“ลูกสาว?”
คำพูดของมู่โจว ทำให้ทุกคนถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
รวมทั้งหนานหนิงซงและลั่วอิน เสียงของลั่วอินดังที่สุด
หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินมองไปทางลั่วอินพร้อมกัน ลั่วอินหันหน้าไปมองพวกเขาอย่างแปลกประหลาด “มองฉันทำไม? ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันก็เหมือนกับพวกเธอ เคยได้ยินเป็นครั้งแรก”
ทั้งสองไม่เชื่อ
จากการที่คุณนายลั่วปิดบังพวกเขาต่าง ๆ นา ตอนนี้เธอไม่มีความน่าเชื่อถือแล้วสำหรับพวกเขา
มู่โจวช่วยลั่วอินแก้ตัว: “เรื่องนี้อาอินไม่รู้จริง ๆ อันที่จริงฉันก็เพิ่งรู้ไม่นานมานี้ว่าฉันยังมีลูกสาวอีกคน”
ทุกคนจึงมองไปทางมู่โจวอีกครั้ง
ลั่วอินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วตั้งใจหันไปมองทางกู้ฟาง จากนั้นก็พูดหยอกล้อมู่โจว “ไม่ใช่ว่าตอนนายวัยรุ่นไปไข่ทิ้งไว้ที่อื่นหรอกนะ?”
กู้ฟางถลึงตาใส่ลั่วอินเหมือนเป็นการตักเตือน แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร
มู่โจวกลับถอนหายใจด้วยความสำนึกผิดและรู้สึกผิด “ไปไข่ทิ้งไว้ครั้งหนึ่งจริง ๆ”
หนานซ่งเงยหน้า เหมือนได้กลิ่นซุบซิบนินทา
คิดไม่ถึงว่าชาตินี้ จะได้ฟังเรื่องซุบซิบของอาจารย์มู่
หลังจากที่มู่โจว “แกล้งตาย” ก็ออกจากเมืองหนานพร้อมกับกู้ฟาง เขารู้ว่าตัวเองเหลือเวลาไม่เยอะแล้ว จึงอยากจะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตกับคนที่รัก ไปในที่ที่เคยไป รำลึกถึงความยากลำบากและชีวิตที่แสนสั้นนี้ พวกเขาไปหลายที่มาก และก็ยังไปเมืองที่ห่างไกลออกไปที่ชื่อว่า “เมืองชิงสุ่ย”
นั่นคือที่ที่มู่โจวไปท่องเที่ยวและฝึกการวาดภาพในตอนวัยรุ่น
ตอนที่มู่โจววัยรุ่น เป็นจิตรกรอิสระ ท่องเที่ยวรอบโลก ครั้งนั้นเขาตามคณะทัวร์ไปยังเมืองหนึ่ง เขาเช่าบ้านหลังหนึ่งในลานที่เงียบสงบ
“เวลาผ่านไปนานมากแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างฉันนึกไม่ออกแล้ว แม้แต่เมืองนั้นชื่ออะไรฉันก็จำไม่ได้แล้ว จำได้แค่แม่น้ำสายเล็ก ๆ น้ำใสมาก ทิวทัศน์ของเมืองก็สวยงาม เหล้าข้าวที่แต่ละบ้านทำเองก็อร่อยมาก ฉันหยุดพักอยู่ที่นั่นสามเดือน ก็เกิดความรักกับสาวสวยคนหนึ่ง”
ตอนที่มู่โจวพูดถึงตรงนี้ก็ไอออกมาอย่างแรง เขามองไปทางกู้ฟางอย่างรู้สึกผิด
กู้ฟางเล่นกับชาหยาบอย่างใจเย็น เทชาในแก้วไปมา แต่ก็ไม่ได้ดื่มมัน จากนั้นเธอก็พูดขึ้นอย่างเรียบเฉย: “เรื่องผ่านไปแล้ว ใครไม่เคยมีอดีตบ้าง? คุณพูดของคุณไป ฉันฟังอยู่”
หนานซ่งและคนอื่น ๆ พากันหลุดขำออกมา
ตอนนี้พวกเขายังคาดเดาไม่ได้ว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปในทิศทางที่ไม่สามารถควบคุมได้
มู่โจวเล่าเรื่องของเขาต่อ “ผู้หญิงคนนั้น หน้าตาสวยมาก...”
“สวยขนาดไหน?”
ลั่วอินตั้งใจพูด: “สวยกว่าอาฟางของพวกเราไหม?”
กู้ฟางเหลือบตามองลั่วอิน “ฉันใช้สมองผ่านมาเจ็ดย่านน้ำ ใครใช้หน้าตากันล่ะ?”
“งั้นฉันกับเธอไม่เหมือนกัน”
ลั่วอินหน้าตาภาคภูมิใจ “ฉันเดินทางผ่านมาเจ็ดย่านน้ำ ใช้หน้าตามาโดยตลอด”
หนานซ่งอยากจะแขวะแม่ของเธอสักหน่อย หนานหนิงซงก็พูดลอย ๆ ขึ้นประโยคหนึ่ง “มีเหรอ?”
เขาเพิ่งพูดจบก็ถูกลั่วอินหยิกเข้าให้ “ใครว่าไม่มีหน้า?”
หนานหนิงซงจับมือของเธอ แล้วพูดใหม่ “คุณมี แต่คุณไม่เอา”
ลั่วอิน: “...”
หนานหนิงซ่งไอเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า “แค่ก ๆ เหล่ามู่ เล่าเรื่องหนี้ความรักของนายต่อ อย่าพาดพิงถึงผู้บริสุทธิ์”
มู่โจวอมยิ้ม แล้วเล่าต่อ
วันนั้นบรรยากาศดีมาก พวกเขานั่งอยู่บนพื้นหญ้า เธอร้องเพลงพื้นบ้าน เขาเล่นออร์แกนอยู่ด้านข้าง ภายหลังพวกเขาดื่มเหล้าข้าวเข้าไปเยอะมาก เยอะมาก ๆ ดื่มจนถึงตอนค่ำ
มู่โจวคออ่อน ดื่มจนภาพตัดไป เขาจำได้แค่ว่าพวกเขาเหมือนกับกลิ้งไปมาบนพื้นหญ้า แถมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาววันนั้นสวยมาก และริมฝีปากของเด็กสาว ทั้งตึงทั้งอ่อนนุ่ม ทั้งหวานทั้งหอม เหมือนกับฝันไป
“รอให้ฉันตื่นมา ก็ไม่เจออาสุ่ยแล้ว ในตอนที่ฉันเก็บกระดานวาดภาพเตรียมจะกลับไป ก็ถูกคนอุดปากไว้ คนของเซียวเอินตามหาฉันพบ แล้วจับฉันใส่กระสอบแล้วลักพาตัวฉันไป”
มู่โจวพูดถึงตรงนี้ สีหน้าเคร่งขรึม สายตาก็เย็นชาลง “ในตอนที่ตื่นมา ก็อยู่ที่เมืองตงเจิ้นแล้ว”
ภายหลัง เขาถูกเซียวเอินบังคับให้อยู่ที่เมืองตงเจิ้นให้ทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อเขา กระทั่งเซียวเอินพาซ่งซีมาหาเขา บังคับให้เขารับซ่งซีเป็นลูกศิษย์ สอนศิลปะการปลอมแปลงให้เธอ แต่มู่โจวดูออกว่าจิตใจของซ่งซีสกปรก ไม่สามารถสืบทอดมรดกของเขาได้ จึงไม่ยอมรับเธอ จนภายหลังเขามีโอกาสหนีออกไปได้ ก็ได้สอนยวี่จิ้นเหวินโดยบังเอิญ
เซียวเอินตามฆ่าเขามาตลอด มู่โจวกลัวจะนำภัยพิบัติมาสู่ยวี่จิ้นเหวิน จึงหนีไปอีก เริ่มการหนีตายของเขา กี่ครั้งที่ถูกเซียวเอินจับกลับมา ก็หนีออกไปทุกครั้ง จนกระทั่งได้พบกับลั่วอิน หนานหนิงซงที่บนเกาะ
โชคชะตาบางอย่างได้ถูกลิขิตไว้แล้วจริง ๆ
หลังจากที่มู่โจวกลับไปที่เมืองชิงสุ่ย สืบถามคนในเมืองเกี่ยวกับอาสุ่ย คิดว่าตอนนี้เธอคงจะแต่งงานมีลูกไปแล้ว เขาไม่ได้อยากรบกวนเธอ เพียงแค่อยากขอโทษที่ตอนนั้นจากไปโดยไม่ล่ำลา อยากจะอธิบายให้เธอฟัง
คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่สืบถาม เพิ่งรู้ว่าหลังจากที่เขาจากไปอาสุ่ยก็ตั้งท้อง พาลูกในท้องแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ผู้ชายคนนั้นดูแลเธอไม่ดี เธอจึงตายตั้งแต่ยังวัยรุ่น ส่วนลูกสาวก็หนีไปแล้ว
ฟังถึงตรงนี้ หนานซ่งรู้สึกเหมือนเคยฟังเรื่องนี้มาจากที่ไหนสักแห่ง เธอรู้สึกคุ้นหูมาก
ลั่วอินถามอย่างรีบร้อน: “จนถึงตอนนี้นายยังไม่พูดเลยว่า ลูกสาวคนนั้นอยู่ไหน? นายตามหาเจอแล้วยัง?”
“หาเจอแล้ว เธออยู่ที่เมืองหนาน”
มู่โจวมองไปทางทั้งสีคน แล้วค่อย ๆ พูดอย่างจริงจัง “ชื่อของเธอตอนนี้คือ ซูอิง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...