คำว่า "รักแรก" ทำทั้งหมดตกใจ
แอร์โฮสเตสสาวพูดจบก็รีบถอยออกไป เหลือไว้แค่ฟู่ยวี่ที่โดนคนทั้งห้องโดยสารชั้นหนึ่งจับจ้อง ไม่ใช่แค่หนานซ่ง ยวี่จิ้นเหวิน แม้แต่บอดี้การ์ดที่อยู่ทางด้านหลังเขาก็ยังมองมาที่เขา ฟู่ยวี่ที่ถูกจ้องจนตัวพรุนก็อดที่จะหันไปมองทางด้านหลังตัวเองอีกครั้งไม่ได้ แล้วเขาก็ดันเจอกับสายตาคุกรุ่นของซูยิน
เขาก็เลยร้องเพลง "เหน็บหนาว" ให้ตัวเองในใจ
"รักแรกเหรอ" เมื่อกี้ซูยินเอาแต่คิดอยู่เลยว่าแอร์โฮสเตสคนนี้จะเป็นแฟนคนที่เท่าไหร่ของฟู่ยวี่ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นรักแรก
ริมฝีปากของเธอยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย "ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโคตรของโคตรของโคตรของโคตรของโคตรของโคตรของ......โคตรรุ่นพี่ของฉันเลยสินะ พี่เขาคงเป็นเหมือนต้นตระกูลอะไรเทือกนั้น"
ฟู่ยวี่เหมือนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองระเบิดออกมา ทั้งโดนคำว่า "โคตร" ของซูยินทุบจนกะโหลกของเขานั้นแทบจะผิดรูป
เขาหัวเราแหย ๆ "ก็ไม่ขนาดนั้น.......หรอกมั้ง?"
ด้านหลังเขากลับมีเสียงดังขึ้นมาสองเสียง
ยวี่จิ้นเหวิน: "สารภาพโทษเบา"
หนานซ่ง: "โกหกโทษหนัก!"
ฟู่ยวี่: "......"
เขาหันไปมองทั้งสองคน แล้วพูดกับพวกเขาแบบไร้เสียง: พวกแกอย่ามาหาเรื่องยุ่งเพิ่มให้ฉันได้ไหม! เห็นว่าฉันยังซวยไม่พออีกหรือไง?
ซูยินยื่นมือไปดึงศีรษะของเขาให้หันกลับไป แล้วเอ่ยออกมาคำหนึ่ง "พูด"
"......"
ฟู่ยวี่โดนดึงผมจนรู้คิดว่าตัวเองน่าจะหัวล้านแล้ว ซูยินมีท่าทีเหมือนภรรยาจอมโหด ที่เมื่อสามีพูดจาไม่เข้าหูก็พร้อมจะลงไม้ลงมือในทันที?
ที่สำคัญเลยก็คือ เขานั้นควรจะพูดว่าอะไรล่ะ?
เขาจะกล้าพูดอะไรอีก?!
"ที่รัก เธอใจเย็น ๆ ก่อนนะ อย่าเพิ่งโกรธ ฟังฉันค่อย ๆ อธิบาย......"
ฟู่ยวี่กุมมือของซูยินเอาไว้ แล้วพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ แล้วค่อย ๆ นั่งตัวตรง สบตากับดวงตาคุกรุ่นของซูยิน เขาก็ยังหวาดเสียวอยู่ดี
เขายกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง "ผมสารภาพ! คนเมื่อกี้ เป็นรักแรกของผมจริง ๆ "
ตอนนี้ซูยินใจเย็นลงแล้ว ข้อมือของเธอวางอยู่บนแขนเก้าอี้ แล้วก็คิดว่าเธอจะทำภาพลักษณ์ของคุณหนูใหญ่ของเหมยซูหลี่เสียหายไม่ได้
เธอพยายามทำใจให้ร่ม ๆ แล้วถามฟู่ยวี่ "เธอชื่ออะไร?"
"หา?" ฟู่ยวี่ที่ถูกถามถึงกับงงไปชั่วครู่ เห็นว่าแอร์โฮสเตสคนนั้นเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง เขาก็ถามกับผู้หญิงคนนั้นไปตรง ๆ "จริงสิ คุณชื่ออะไรนะ?"
แอร์โฮสเตส: "......"
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เจ็บอะไร แต่มันเสียหน้ามาก ๆ
เธอเขม็งตามองฟู่ยวี่ อยากจะกระทืบเขาสักหนจริง ๆ แต่ด้วยจรรยาบรรณของงานที่ทำ ที่ให้เธอทำได้แค่กลอกตามองบนใส่เขา จากนั้นก็เดินตรงไปยังเคบิน
หลังจากนั้น เหล่าแอร์โฮสเตสก็เดินออกมาจากเคบินอีกครั้ง และในตอนที่มองเห็นฟู่ยวี่ ทุกคนก็ต่างพากันกลอกตามองบนใส่เขากันหมด ปากของพวกเธอก็ด่าเขาแบบไม่มีเสียงว่า: ผู้ชายเฮงซวย
ฟู่ยวี่ผู้ชายเฮงซวยนั้นยังคงคิดไม่ตกว่ารักแรกของเขานั้นชื่ออะไร ซูยินเหลือบมองเขา "คุณลืมชื่อรักแรกของตัวเองอย่างนั้นเหรอ?"
"ผ่านไปตั้งยี่สิบปีแล้ว ยังจำชื่อของรักแรกของตัวเองได้อีกเหรอ?"
ฟู่ยวี่หันไปมองยวี่จิ้นเหวิน "แกยังจำชื่อรักแรกของตัวเองได้ไหม?"
ยวี่จิ้นเหวินตอบเบาๆ : "แน่นอนว่าจำได้อยู่แล้ว"
หนานซ่งหันไปมองยวี่จิ้นเหวิน
ยวี่จิ้นเหวินก็หันมามองหนานซ่ง จากนั้นก็ยิ้มออกมา "รักแรกของฉัน ก็คือภรรยาของฉันในตอนนี้ เธอชื่อหนานซ่ง"
ฟู่ยวี่: "......."
ชกคนผิดกฎหมายไหมนะ? ตอนนี้เขาอยากจะออกกำลังกายมาก ทำยังไงดี?
หนานซ่งได้ฟังแต่กลับไม่ได้ซาบซึ้งเลยสักนิด เธอหรี่ตามองยวี่จิ้นเหวิน "แล้วโจ๋เซวียนนี่โยนให้หมามันกินแล้วเหรอคะ?"
ยวี่จิ้นเหวินเบิกตากว้าง "!"
ฟู่ยวี่พูด: "ยินยินยังเด็ก จะแต่งงานยังต้องรออีกสองปี ไม่อย่างนั้นผมก็คงจะแต่งไปตั้งนานแล้ว"
ฉือมั่นมองฟู่ยวี่เล็กน้อย
เธอรู้ว่าฟู่ยวี่นั้นปากหวานกับผู้หญิงมาก ตอนแรกแค่หน้าตาก็หล่อมากอยู่แล้ว ไหนจะยังเล่นกับใจคนเก่งอีก เรียกได้ว่ายาพิษชั้นดีเชียวล่ะ หลายปีมานี้เธอได้ยินข่าวของคุณชายน้อยฟู่มาอย่างหนาหู รู้ว่าตอนที่เขาอยู่ในกองทัพ เขามีผู้หญิงเขาหาราวกับฝูงมด ถึงแม้ว่าเธอจะคิดถึงเขาอยู่ตลอด แต่ก็รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนนิสัยดีอะไร เธอปลอบใจตัวเองนับไม่ถ้วนว่าเขาไม่เหมาะกับเธอ
แต่ว่าพอเวลาผ่านไปนานเข้า ๆ เมื่อเธอได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง ชื่อที่เธอเคยตั้งใจจะหลบเลี่ยงมาหลายครั้งในเมื่อก่อน แต่ในครั้งนี้ เธอนั้นไม่อยากเลี่ยงอีกต่อไป เธอรีบขอสลับตารางบินกับเพื่อนร่วมงาน อยากจะมาเห็นเขาอีกครั้ง เธอเดาว่าเขาคงจะมีผู้หญิงสวย ๆ อยู่ข้าง ๆ เขาอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คิดว่าจะเด็กขนาดนี้
แถมเด็กผู้หญิงคนนี้ยังดูมีชีวิตชีวามากขนาดนี้ด้วย
ทันใดนั้น ก็เหมือนมีผีร้ายมาเข้าสิงเธอ ความริษยาของผู้หญิงมันทำให้เธอทนไม่ไหว ลองแกล้งเข้าไปพูดคุยกับเขา
แต่ที่น่าเศร้าก็คือ อดีตคนรักที่เธอไม่เคยลืม แค่ชื่อเธอเขายังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แถม ยังพูดเรื่องที่ตั้งใจจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นด้วย
ดวงตาของฉือมั่นจับจ้องไปที่ใบหน้าของฟู่ยวี่ อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา ลำคอของเธอตีบตัน "คุณเคยบอกว่า......ไม่คิดจะแต่งงานไม่ใช่เหรอ?"
