สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 727

หลังจากที่ทีมงานถ่ายทำทำพิธีเปิดขึ้น พวกเขาก็เข้าสู่สภาวะถ่ายทำอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าจะเป็นหนังที่มีทุนน้อย แต่หูจิ่งเฉินมีชื่อเสียงในเรื่อง "เซ็นเซอร์" ในการสร้างภาพยนตร์ เงินที่เก็บไว้ได้ไม่เคยสูญเปล่า การผัดวันประกันพรุ่งของทีมงานคือเงินของหนึ่งวัน โปรดิวเซอร์ของละครเรื่องนี้ทุกคนอยู่ที่นั่น แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะเฉื่อยต่อหน้าหัวหน้าใหญ่ ทุกคนมีแรงจูงใจมาก

เพราะแสดงด้วยสีสันที่แท้จริง หนานซ่งเลยไม่จำเป็นต้องเติมเครื่องสำอาง เธอใช้รูปลักษณ์ที่มีอยู่โดยตรงและนำเสื้อผ้าส่วนตัวของเธอมาที่ทีมงาน

ในเรื่องนี้เพียงอย่างเดียวประหยัดเงินเป็นจำนวนมาก

หนานซ่งแอบถอนหายใจ คิดว่าวงการละครตอนนี้มันซับซ้อนไปไหม?

ในฐานะที่เป็นบอสใหญ่ เธอไม่เพียงต้องแสดงในภาพยนตร์ด้วยตัวต่อตัวเท่านั้น แต่ยังต้องนำเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของเธอเข้ามาในทีมด้วย ทีมงานได้รับความสำเร็จสูงสุดในด้าน "ความสะอาด" และ "ประหยัด".......ที่สำคัญคือ บริษัทหนานซิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์มีเงิน!

หนังเรื่องใหญ่ของผู้กำกับหลินเจวี๋ยซึ่งใช้เงินหลายร้อยล้านในทุกๆเทิร์น เขาโหวตให้โดยไม่พูดอะไรสักคำและเขาไม่จู้จี้จุกจิกเกินไป

เธอคุยกับเฮ่อเซิงเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว แต่เฮ่อเซิงพูดว่า "ผู้กำกับมีสไตล์การทำสิ่งต่างๆของผู้กำกับเอง ประหยัดเงินให้คุณมันไม่ดีเหรอ?"

ก็แค่นิสัยใจกว้างของหนานซ่งที่ไม่อาจหักล้างได้ และอาหารของทีมงานก็ต้องดีที่สุด เชิญเชฟท้องถิ่นชื่อดังที่ซีอานมา ทีมงานได้กลิ่นหอม ชานม กาแฟ ขนม ผลไม้.......มีครบทุกอย่าง ซองจดหมายสีแดงยังคงตกในกลุ่มและทีมงานก็เต็มไปด้วยเงิน สภาพแวดล้อมในการทำงานก็สบาย และพนักงานก็มีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น

เมื่อไม่กี่วันก่อน มัวแต่จดจ่ออยู่กับฉากของหนานซ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับงานแกะสลักหยก

สองสามวันนี้อากาศดีซึ่งเหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพในตอนเย็นของวันนี้ยังมีพลบค่ำบนท้องฟ้าหูจิ่งเฉินปรับแผนการถ่ายอย่างรวดเร็วและนำฉากหนานซ่งแกะสลักหยกขึ้นมาที่จุดเริ่มต้นของบท หนานซ่งนั่งบนหินเปล่าขนาดใหญ่ หันหน้าไปทางพระอาทิตย์ตก ถือแจสเปอร์ในมือซ้ายและมีดแกะสลักอยู่ทางขวา แกะสลักอย่างสงบ มันเป็นช็อตธรรมดา แต่สวยงามและน่าทึ่ง

