สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 67

ถนนที่หนานซ่งโดนปล้นนั้นไม่ใช่ถนนเส้นหลักแต่เป็นถนนเล็ก ๆ แคบ ๆ

ถนนเส้นนี้ ถ้าเกิดมองจากมุมสูงก็จะพบว่าเป็นเส้นตรง วิ่งตรงจากในเมืองไปยังสวนกุหลาบ ใช้เวลาน้อยที่สุด แถมคนนอกไม่รู้ มีแค่คนที่ไปบ้านตระกูลหนานบ่อย ๆ เท่านั้นถึงจะรู้

เพราะว่าถนนเส้นนี้ เป็นถนนที่หนานหนิงซงพ่อของหนานซ่งเป็นคนสร้างขึ้น จุดประสงค์หลักก็เพื่อประหยัดเวลาตอนกลับบ้าน

แต่ว่าถนนเส้นนี้มีน้อยคนนักที่จะรู้ เพราะฉะนั้นก็เลยค่อนข้างลับตาคน จึงไม่ได้ติดไฟถนนไว้ด้วย เลยไม่ได้มีคนใช้ เรียกได้ว่าเป็นถนนที่เหมือนซ่อนอยู่ในป่า ดูรกร้าง สภาพแวดล้อมก็น่ากลัว

การโดนปล้นในครั้งนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีการเตรียมการมาอย่างดี

หลังจากอายุสิบสี่ปี การโดนปล้นระหว่างทางแบบนี้ หนานซ่งเจอมาจนชินแล้ว วันนี้มาเจออีกหน เลยรู้สึกเหมือนกับได้รื้อฟื้นเรื่องเก่า ๆ

ตั้งแต่เด็ก เธอก็รู้ว่าพ่อกับแม่ของตัวเองนั้นไม่ใช่คนทั่วไป เธอเป็นผู้สืบทอดความเก่งกาจของพ่อกับแม่ แค่ตอนเกิดมาก็ไม่ธรรมดา ต่อให้พ่อแม่พยายามทำให้เธอกลายเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่ความหวังอันสวยงามแบบนั้นจนแล้วจนรอดก็ยังไม่เกิดขึ้น

เธอเองก็เคยบ่น ว่าเพื่อน ๆ รอบตัวเธอ รวมถึงหนานหยาและหนานหลินต่างก็สามารถไปโรงเรียนได้อย่างปกติ แต่ทำไมเธอถึงต้องอยู่แต่ในบ้านด้วย?

เธอเคยร้องไห้ เคยโวยวาย แถมยังเคยคิดที่จะหนีออกจากบ้าน

แต่ความรักที่พ่อกับแม่มีให้เธอ การดูแลปกป้องอย่างดีจากพวกท่าน ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการที่จะออกไปโบยบินของเธอได้

และในที่สุดความพยายามของเธอก็สัมฤทธิผลตอนที่เธออายุสิบสี่

แต่เธอก็ได้ออกไปมีความสุขอยู่ไม่กี่วัน เธอก็โดนจับตัวไป

ประสบการณ์ในครั้งนั้น สามารถพูดได้เลยว่าเป็นการ 'รอดชีวิตมาจากความตาย' โดยแท้จริง เด็กน้อยต้องโดนตีเสียบ้าง ถึงจะโต

และในที่สุดเธอก็เข้าใจได้ว่า ทำไมพ่อกับแม่ถึงจำเป็นต้องขังเธอเอาไว้ในบ้าน จนถึงขั้นที่ว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อและนามสกุลของเธอ ปกปิดสถานะของเธอ ไม่เคยพูดเรื่องของเธอกับโลกภายนอก เพื่อจะป้องกันไม่ให้คนอื่นสนใจหรือจับตามองเธอ

แต่ว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิต เป็นวัยรุ่น จะยอมให้ตัวเองถูกขังอยู่ในบ้านทั้งชีวิตได้ยังไง?

เธอขอร้องพ่อแม่ "ยังไงสักวันหนึ่งหนูก็ต้องโต หนูจะปล่อยให้พ่อแม่ปกป้องไปตลอดไม่ได้ หนูไม่กลัวอันตราย หนูจะเปลี่ยนเป็นคนที่แข็งแกร่ง ต้องมีสักวันที่หนูได้ปกป้องพ่อกับแม่ด้วยตัวเอง"

นับตั้งแต่นั้น เธอยังคงทำตัวดินติดเหมือนอย่างเคย แต่ว่าเธอได้รับอิสระ แล้วก็เริ่มสู้กับคนที่พยายามเข้ามาทำร้าย แป๊บเดียวก็ผ่านไปสิบปีแล้ว และไม่เคยแพ้สักครั้ง

คนกลุ่มนั้นพุ่งเข้ามา ประตูรถถูกล็อกเอาไว้แล้ว พวกเขาถือกระบองเหล็กเข้ามาตีที่กระจกรถ หนานหลินกลัวจนต้องยกมือขึ้นมาปิดหู สีหน้าหวาดกลัว

"พี่หนานซ่ง พวกเขาเป็นใคร? เป็นโจรมาปล้นเงินเหรอคะ?"