ฟู่ยวี่ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็มีสีหน้าจริงจัง
"ใช่น่ะสิ แต่ก่อนไม่เคยอยากแต่งงานเลย"
เขาหันไปทางซูยิน ดวงตาสุกใสไม่ได้มีแววตาขี้เล่นเหมือนเวลาปกติ แถมยังดูจริงจังและจริงใจมากด้วย เขากุมมือของซูยินเอาไว้ "แต่ว่ายังไงก็ต้องมีใครสักคน ที่ทำให้เรายอมทำลายกฎที่ตัวเองตั้งเอาไว้ยี่สิบปีอยู่แล้ว การปรากฏตัวของเธอ ทำให้เรื่องทุกเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ต้องเป็นไปได้ และต้องทำแบบนี้เท่านั้น เธอช่วยหยุดนิสัยไม่จริงจังกับใครของผม แล้วก็ทำให้ผมเลิกสนใจเรื่องระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ต่อไปชีวิตของผม จะมีแค่เธอเท่านั้น"
ซูยินรู้สึกได้ถึงแรงบีบจากมือของฟู่ยวี่ที่กุมมือของเธอไว้ เธอมองดวงตาที่เป็นประกายและเต็มไปด้วยความอบอุ่นของเขา ก็รู้สึกเหมือนมีใครมาเปิดประตูหัวใจของเธอ เหมือนมีลมอุ่น ๆ ที่พัดปลิวในฤดูใบไม้ผลิพัดเข้ามาพร้อมแสงสว่างและความอบอุ่น โอบกอดเธอเอาไว้ ทำเอาใจของเธอรู้สึกคันยุบยิบ
ฉือมั่นมองทั้งสองคนแสดงความรักต่อกันต่อหน้าเธอ ก็ได้แค่แอบกำหมัด แล้วพูดขึ้นมา: "ชีวิตของคนเรามันยาวไกลนะ คุณมั่นใจ ว่าจะใช่เธอจริง ๆ เหรอ? ถ้าคุณเกิดไปรักคนอื่นล่ะ?"
ฟู่ยวี่ขมวดคิ้ว จากนั้นก็พูดออกมาอย่างจริงจัง: "ชีวิตของคนเราไม่ได้ยาวไกลหรอก ผมอายุสามสิบกว่าแล้ว เกือบจะครึ่งหนึ่งของชีวิตคนเราแล้วด้วยซ้ำ ไอ้หยา!"
เขาพูดไป ๆ อยู่ ๆ ก็เกิดกังวลขึ้นมา เขารีบหันไปมองซูยิน "ที่รัก เธอคงไม่ไปรักคนอื่นหรอกใช่ไหม?"
"เรื่องนี้ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก" ซูยินยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสาแต่ก็ผสานไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผู้ชายหล่อ ๆ ตั้งเยอะตั้งแยะ ใครไม่อยากจะกอดไว้ให้เต็มทั้งแขนซ้ายแขนขวา?"
ฟู่ยวี่: "......"
ฉือมั่นกระตุกยิ้ม เด็กเดี๋ยวนี้ เจ้าชู้ขนาดนี้แล้วหรือไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...