สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 140

ในขณะที่โจงเสียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างต่อ ท่านใหญ่โจวก็พูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า "พอได้แล้ว จะจบได้หรือยัง จะกินข้าวก็กินไม่สงบเลย"

ในที่สุดบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็สงบลงเสียที

พอรับประทานอาหารเสร็จแล้ว หลังจากที่ท่านใหญ่โจวกับโจงเสียนจากไปแล้ว หร่วนซิงหว่านก็ลุกขึ้น และในขณะที่เธอเตรียมจะกลับห้องนั้น ก็ถูกหลินจืออี้ขวางเอาไว้

หลินจืออี้ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า "คุณหร่วน เรื่องที่ฉันพูดกับคุณเมื่อเช้านี้ คุณพิจารณาแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ"

หร่วนซิงหว่านพูดว่า "ต้องขอขอบคุณในความหวังดีของคุณหลินมากนะคะ พวกคุณไปกันเถอะค่ะ ฉันไม่ไปดีกว่า"

"คุณหร่วนกังวลว่าคุณลุงจะไม่ให้คุณไป หรือกังวลว่าอานอานไปด้วยคะ ฉัน......"

"คุณหลินคะ" หร่วนซิงหว่านพูดอย่างเฉยเมยว่า "การแต่งงานเป็นงานใหญ่จริงๆ มีหลายสิ่งที่จะต้องจัดเตรียม ฉันไปก็มีแต่จะถ่วงเวลาของคุณหลินเท่านั้น"

หลินจืออี้ชะงักงันไปชั่วขณะ แล้วแสดงสีหน้าที่เก้อเขินออกมา "ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ ตอนที่อยู่บนโต๊ะอาหารเมื่อสักครู่นี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นเลย นั่นเป็นเพราะว่า......"

"คุณหลินไม่ต้องขอโทษฉันหรอกค่ะ ฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่าคุณหลินจะมีตรงไหนที่ต้องมาขอโทษฉันเลยนะคะ" ผ่านไปครึ่งทางของการสนทนา ทันใดนั้นหร่วนซิงหว่านก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี เธอจึงพูดเบาๆ ว่า "ฉันแค่อยากจะพักผ่อนเท่านั้น แต่กลับรบกวนความสนุกเพลิดเพลินของคุณหลินเสียแล้ว ฉันต่างหากค่ะที่ควรขอโทษคุณ"

หลังจากที่พูดจบ เธอก็พยักหน้าให้หลินจืออี้เล็กน้อย แล้วก็เดินขึ้นไปชั้นบน

พอกลับไปที่ห้องแล้ว หร่วนซิงหว่านก็ยืนอยู่ตรงหน้าต่างสักพักหนึ่ง จนกระทั่งหลังจากที่เห็นรถสีดำค่อยๆ ขับออกไปจากบ้านตระกูลโจวแล้ว เธอจึงนั่งลงข้างๆ เตียง แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาแว่วๆ

หร่วนซิงหว่านถอนความคิดกลับคืนมา และจัดการอารมณ์สักครู่หนึ่ง แล้วจึงลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าประตู

พอเธอเปิดประตูออก ก็เห็นโจวฉือเซินยืนอยู่ที่หน้าประตู เขาเอามือทั้งสองข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ทำสีหน้าที่เย็นชา และกำลังทอดสายตามองไปที่ระเบียงทางเดิน

หร่วนซิงหว่าน "......."

เธอแทบจะปิดประตูอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

ในเวลาชั่วพริบตาเดียวนั้นที่เธอกำลังปิดประตู โจวฉือเซินก็ยื่นมือออกมากันประตูเอาไว้ และมองดูเธออย่างไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

หร่วนซิงหว่านจึงพูดอย่างอารมณ์ดีว่า "ประธานโจวมีธุระอะไรเหรอคะ?"

โจวฉือเซินชักมือกลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง แล้วพูดว่า "ผมเห็นคุณไม่ได้กินอะไรเลย ผมก็เลยให้ห้องครัวทำอาหารมาให้ใหม่สักสองจาน เดี๋ยวอีกสักพักก็คงจะส่งขึ้นมาแล้วล่ะ"

"อ๋อ ขอบคุณค่ะประธานโจว"

ในขณะที่พูดอยู่นั้น หร่วนซิงหว่านก็เตรียมจะปิดประตูอีกครั้ง

โจวฉือเซินจึงมองไปที่เธออย่างเย็นชา

"......"

โจวฉือเซินพูดว่า "นี่คือการแสดงท่าทีของคุณเหรอ?"

หร่วนซิงหว่านเม้มริมฝีปาก แล้วพูดว่า "ต้องขอขอบคุณความหวังดีของประธานโจวมากนะคะ ฉันจะกินให้อิ่มอร่อยไปเลยค่ะ"

ในตอนเที่ยงเธอกินไม่อิ่มจริงๆ ก็เลยไม่อยากเกรงอกเกรงใจเขาในตอนนี้

ดวงตาสีเข้มของโจวฉือเซินจ้องมองเธอตาไม่กะพริบอยู่ครู่หนึ่ง และหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็พูดขึ้นมาว่า "คุณโกรธอะไรผมหรอ"

หร่วนซิงหว่าน "คะ?"

เขาใช้ตาไหนมองถึงได้เห็นว่าเธอกำลังโกรธเนี่ย!