"ลงไปถามก็รู้แล้ว"

หนานซ่งหยิบถุงดำที่อยู่ใต้เบาะขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน เธอสวมเสื้อเกราะกันกระสุน จากนั้นก็บรรจุลูกกระสุนลงในปืน ขึ้นสไลด์จากนั้นก็ตรวจความเรียบร้อย แล้วส่งไปให้กู้เหิง "ถือไว้ รออยู่บนรถ ดูแลหนานหลินให้ดี"

พูดจบ เธอก็เตรียมจะเปิดประตูลงไปจากรถ

"พี่หนานซ่ง อย่าไป!" หนานหลินเข้ามาดึงมือของหนานซ่งไว้อย่างตกใจ เธอส่ายหน้าสุดชีวิต "ชีวิตของหนูไม่สำคัญ ชีวิตของพี่ต่างหากที่สำคัญ! ให้รุ่นพี่กู้ไปปกป้องพี่ดีกว่า หนูไม่เป็นไรหรอก! "

หนานซ่งมองน้องสาวที่เป็นห่วงเธอ ความรู้สึกอบอุ่นที่คุ้นเคยแล่นเข้าสู่หัวใจ เธอยกยิ้ม

"วางใจเถอะ แค่พวกกุ๊ยข้างถนน ทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก"

"เป็นความคิดที่ดี ตกลงตามนั้นเลย" ชายที่มีรอยแผลเป็นตอบรับ

พวกเขาคุยกันอย่างออกรส แต่หนานซ่งยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่ง ทำไมสมองของพวกผู้ชายนี่มีแต่เรื่องลามกนะ อย่าบอกนะว่าคนพวกนี้ยิ่งอยู่ยิ่งถอยหลังลงคลอง น่าเบื่อ ถ้าให้เทียบกัน สามีเก่าของเธอนั้นดูใสสะอาดกว่าเยอะเลย

"คุยกันจบรึยัง? ไม่อย่างนั้นพวกแกก็คุยกันต่อไปก็ได้นะ ฉันกลับไปนอนบนรถแล้ว?" หนานซ่งฟังจนเริ่มหมดความอดทนแล้ว

ชายที่มีรอยแผลเป็นมีสีหน้าไม่พอใจ แล้วมองเธออย่างมีเลศนัย "สาว ๆ รอกันไม่ไหวแล้ว พวกเรายังรออะไรอยู่อีกล่ะ? จัดการ!"

ชายกลุ่มใหญ่ถือกระบองแล้ววิ่งมาทางหนานซ่ง หนานซ่งยืนอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง ลมเย็นในตอนกลางคืนพัดมา ทำให้ปอยผมที่อยู่อยู่ข้างใบหูปลิวไปด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่ที่ทั้งดูงดงาม เย่อหยิ่ง เย็นชา แต่ว่านัยน์ตาของเธอกลับเต็มไปด้วยแววตาคมกริบ

แค่พริบตาเดียว เหล่าชายหนุ่มก็เห็นหนานซ่งหมุนตัวเป็นวงกลม แล้วภาพตรงหน้าของพวกเขาก็ดูพร่าไป จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกเจ็บหน้าอก พอก้มลงไปมอง ก็เห็นว่ามีเลือดพุ่งออกมาจากหน้าอกของตัวเอง

ปากแผลเปิดเข้าไปลึก เลือดก็เลยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่นานเสื้อที่สวมก็กลายเป็นสีแดง

คนกลุ่มนั้นเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ตรงหน้าเห็นเพียงแค่หญิงสาวที่ดูบอบบางแม้แค่ลมพัดก็อาจจะสลายไปได้ ในมือเล็ก ๆ นั่นกำลังควงมีดที่คมกริบเอาไว้ เพราะอยู่ในคืนเดือนหงายตัวมีดก็เลยสะท้อนแสงสีเงินเงาวับดูเยียบเย็น

เธอไม่ใช่ลูกสาวคนโตของตระกูลหนานหรือไง? เธอไม่ได้ถูกเลี้ยงอย่างลูกคุณหนูจนอ่อนแอทำอะไรไม่เป็นหรอกหรือ?

แต่เธอกลับควงมีดเป็นด้วย?!

ตอนที่ยวี่จิ้นเหวินมาถึง ก็เห็นว่าหนานซ่งกำลังควงมีดพกสีเงินอันหนึ่งอยู่ในมือ สีหน้าของเธอยังคงนิ่งไม่ไหวติงเหมือนเคย ถามออกมาอย่างบ้าคลั่ง "คนถัดไปคือใครล่ะ?"

ภาพตรงหน้า พาเขาย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้ว วันที่พวกเขาต่อสู้ด้วยกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา