หวังผิงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เฮ่อเสี่ยวเหวินก็ตกใจจนหน้าซีด ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
"เธอกำลังอัดอะไรอยู่น่ะ?"
"......"
ในห้องทำงานมีเพียงเฮ่อเสี่ยวเหวินคนเดียวเท่านั้น
เธอกำลังนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน บนโต๊ะมีคอมพิวเตอร์แล้วก็เครื่องกับเทปอัดเสียงอีกกองใหญ่ แล้วเธอก็กำลังสวมหูฟังอยู่ เมื่อครู่เธอกำลังพากย์เสียงงานละครวิทยุอยู่ เธอกำลังพากย์เสียงให้ตัวร้ายในละคร ตัวที่เป็นแฟนเก่าของพระเอก ท่อนเมื่อกี้ที่เธอพากย์นั้น เป็นช่วงเปิดของบทที่ตัวละครกำลังนอกใจพระเอกอยู่
ที่จริงเธอคิดว่ามันออกจะดูเกินไปหน่อย ไม่รู้ว่าจะต้องไปตัดออกทีหลังหรือเปล่า แต่ว่าอะไรที่จำเป็นก็ต้องพากย์
เวลาอัดเสียงฉากบนเตียงแบบนี้ สิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็คือการที่คนรู้จักจะบังเอิญมาได้ยิน แบบนั้นมันน่าอายมาก ๆ
เฮ่อเสี่ยวเหวินตั้งใจเลือกตอนที่หวังผิงไม่อยู่บ้าน เธอจัดการเรียงลำดับฉากบนเตียงจากนั้นก็อัดให้จบในรวดเดียว ใครจะไปคิดว่าเขาจะกลับบ้านมาเร็วขนาดนี้ เธอเพิ่งจะอัดท่อนสุดท้ายเสร็จ อารมณ์ยังไม่ทันจะสลายไป อยู่ ๆ เขาก็ผลักประตูเข้ามา เธอตกใจแทบแย่!
"ฉันกำลังทำงานนะคะ!" เฮ่อเสี่ยวเหวินไม่พอใจในคำพูดกับท่าทีของเขา "คุณช่วยเคารพงานของฉันหน่อยได้ไหม"
หวังผิงทำหน้านิ่ง เขาเม้มปากแล้วมองเธอ
เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าสิ่งที่เธอกำลังทำนั้นเรียกว่างานอะไรกันแน่ ตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ บางครั้งก็ร้องไห้ไป ๆ อยู่ ๆ ก็หัวเราะออกมา บางครั้งก็หัวเราะไป ๆ อยู่ ๆ ก็ร้องไห้ออกมา บางครั้งก็ดูทำอะไรไม่ถูก บางครั้งก็คุกเข่าเอามือกุมหน้าอกอยู่บน ราวกับคนบ้า
มีหลายครั้งที่เขาสงสัยว่าเธอนั้นโดนทำของใส่หรือเปล่า แต่ไม่นานนักเธอก็กลับมาเป็นปกติ
แต่ว่าวันนี้ คำพูดพวกนั้นมันเป็นคำที่คนปกติจะพูดแน่เหรอ?
เขายิ่งมอง ยิ่งคิดว่างานที่เฮ่อเสี่ยวเหวินทำอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่งานที่คนปกติเขาทำกัน
"อย่างนั้นเธอก็เข้าถึงบทบาทดีนะ"
เขายืนอยู่ตรงประตู มุมปากของเขายกยิ้มล้อเลียน "ตัวเธอไม่รู้สึกว่ามันดูปลอมหรือไง? ตอนที่เธอทำกับฉัน ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย"
เฮ่อเสี่ยวเหวิน: "......"
"ปลอมตรงไหน?" เฮ่อเสี่ยวเหวินรู้สึกเหมือนโดนสงสัยในความสามารถของตัวเอง เธอก็โกรธจนหน้าแดงในทันที "พี่ชาย ฉันน่ะกำลังแสดงอยู่นะ แล้วฉันก็แสดงเป็นคนอื่นด้วย แน่นอนว่ามันไม่ใช่ตัวฉันเอง แถมผู้กำกับกับครูที่สอนการแสดงก็ชมว่าฉันแสดงได้ดีมากด้วย ดูยั่วยวน ดูเร้าอารมณ์ เมื่อกี้ตอนคุณอยู่ข้างนอกคุณก็ได้ยินใช่ไหมล่ะ? คุณคิดว่าฉันร้องไม่ดีเหรอ? หรือว่ามันยังไม่ยั่วพอ?"
เธอถามเขาอย่างจริงจัง ในเมื่อคิดว่าเธอพากย์ได้ไม่ดี อย่างนั้นก็ต้องบอกเหตุหรือจุดที่ไม่ดีออกมาสิ
และครั้งนี้ก็กลายเป็นหวังผิงที่ไม่มีอะไรจะพูดแทน
รู้ว่าเธอกำลังแสดงเป็นคนอื่น แต่ว่าน้ำเสียงแบบนั้น ความรู้สึกในตอนที่เธอกำลังใช้เสียงแบบนั้นเรียกชื่อผู้ชายคนอื่น มันทำให้เขาหงุดหงิด!
หวังผิงเหลือบมองเธอครั้งหนึ่ง แต่เขาไม่มีอะไรจะพูดจริง ๆ ก็เลยหมุนตัวเดินออกไปด้านนอก
เฮ่อเสี่ยวเหวินมองแผ่นหลังอันเย็นชาของเขา ก็รู้สึกโมโหแล้วเหมือนกัน เธอโยนบทลงไปบนโต๊ะ จากนั้นก็ตามเขาไป "คุณอย่ามาพูดครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วก็เดินหนีไปสิ ฉันพากย์ไม่ดีตรงไหนก็บอกออกมาสิ บอกฉัน ฉันจะได้แก้ไขไง ฉันตั้งใจเรียนจะตาย......"