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า "ประธานโจวเข้าใจผิดแล้ว ฉันเพียงแต่คิดว่า ในเมื่อประธานโจวเป็นคนที่กำลังจะแต่งงานแล้ว ก็ไม่ควรทำแบบนี้อีก คุณปรากฏตัวอยู่หน้าประตูห้องของอดีตภรรยาและพูดคำพูดบางอย่างที่มันแปลกประหลาดจนยากแก่การเข้าใจแบบนี้ ถ้าคู่หมั้นของคุณรู้เข้า เธอจะเสียใจมากนะคะ"

โจวฉือเซินพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยว่า "ตกลงว่าเป็นคุณนั่นแหละที่เสียใจ หรือว่ากลัวเธอเสียใจกันแน่?"

หร่วนซิงหว่านรู้สึกว่าหมดหนทางที่จะสื่อสารกับเขาได้แล้ว

ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้น่ารำคาญขนาดนี้นะ

และอีกด้านหนึ่ง โจวจู้นเหนียนก็น่าจะได้ยินการกระทำและคำพูดทั้งหมดของพวกเขาแล้ว เขาจึงไปหาโจวฉือเซิน

เมื่อโจวฉือเซินเปิดประตูออกมา ภายในห้องยังมีกลิ่นควันบุหรี่ตลบอบอวนอยู่

โจวจู้นเหนียนเข็นรถเข็นเข้าไปข้างใน แล้วจำใจยิ้มและพูดว่า "นายทะเลาะกับซิงหว่านอีกแล้วหรอ?"

โจวฉือเซินนั่งอยู่บนโซฟา แล้วเทน้ำลงไปในที่เขี่ยบุหรี่และดับควันบุหรี่

และเขาก็พูดขึ้นมาว่า "เธอฝีปากดีขนาดนั้น ผมจะทะเลาะชนะเธอได้ยังไงล่ะครับ"

"ซิงหว่านอยู่ที่นี่มาหนึ่งอาทิตย์แล้ว แม้ว่าบนใบหน้าของเธอจะไม่บอกอะไร แต่ฉันก็รู้สึกได้ถึงความเหงาของเธอ หลังจากที่นายกลับมาแล้ว สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปมากเลย" โจวจู้นเหนียนพูด "แต่นายก็ทำไม่ถูก ซิงหว่านกำลังท้องอยู่นะ ทำไมนายถึงชอบยั่วยุให้เธอโมโหอยู่เรื่อยเลย"

โจวฉือเซินเม้มริมฝีปากบางๆ ของเขาเล็กน้อย แล้วพูดว่า "ผมไม่ได้ยั่วโมโหเธอนะ"

เขาเห็นว่านับตั้งแต่ตอนที่รับประทานอาหาร หร่วนซิงหว่านก็ก้มศีรษะอยู่ตลอดเวลา และสีหน้าของเธอก็ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นเขาจึงอยากจะอธิบายเรื่องการแต่งงานให้เธอฟัง

แต่พอผู้หญิงที่ไม่มีมโนสำนึกคนนั้นเปิดประตูออกมาก็ทำท่าทางที่แย่มากราวกับว่าเธอได้กินระเบิดเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น

โจวจู้นเหนียนก็พูดขึ้นมาอีกว่า "ไม่ว่าจะพูดยังไง คนที่ตกอยู่ในฐานะที่ยากลำบากที่สุดในตอนนี้ จริงๆ แล้วก็คือซิงหว่านเธอกำลังตั้งท้องลูกของนาย แต่นายกำลังจะแต่งงานกับจืออี้แล้ว แถมพวกนายก็ยังหารือกันถึงเรื่องเหล่านี้ต่อหน้าเธอโดยไม่หลีกเลี่ยงเลยสักนิด ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่สบายใจทั้งนั้นแหละ"

โจวฉือเซินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "นี่คือสิ่งที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้วนี่นา"

"ฉือเซิน" โจวจู้นเหนียนพูด "ความจริงแล้วในหลายๆ เรื่อง นายพูดคำพูดที่มันอ้อมค้อมสักหน่อยก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้วิธีที่มันโหดร้ายแบบนี้หรอก"

โจวฉือเซินพูดว่า "ความจริงมันก็โหดร้ายแบบนี้แหละครับ ถ้าปล่อยให้เธอคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างสวยงามตามที่เธอจินตนาการเอาไว้ อย่างนั้นเธอก็จะไม่มีวันรู้ว่ายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถทำให้คนเจ็บปวดได้เป็นร้อยเท่ามากว่าที่เธอเคยประสบมา"

โจวจู้นเหนียนถอนหายใจอย่างไม่มีเสียง แล้วพูดว่า "ฉือเซิน นายคิดเรื่องนี้แบบสุดโต่งเกินไปแล้ว จริงๆ แล้วเหตุผลที่คุณพ่ออยากได้ลูกที่อยู่ในท้องของซิงหว่าน ก็เป็นเพราะว่าท่านไม่อยากให้เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลโจวไปตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกยังไงล่ะ"

โจวฉือเซินไม่ปริปากโต้แย้งอะไรเลยสักคำ เขายิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า "เขาแค่ต้องการฝึกหุ่นเชิดอีกสักตัวก็เท่านั้น ถ้าจะต้องมีหุ่นเชิดสักตัวเชื่อฟังแต่คำพูดของเขา และอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา หุ่นเชิดตัวนี้จะต้องมีสายเลือดของตระกูลโจวเท่านั้น"

ครอบครัวที่มั่งคั่งอย่างตระกูลโจวจะให้ความสนใจเรื่องการสืบทอดทางเลือดเป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่พาเขากลับมาในฐานะลูกชายนอกกฎหมายอย่างนี้หรอก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว