สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 145

เมื่อกู้หงเซินจากไป ห้องทำงานก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

เฟิงจิ่งเหยาจัดการกับเอกสารที่ล้นมือต่อ

เพียงครู่เดียว ชวี่ยี่ก็เคาะประตู

"ท่านประธานครับ ส่งคนกลับไปแล้วครับ"

เขามารายงานเกี่ยวกับกู้หงเซิน แต่เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้สนใจ ดังนั้นเขาจึงพูดเรื่องอื่นขึ้นมา

"จริงสิ ท่านประธานครับ เมื่อสักครู่เพิ่งได้รับข่าวเกี่ยวกับสำนักข่าวที่ท่านให้ผมไปตรวจสอบมาครับ"

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาได้ยินดังนั้น ก็หยุดงานในมือลง

"อ๋อ? เป็นสำนักข่าวไหนล่ะ?"

ชวี่ยี่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของเขา

เขารู้ดีว่านี่เป็นสัญญาณว่าท่านประธานกำลังโกรธ

"เป็นเพียงนิตยสารเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง สำนักข่าวไม่ใหญ่ พนักงานก็มีไม่มาก เราตรวจสอบได้ว่าคนที่ทำข่าวเรื่องนี้เป็นผู้สื่อข่าวภาคสนามคนหนึ่ง"

ในตอนท้ายท่าทีของเขาแสดงออกถึงความลังเลเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าควรพูดหรือไม่ควรพูดต่อดี

"ยังมีอะไรอีก พูดออกมาเลย"

เฟิงจิ่งเหยาหน้านิ่วคิ้วขมวดเร่งเร้าอย่างไม่อดทน

"เอ่อ จากการสอบสวนผู้สื่อข่าวคนนั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณลู่ซือหยี่ครับ ก่อนที่จะมีข่าวออกมาหนึ่งวันทั้งสองได้นัดพบกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงได้ไปพบนักข่าวคนนั้น และเธอยอมรับคุณลู่เป็นคนขอให้เธอเผยแพร่ข่าวนี้ครับ"

ชวี่ยี่ระมัดระวังในการพูดจนจบ

เขามองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างประหม่า เขาคิดว่าท่านประธานของเขาคงจะโกรธมากเมื่อรู้ว่าคุณลู่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้

แต่ท่านประธานของเขากลับไม่แสดงอาการใดใด

สีหน้าเรียบเฉย ดูไม่ออกเลยว่ากำลังโกรธอยู่หรือเปล่า

"ท่านประธานครับ จะให้จัดการอย่างไรต่อดีครับ?"

เขาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

เฟิงจิ่งเหยาเหลือบมองดูเขา ดวงตาของเขามืดมน

"เรื่องนี้หยุดไว้แค่นี้ก่อน ฉันจะจัดการภายหลังเอง"

หลังจากที่เขาพูดจบ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรได้ พลันลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน

"ไปโรงพยาบาลกับฉัน"

เมื่อสิ้นคำ เขาก็เดินหายตัวออกจากห้องทำงานแล้ว

ชวี่ยี่มองตามเบื้องหลังของเขา แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

เรื่องนี้จะให้จบเพียงเท่านี้หรือ?

แล้วเขาจะไปโรงพยาบาลเพื่ออะไร?

แม้ว่าเขาจะมีข้อสงสัยอยู่เต็มไปหมด แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะถามเฟิงจิ่งเหยา

เขาขับรถอย่างตั้งใจไปที่โรงพยายาม เมื่อถึงแล้วเฟิงจิ่งเหยาก็ตรงไปที่ห้องพักฟื้นของสิงหย่าอันทันที

"ท่านประธาน"

แน่นอนว่าสิงหย่าอันรู้จักเฟิงจิ่งเหยา ด้วยเหตุนี้เธอจึงตกตะลึงและงุนงงกับการมาของเขา

ไม่ทราบว่าท่านประธานเฟิงทำไมถึงมาได้คะ?"

เธอถามอย่างไม่แน่ใจ

เฟิงจิ่งเหยาเองก็ไม่ต้องการที่จะอ้อมค้อมจึงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "ผมทราบว่าก่อนหน้านี้มีคนจากบริษัทได้มาคุยกับคุณสิงเกี่ยวกับการเข้าสู่บริษัทบันเทิงของเฟิงซื่อกรุ๊ป ไม่ทราบว่าคุณสิงพิจารณาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?"