เธอเดินตามเขามาถึงห้องนอน จากนั้นก็ตามเขาเข้าไปในห้องน้ำ ยังไงก็ต้องหาเหตุผลมาให้ได้
ในขณะที่เธอกำลังงอแงอยู่นั้น หวังผิงก็รับน้ำจนเต็มอ่างพอดี จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้า
เฮ่อเสี่ยวเหวินยืนอยู่ตรงประตู เธอมองหวังผิงที่อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นชีเปลือย เธอก็สงบปากในทันที
หวังผิงหันมามอง "เข้ามา หรือว่า ออกไป"
"อ้อ" เฮ่อเสี่ยวเหวินเดินเข้าไปด้านในอย่างคนไร้สติ จากนั้นก็ปิดประตู แต่ในวินาทีที่เธอปิดประตูนั้น เธอก็คิดกับตัวเองว่าทำไมเธอจะต้องเข้ามาด้วย?
จากนั้นเธอก็หมุนตัวอยากจะออกไปข้างนอก แต่......สายไปแล้ว
มือใหญ่เลื่อนผ่านใบหูของเธอ จากนั้นก็ดันจนประตูปิดลง "ปึง" ทำให้ประตูที่เปิดออก ถูกปิดลงอีกครั้ง
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นที่หูของเธอ "เธอจะทำอะไร?"
เฮ่อเสี่ยวเหวินอดที่จะมีท่าทีลนลานไม่ได้ "ฉันจะออก จะออกไปไง"
หวังผิงเลิกคิ้ว "เธอเข้ามาแล้ว แล้วก็ยังจะออกไปอีกงั้นเหรอ?"
หนานซ่งถอนหายใจออกมา แต่ยวี่จิ้นเหวินบอกเธอว่า "แต่ว่า เมื่อกี้ตอนที่คุยกับผู้กำกับหู เขาว่าตอนที่ถ่ายทำเสร็จก็จะเข้าสู่ช่วงตัดต่อ แล้วก็อาจจะจำเป็นที่จะต้องขอให้เหล่านักแสดงไปอัดเสียงเพิ่มเติม เลยขอบอกเธอไว้ก่อนล่วงหน้า ให้เธอหาเวลาเอาไว้"
"......" หนานซ่งมองเขา ด้วยสีหน้าเซ็ง ๆ
เธอเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว!
จะต้อง ยังจะต้องทำงาน
บางทีคนเราก็มีความขี้เกียจอยู่ในตัว บางคนพอมีคนทำอะไรให้ตัวเองก็ไม่อยากทำอะไรอีกต่อไป ตั้งแต่ที่พ่อแม่เธอกลับมา หนานซ่งก็เหมือนคนหมดไฟ ตอนที่เธออยู่คนเดียวนั้นสามารถทำอะไรได้เองทุกอย่าง แต่พอพ่อแม่กลับมา เธอก็เหมือนกับลูกนกที่ได้กลับรัง ได้กลับไปยังเซฟโซนของตัวเอง ราวกับว่าตัวของเธอนั้นอ่อนปวกเปียก และหลังจากที่คบกับยวี่จิ้นเหวิน เขาเองก็ตามใจเธอ เอาใจเธอจนเธอนั้นเริ่มกลายเป็นคนขี้เกียจ
ทว่ามีคนคนหนึ่งไม่เคยตามใจเธอ
ยวี่จิ้นเหวินไปซีอานแล้ว หนานซ่งก็อยู่แต่ในบ้าน เอาแต่เล่นเกมติดกันอยู่สองวัน แถมเล่นทั้งวันทั้งคืน ไม่รู้ตอนไหนกลางวันตอนไหนกลางคืน ลั่วอินกับหนานหนิงซงพูดแล้วก็ไม่ฟัง
ในที่สุด ในช่วงบ่ายของวันที่สอง เธอก็ได้รับสายจากพี่ใหญ่ อยู่ ๆ เขาก็จะตรวจสมรรถภาพทางร่างกายของเธอ
หนานซ่งรู้สึกเหมือนอยู่ ๆ ท้องฟ้าที่เคยสดใสก็ปกคลุมไปด้วยเมฆฝน แถมเธอยังโดนฟ้าผ่าลงมากลางกระหม่อมเต็ม ๆ เสียด้วย
"พี่ใหญ่ ไม่เอาดีกว่ามั้งคะ......" เธอเอนตัวอยู่บนเตียงด้วยท่าทางเกียจคร้าน แล้วก็ลองใช้ลูกอ้อนเผื่อจะรอดด่านมรณะนี้ไปได้
ลั่วจวินหังไม่ใจอ่อน "ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเกิดเธอยังไม่ลุกขึ้นฉันจะให้นายเคไปลากตัวเธอออกมา! สาม......"
"โอเค ๆ ฉันลุกแล้ว!"
หนานซ่งกระเด้งตัวออกจากเตียง
เธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็รีบวิ่งไปยังจุดที่ใช้ฝึกซ้อมภายในบ้าน
ลั่วอินกับนายเคแต่งตัวด้วยชุดออกกำลังกายแล้วก็กำลังยืนรอเธออยู่ในสนาม
เห็นว่าหนานซ่งกำโทรศัพท์แน่น พร้อมทั้งยังรีบวิ่งมาอย่างรีบร้อนด้วยความหงุดหงิด ลั่วอินก็แอบยิ้มมุมปาก "สุดท้าย เจ้าเด็กขี้เกียจตัวเป็นขนก็ต้องรับการรักษาจากพี่ใหญ่จริง ๆ ด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...