เนื่องจากอยู่ในสายอาชีพ หนานซ่งจึงต้องแสดงลักษณะที่เขามักจะดูเมื่อเธอแกะสลักหยก ในบางครั้งพร้อมกับโครงเรื่อง สถานะการแกะสลักหยกจะแสดงเมื่อเธอโกรธ และสถานะการแกะสลักหยกเมื่อเธอมีความสุขเป็นอย่างไร มันค่อนข้างง่ายสำหรับเธอ และเธอสามารถทำได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม สต๊าฟของทีมงานก็เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีจนพวกเขาปรบมือให้ทุกครั้งหลังถ่ายทำ

ปรมาจารย์ที่รับผิดชอบในการเตรียมอุปกรณ์ประกอบฉากเดิมได้เตรียมงานแกะสลักหยกที่ทำเสร็จแล้วหรือกึ่งสำเร็จรูปบางส่วน ในท้ายที่สุดมันก็ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง หนานซ่งแกะสลักสดใหม่อยู่เสมอและคุณภาพของสิ่งที่แกะสลักนั้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของเขามากซึ่งทำให้เขาพูดไม่ออก

ไม่เพียงเท่านั้น หนานซ่งเหลือบมองไปที่หินหยกที่เตรียมโดยอุปกรณ์ประกอบฉากและพูดโดยตรงว่า "นี่คือหินจากพื้นที่เหมืองถ่านหินซีชาน?"

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ประกอบฉาก "........"

พูดง่ายๆว่าคุณภาพหยกของเราไม่ค่อยดี แต่ถ้าบอกว่าเป็นหิน.......ไม่ค่อยดีเลยใช่ไหม?

หนานซ่งถอนหายใจและโทรศัพท์ไปสายตรง วันรุ่งขึ้น พวกทีมงานมาถึงพร้อมกล่องหินหยก

กล่องถูกเปิดออก และทีมงานกลุ่มอุปกรณ์ประกอบฉากก็กรีดร้องและกรีดร้อง ราวกับว่าบ้านสมบัติถูกเปิดออก มีหยกหลานเทียน หยกเหอเทียน หินอ่อนสีขาว หยกขาวปักกิ่ง เจไดต์ อาเกต คริสตัล อำพัน สีเขียวขุ่น ไข่มุก.......แม้แต่ไข่มุกกลางคืนพิเศษ! มันทำให้พวกเขาตาบอด!

ท้ายที่สุด ความยากจนก็จำกัดจินตนาการของพวกเขา

ค่าตัวเท่าไหร่เนี่ย?

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือตอนนี้ หนานซ่งซื้อและจัดส่งหินหยกเหล่านี้ และพวกเขาไม่เต็มใจที่จะนำวัสดุที่ดีกลับบ้าน

ทางเดินไปโรงแรมยังอยู่ใกล้ ทีมงานเพียงเดินออกไปถนนคนเดิน

ไม่กี่วันก่อนหนานซ่งจะถ่ายทำก็ไม่ต่างจากการเล่นข้างนอกเลย เธอถูกถ่ายแยกจากฉากและนักแสดงนำชาย ตอนที่เธอไม่ได้ถ่ายทำเธอจะนั่งบนม้านั่งเล็กๆดูคนอื่นแสดง ฉากที่ถ่ายเมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นฉากต่อสู้ทั้งหมด พวกมันถูกคนกลุ่มหนึ่งไล่จับและสับด้วยมีดและไม้ มันน่าอายมาก สีหน้าของเฮ่อเซิงนั้นแม่นยำมาก แต่ฉากต่อสู้นั้นธรรมดามาก และการเคลื่อนไหว ไม่เรียบร้อยพอ

เรียกว่าเป็นฉากที่คึกคัก ผู้เชี่ยวชาญเฝ้าประตู เป็นที่ประจักษ์ในเวลานี้

ดาราสาวและเด็กหญิงตัวเล็กๆในทีมอ้าปากค้างด้วยความตกใจและร้องไห้ออกมาว่าพวกเขาสงสารพี่เซิง ตรงกันข้ามหนานซ่งที่เป็นนางเอกดูเฉยเมย คิดในใจ.......ถ้าเป็นยวี่จิ้นเหวินของเธอเล่นฉากนี้ เขาคงจะหล่อมากแน่ๆ ไม่ต้องพูดถึงการวิ่ง เขาสามารถบินข้ามชายคาและกำแพงได้ด้วยซ้ำ

ยวี่จิ้นเหวินจับมือเธอ หน้าแดง และเดินเข้ามาหาเธอแล้วพูดว่า "ที่รัก ผมรู้ว่าคุณคิดถึงผมในทุกวันนี้ แต่มันไม่เหมือนกับการอยู่ข้างนอก.......คนอยู่เยอะมาก ไม่ดีสำหรับชื่อเสียงของคุณ ถ้าคุณแพร่ภาพออกไป อดทนไว้ และพูดถึงมันเมื่อคุณกลับไปตอนกลางคืน คุณสามารถทำทุกอย่างที่คุณต้องการ"

หนานซ่ง "........"

ตอนแรกเธอไม่อยากทำอะไรเลย แต่พอเขาพูดแบบนั้น ดูเหมือนเธอจะเป็นแม่มดที่หิวโซ

อะไรกัน? !

ขณะที่เขาเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็มีเสียงจากผู้กำกับ "หยุดหน่อย!"

การแสดงออกของหูจิ่งเฉินไม่ค่อยดีนัก แขนของเฮ่อเซิงชาจากการต่อสู้ เขาเอนตัวไปหน้าจอมอนิเตอร์ด้วยเหงื่อบนใบหน้า และกล้องก็ถอยกลับไป หลังจากฉากต่อสู้สองสามฉาก การแสดงออกทางสีหน้าของเขาเกือบจะน่าเกลียด เฮ่อเซิงไม่มีศิลปะการป้องกันตัว เขาไม่มีทักษะการเต้นใดๆทั้งสิ้น ละครเรื่องนี้เขาเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกษียณอายุมาเป็นพิเศษเพื่อฝึกฝนเขามานานกว่าสองเดือนและเขาพัฒนาเอ็นทั้งตัว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะได้มาตรฐานพิเศษ

เฮ่อเซิงเม้มริมฝีปากของเขา เขารู้ว่าการต่อสู้เช่นนี้เป็นไปไม่ได้สำหรับหูจิ่งเฉินที่เข้มงวดมากกับฉากแอคชั่น

ขณะที่เขาวิตกกังวล หูจิงเฉินพูดอย่างเด็ดขาดว่า "ให้คนอื่นมาเป็นสตั๊นต์แมน"

ผู้กำกับเหลือบมองหูจิ่งเฉินเห็นว่าใบหน้าของเขาซีดอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากแน่นและไม่กล้าพูด

เขารีบหาคนมาแทนที่เตรียมพร้อมสำหรับเฮ่อเซิงเพราะเขาไม่มีอะไรจะทำในวันนี้ เลยพาแฟนสาวไปสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้เลยไม่ได้กลับมา

หูจิ่งเฉินโกรธมากและทีมงานทั้งหมดสั่น หนานซ่งเฝ้าดูหูจิ่งเฉินแทบรอไม่ไหวที่จะขุดหลุมให้สตั๊นต์แมนและฝังไว้ในนั้น

เฮ่อเซิงกัดฟันและถามหูจิ่งเฉินว่าตอนนี้เขาสามารถถ่ายฉากนี้ใหม่ได้หรือไม่ หูจิ่งเฉินมองไปที่แขนที่บวมของเขาด้วยใบหน้าที่เย็นชา มันไม่ใช่ฉากอีกต่อไป........เขาทำหน้าเย็นชาและไม่พูด เมื่อเขากำลังจะเปลี่ยนฉากและถ่ายอีกฉากหนึ่ง ยวี่จิ้นเหวินส่งเสียงออกมา

"ให้ผมเป็นสตั๊นต์แมนแทนไหม ผมต่อสู้ได้"