เมื่อสิงหย่าอันได้ยินดังนั้นเข้าก็ตกตะลึงนิ่งไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สนใจแต่กลับพูดอย่างตรงไปตรงมาต่อว่า "ถ้าหากคุณสิงเห็นด้วย ผมสามารถจัดการให้คุณเซ็นสัญญาได้ในทันที พร้อมข้อเสนออย่างดี และยกระดับตำแหน่งในวงการบันเทิงให้ แน่นอนว่าทั้งหมดนี้คุณสิงเองก็ต้องให้ความร่วมมือกับทางเราก่อน"

เมื่อพูดจบ แววตาของเขาก็รอคอยคำตอบของสิงหย่าอันอย่างหนักแน่น

ด้านสิงหย่าอันที่ยังคงไม่ได้สติจากการตะลึงงันถึงสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่

ยังดีที่มีเสี่ยวถงคอยสกิดเธออยู่ข้าง ๆ

"คุณไม่กังวลเลยเหรอคะ? ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป คงกระทบไปถึงสำนักงานใหญ่แน่"

เมื่อเฟิงจิ่งเหยามองเห็นท่าทางเป็นห่วงของเธอ ใจก็อ่อนลงก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า "ไม่ต้องกังวลนะ เรื่องนี้จะจบลงในวันพรุ่งนี้"

เมื่อเขาพูดจบก็โอบร่างเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก วางคางไว้บนบ่าของกู้ฉางฉิง ดมกลิ่นหอมที่แผ่ซ่านออกจากเรือนร่างของเธอและสูดหายใจเข้าไปลึก ๆ

กู้ฉางฉิงที่กำลังจดจ่ออยู่กับเรื่องโลกออนไลน์ จึงไม่ได้ใส่ใจกับการกระทำของเขามากนัก

"แน่ใจว่าพรุ่งนี้ก็จะจบลงได้แน่นะ? คุณทำอะไรลงไปคะ?"

เธอถามคำถามติดต่อกัน

เฟิงจิ่งเหยารู้ดีว่าหากไม่อธิบายให้เธอเข้าใจชัดเจน ผู้หญิงคนนี้คงจะวางใจลงไม่ได้แน่ ดังนั้นจึงบอกเธอเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาเมื่อตอนเย็น

และในความเป็นจริงก็เป็นไปตามที่เฟิงจิ่งเหยาได้พูดไว้ เช้าวันต่อมาเหตุการณ์นี้ก็สงบลง

ในเช้าวันรุ่งขึ้นสิงหย่าอันได้อัพเดทโพสต์บนเวยป๋อตามเวลาที่พวกเขาได้ตกลงกัน

"ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกคนด้วย ในสองวันที่ผ่านมาฉันเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจึงไม่ทันเห็นข่าวที่เกิดขึ้น จึงทำให้แฟน ๆ พากันเป็นกังวล ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงว่า อาการแพ้ที่เกิดขึ้น เกิดจากการไม่ทันระวังแพ้อาหารทะเลที่ทานเข้าไป ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข่าวลือที่กำลังแพร่ว่าแพ้ผ้าแต่อย่างใด สำหรับเสื้อผ้าแบรนด์ ZARY ฉันเพียงอยากจะบอกว่า เสื้อผ้าสวยมาก ฉันชอบมาก และยังอยากจะซื้ออีก และในโอกาสนี้ก็อยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้ในการกล่าวขอโทษคุณมู่เฉาเกอด้วยเช่นกัน ขอโทษจริง ๆ ที่แฟนคลับของฉันทำให้คุณต้องลำบาก สุดท้ายนี้ ยังมีข่าวดีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากมาประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ นั่นก็คือ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันได้เข้าสู่ครอบครัวใหญ่อย่างบริษัทบันเทิงเฟิงซื่ออย่างเป็นทางการแล้วค่ะ!"

หลังจากที่โพสต์ยาว ๆ นี้เผยแพร่ออกไป เวยป๋อก็ระเบิดทันที

"ไม่เข้าใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"

"ไม่เข้าใจ+1 ไหนบอกว่าแพ้เสื้อผ้า ทำไมกลายเป็นแพ้อาหารทะเลไปได้?"

"ฉันไม่สน ขอเพียงหย่าอันปลอดภัย พวกเราก็สบายใจ"

"ใช่แล้ว หย่าอันของเราก็ออกมาขอโทษแล้ว พวกเราในฐานะที่เป็นแฟนคลับก็จะทำให้ไอดอลของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่ได้ คุณมู่เฉาเกอ ขอโทษนะคะ!"

......

เมื่อมีผู้นำคนหนึ่ง แฟนคลับคนอื่น ๆ ก็พากันขอโทษตาม

อีกทั้งในเวลานี้ยังมีคนวงในได้ออกมาให้ข่าวว่า กระแสความคิดเห็นอย่างรุนแรงของชาวเน็ตที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เกิดจากการที่เฟิงซื่อสร้างกระแสให้กับสิงหย่าอันนั่นเอง

เมื่อรวมเข้ากับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่เฟิงจิ่งเหยาให้ชวี่ยี่ซื้อตัวมา หลังจากที่ข่าวของสิงหย่าอันถูกเผยแพร่ออกไป หัวข้อสนทนาออนไลน์ทั้งหมดก็ถูกนำเข้าสู่บรรยากาศที่ผ่อนคลายลง

ส่วนในด้านความคิดเห็นแง่ลบเหล่านั้น แรกเริ่มยังคงมีความพยายามเคลื่อนไหวอยู่ แต่เมื่อไม่มีแฟนคลับของสิงหย่าอันเข้าร่วมด้วย ประกอบกับการผลักดันของเหล่าผู้ทรงอิทธพลบนโลกโซเชียลก็ทำให้ข่าวไม่เป็นที่สนใจ และกลับมาอยู่ในกระแสต่อไปไม่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา