สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 95

กู้ฉางชิงฟังคำเสแสร้งของลู่ซือยวี่ หัวเราะแห้งๆออกมาถือว่าเป็นการตอบกลับ

และทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในงานเลี้ยงฉลอง

เมื่อทุกคนมาถึงห้องอาหาร คนรับใช้ก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร

พูดคุยสนทนากันไม่หยุด

คุณนายเฟิงพูดคุยกับคุณแม่ลู่อย่างมีความสุข

เฟิงซู่กับคุณพ่อลู่ก็กำลังคุยกันถึงสถานการณ์ปัจจุบัน

แม้แต่เฟิงจิงเหยาก็ถูกลู่ซือยวี่เอาแต่ถามถึงเรื่องบริษัท

กู้ฉางชิงนั่งอยู่ที่เก้าอี้คนเดียว เหมือนถูกทุกคนมองข้าม

เธอมองไปรอบๆที่กำลังวุ่นวายพูดคุยกัน สายตาเธอเต็มไปด้วยความอึดอัด

ลู่ซือยวี่ที่เห็นเธอไม่เป็นตัวของตัวเอง จ้องมองด้วยสายตาที่สะใจ

ในเมื่อเธอกล้ามาเอง ก็อย่าหาว่าเธอทำให้ลำบากใจ

และคนในบ้านตระกูลลู่ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ทำเหมือนราวกับว่าไม่เห็นกู้ฉางชิง

เมื่ออาหารครบแล้ว ก็เชิญให้ตระกูลเฟิงรับประทาน

“ทั้งหมดนี่ซือยวี่เป็นคนเข้าครัวลงมือทำเอง ทำตามที่พวกคุณชอบเลย ไม่รู้ว่าจะถูกปากไหม”

“เกรงใจจังเลยซือยวี่!”

คุณนานเฟิงมองไปโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหาร มองไปรอบๆกับข้าวมากมายเป็นของโปรดเธอหมดเลย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ฉันอิจฉาคุณนายลู่จริงๆที่มีลูกสาวน่ารักแบบนี้ เสียดายฉันมีแต่ไอ่หัวดื้อแถมยังชอบทำให้ฉันโมโห”

ในขณะที่เธอพูดใบหน้าเต็มไปด้วยความเอ็นดู

คุณแม่ลู่เห็นเช่นดีใจดวงตาเต็มไปด้วยประกาย

เห็นเธอพูดอ่อนน้อมถ่อมตนเช่นนี้ก็เปลี่ยนเรื่องและมองไปที่กู้ฉางชิง ยิ้มและพูดว่า: “ถึงแม้ว่าคุณนายจะไม่มีลูกสาว แต่กู้ฉางชิงก็ถือว่าเป็นลูกสาวเหมือนกันนะแถมคุณกู้ยังถูกเลือกเองกับมือของนายท่าน ต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ คุณนายเฟิงอย่าถ่อมตัวนักเลย”

กู้ฉางชิงก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารตรงหน้า คิดไม่ถึงว่าพวกเขาพูดคุยกันอยู่ดีๆทำไมถึงวนกลับมาพูดถึงเธอได้

เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง คาดไม่ถึงดันสบตากับคุณแม่ลู่พอดี ไม่รู้ด้วยเหตุใดทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ

ต่อมาก็ได้ยินคุณแม่ลู่พูดจาไม่รู้จะยกย่องหรือเหยียดหยาม

“จะว่าไปเจอคุณกู้ครั้งก่อนไม่ได้มองดีๆ ครั้งนี้มองอย่างละเอียดแล้ว รู้สึกว่าคุณกู้สวยเซ็กซี่เหมือนกันนะ”

กู้ฉางชิงขมวดคิ้วไม่เข้าใจคุณนายลู่พูดหมายถึงอะไร

เธอสวยหรือว่ากำลังบอกเธอเย้ายวนกันแน่

เธอลดสายตาลง เก็บความรู้สึกไว้และตอบ: “คุณนายลู่ก็ชมเกินไป”

คุณนายเฟิงที่ไม่ชอบกู้ฉางชิง เมื่อเห็นเธอน้อมรับคำชมก็ไม่พอใจและพูดว่า: “เธอยังเทียบไม่ได้กับซื่อยวี่ คุณนายลู่อย่าไปชมเธอเลย”

คุณแม่ลู่เห็นเช่นนี้ก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

เช่นนี้แล้วคุณนายเฟิงถึงพอใจและพูดถึงการพัฒนาของซือยวี่เมื่อหลายปีผ่านมานี้

“จะว่าไปแล้วก็ใจหาย หลายปีก่อนยังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ มาปีนี้โตเป็นสาวสวยแล้ว ต่อมาต้องเป็นคนมีชื่อเสียงไปทั่วทุกทวีปแน่เลย”

คุณแม่ลู่ได้ยินเช่นนี้เสแสร้งทำหน้าเศร้าและพูดว่า: “จะมีประโยชน์อะไร ยังไงจิงเหยาก็ไม่ชอบเธอ”

คำพูดนี้ตั้งใจพูดแหนบแหนมเฟิงจิงเหยา

ทันใดนั้นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็นิ่งสงบ

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของคุณนายเฟิงก็เปลี่ยนไป

เธอจ้องมองไปที่เฟิงจิงเหยา

เฟิงจิงเหยาได้ยินคำพูดเมื่อกี้ ก็วางตะเกียบลง

“คุณนายลู่พูดเป็นเล่น ซือยวี่ดีเกินไปเหมาะสมกับคนที่ดีกว่า”

เขาพูดเช่นนี้เหมือนเป็นการปฏิเสธอีกครั้ง ทำให้บ้านลู่หมดหนทางที่จะพูดด้วย

ทั้งหมดก็เพียงแค่อยากทำให้ตระกูลลู่รู้สึกว่าลูกสาวพวกเขาควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า

ลู่ซือยวี่โกรธจนใบหน้าน่าเกลียดไปหมด ดวงตาเต็มไปด้วยความหึงหวง

คุณแม่ลู่ยังไม่ทันรู้สึกดีขึ้น

เห็นได้ชัดจากการกระทำของเฟิงจิงเหยาว่าไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอตั้งแต่แรก

หลังจากนั้น มื้ออาหารก็ผ่านไปด้วยดี

ผู้คนเริ่มมากล่าวอำลาตระกูลลู่

เมื่อออกจากบ้านตระกูลลู่ คุณนายเฟิงทนไม่ไหวแล้วและเรียกเฟิงจิงเหยา

“เมื่อกี้แกทำแบบนั้นหมายความว่าไง? รู้ไหมเกือบทำให้พวกเราต้องอับอาย”

เฟิงจิงเหยาถูกตำหนิอย่างไร้เหตุผล ขมวดคิ้วและถามว่า: “ผมทำแบบนั้นแล้วทำไม? ถ้าแม่ไม่ได้มีความคิดที่ไม่จริงจะให้อับอายได้ยังไง?”

คุณนายเฟิงได้ยินคำเถียงเช่นนี้รู้สึกโกรธขึ้นมา

“ยังจะต้องมีเหตุผลอีกหรอ แกก็รู้ว่าซือยวี่รู้สึกยังไงกับแก......”

เธอกำลังจะบอกความรู้สึกที่ลู่ซือยวี่มีต่อเขา แต่ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเฟิงซู่ขัดจังหวะ

เขาเหลือบไปมองกู้ฉางชิง พูดด้วยอารมณ์เสีย: “ทะเลาะอะไรกันนักหนา? เงียบๆหน่อยได้ไหมนี่เพิ่งออกจากบ้านเขามาแท้ๆ!”

คุณนายเฟิงมองไปที่กู้ฉางชิงและพูดด้วยความไม่พอใจว่า: “อย่าคิดว่าแกทำให้ซือยวี่ออกจากบ้านแล้วแกชนะ เธอจะกลับมาอีกแน่นอน!”

พูดจบ เธอไม่สนใจสีหน้าของกู้ฉางชิงและเฟิงจิงเหยาและเดินตรงไปที่รถกับเฟิงซู่

กู้ฉางชิงมองรถที่กำลังผ่านไป เธอกัดริมฝีปากในใจรู้สึกไม่สบายใจและกดดัน

เฟิงจิงเหยาสังเกตเห็นสีหน้าไม่ดีของเธอ เดินไปข้างหน้าและจับมือเธอพูดว่า: “อย่าใส่ใจกับคำพูดของแม่เลยนะ เรากลับบ้านกันเถอะ”

กู้ฉางชิงตกลึงไปชั่วขณะ โดยเฉพาะสองคำสุดท้ายกลับบ้าน ทำให้เธอยิ่งรู้สึกใจสั่นไปหมด

เธออดทนเก็บอาการไว้ พนักหน้าและเดินจากไปกับเขา

ในขณะที่พวกเขากำลังจากไป ลู่ซือยวี่ที่มองดูอยู่ชั้นสองก็เห็นพวกเขาจับมือกันไป ทำให้เธอใบหน้าบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความหึงหวง

คุณแม่ลู่ที่ดูอยู่ข้างๆ รู้ถึงความรู้สึกของลูกสาว เดินไปปลอบและพูดว่า: “ซือยวี่ ไม่เป็นไรนะ แกไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาส ยิ่งตอนนี้พ่อแกได้เลื่อนตำแหน่ง ตระกูลเฟิงที่ไม่ได้ปองดองกับเราต้องรู้สึกเสียดายแน่นอน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา