเหรอครับ? คุณชอบชามเคลือบเล็กสี่ใบนั้นมาก ทำใจยกให้คนอื่นได้เหรอครับ?"

ยวี่จิ้นเหวินเป็นนักสะสม เหอจ้าวทำงานกับเขามาตั้งนาน ไม่เคยเห็นเขาเป็นฝ่ายที่ยกของให้ใครเลย นี่เป็นครั้งแรก ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ก็ไม่อยากจะเชื่อ แล้วถามย้ำสามรอบ "ประธานยวี่เป็นคนพูดเองเหรอครับ? จะยกให้ใครกันแน่?"

เหอจ้าวนั่งยันนอนยัน บอกว่าจะมอบให้อดีตคุณหญิง ภัณฑารักษ์ค่อยคลายคิ้วที่ขมวดแน่น แล้วเอ่ยอย่างมีเลศนัยว่า "นี่เป็นลางดีที่จะคืนดีกัน"

"คุณเปลี่ยนคำพูดได้ไหมครับ?" มุมปากเหอจ้าวกระตุก "แค่จะกลับมาคืนนี้"ก็พอ

สีหน้ายวี่จิ้นเหวินไม่มีความลำบากใจอะไรเลย มองใบหน้าด้านข้างของหนานซ่งผ่านกระจก แล้วเอ่ยว่า "ของฉันก็เป็นของเธอ ไม่ลำบากใจอะไรหรอก"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา