หลังจากเจียงหยวนเอาโทรศัพท์ให้หร่วนซิงหว่านเรียบร้อย และได้บันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตนเองเข้าไปในเครื่องแล้ว จากนั้นก็กดโทรออกทันที และชูหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังกะพริบอยู่ต่อหน้าเธอ
เพื่อเป็นการพิสูจน์ความถูกต้องของเบอร์โทรศัพท์
หร่วนซิงหว่านรับโทรศัพท์มา พลางเม้มริมฝีปากพลางพูดต่อ "พอเขาตื่นขึ้นมาแล้วเกิดพบว่าฉันไม่อยู่ข้างกายเขา จะร้องไห้... แต่เขาชอบเล่นของเล่นชิ้นเล็กๆ ขอแค่ทนโอ๋เขาสักพัก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจก็พอ...อย่าดุเขา เขาจะร้องไห้หนักมาก ... เขาเป็นเด็กเชื่อฟังมาก เมื่อเขารู้สึกว่าคุณดีกับเขา ก็จะค่อยๆ เข้าหาคุณเอง..."
พูดจบ หร่วนซิงหว่านจึงเอ่ยเรื่องที่ต้องคอยระวังอีกมากมาย เจียงหยวนตั้งหน้าตั้งตาฟัง แถมยังเปิดโน้ตในโทรศัพท์เพื่อเขียนเอาไว้
หลังจากรอให้หร่วนซิงหว่านพูดจบแล้ว เขาเก็บโทรศัพท์ลง "ผมรู้แล้ว ละแวกนี้เป็นห้างสรรพสินค้า รอฟ้าสว่างแล้วผมจะไปซื้อครับ"
หร่วนซิงหว่านพยักหน้า พลันหันหลังมองอาคารสีขาวหลังนั้นทางด้านหลัง และยังยื้อไม่ยอมจากไป
เจียงหยวนเหลือบมองเวลา "ผมต้องเข้าไปแล้ว"
เมื่อพูดจบ พลางมองรถเก๋งสีดำคันนั้นที่อยู่ไม่ไกลนัก "เจียงซ่างหานรอคุณอยู่ในรถ คุณไปเถอะ"
หร่วนซิงหว่านเรียกเขารั้งไว้ พลางอ้าปาก น้ำเสียงสะอึกสะอื้นบ้าง "ฝากคุณด้วยนะ ต้องรักษาเขาให้หายดี"
เจียงหยวนกล่าว "วางใจเถอะ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ งั้นผมขอตัวก่อนนะ แล้วเจอกันครับ"
หลังจากมองเห็นเจียงหยวนเข้าไปในห้องแล็บ หร่วนซิงหว่านถึงได้ถอนสายตากลับคืนมา พลางก้มหน้าลงและยืนอยู่หลายนาที จึงเดินไปอยู่ด้านหน้ารถเก๋งสีดำ และเปิดประตูรถ
ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนของเมืองเจียงโจวแผ่อุณหภูมิอันเย็นเฉียบหนักกว่าเดิม ไฟข้างถนนที่ทิ้งห่างทีละดวง จนแสงไฟสะท้อนเหนือผิวน้ำระยิบระยับ
หร่วนซิงหว่านเอนพิงกระจกรถ สายตามองภาพวิวทางด้านนอกแต่ไม่ได้เพ่งจับจุด เส้นผมถูกสายลมพัดจนเริ่มยุ่งเหยิง
หางตาด้านข้างของเจียงซ่างหานมองเธอ นิ้วเรียวยาวค่อยๆ เคาะลงบนหัวเข่าอย่างแผ่วเบา แต่ไม่ได้พูดว่าอะไร
ซึ่งไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหนแล้ว รถยนต์จึงจอดลงด้านหน้าของสะพานใหญ่ข้ามแม่น้ำ
เวลานี้ ท้องฟ้าเริ่มมีแสงแรกของรุ่งอรุณ แสงพระอาทิตย์อ่อนเริ่มแทรกผ่านชั้นเมฆ และปรากฏตัวขึ้นอย่างไร้เสียง
ในที่สุดหร่วนซิงหว่านหลุดออกจากภวังค์ พลางหันศีรษะไปพูด "เมื่อไหร่ฉันจะมารับเขาได้"
เจียงซ่างหานกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ "มาได้ตลอดครับ แต่ผมยืนกรานประโยคนั้น คุณพาตัวเขาไปแล้ว พวกเราจะไม่สนับสนุนความช่วยเหลือใดๆ อีก คำนี้ คุณสามารถบอกกับโจวฉือเซินได้เช่นเดียวกัน"
หร่วนซิงหว่านมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง ดูจากสภาพในเวลานี้ ขอแค่ตรวจสอบความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ 20ปีก่อน ทุกอย่างก็จะเริ่มมีจุดเปลี่ยน
เธอเปิดประตูรถ หลังจากเดินไปไม่กี่นาที ถึงมองเห็นเงาร่างกายที่ยืนพิงตัวรถยนต์อยู่ไกลๆ
ในที่สุด ก็ได้เจอเขาอีกแล้ว
ในเวลาเดียวกัน โจวฉือเซินก็มองเห็นเธอ พลางเดินก้าวเท้ายาวมาหา และดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด กอดเธอแน่น น้ำเสียงตึงเครียดเล็กน้อย "พวกเขาไม่ได้ทำอะไรคุณใช่มั้ย"
หร่วนซิงหว่านส่ายหน้าเล็กน้อย ฝ่ามือวางพาดบนช่วงเอวสอบของเขา และเอ่ยปากพูดอย่างยากลำบาก "คุณผ่อนแรงหน่อยค่ะ ฉัน... ใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว"
โจวฉือเซินหลับตา แถมกอดเธอแน่นกว่าเดิม "ผมนี่แหละที่จะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว"
หร่วนซิงหว่านกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "ฉันก็ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่เหรอ อย่าเป็นห่วงเลยค่ะ"
โจวฉือเซินปล่อยเธอ หลังจากตรวจสอบเธออย่างละเอียดแล้วว่าไม่มีส่วนใดได้รับบาดเจ็บ จึงจูบบริเวณหัวคิ้วของเธอ สีหน้าท่าทางตึงเครียดในที่สุดก็ผ่อนคลายหมด "ลูกล่ะ ไม่ได้กลับมากลับคุณเหรอ"
"เขากำลังรักษาตัวอยู่ค่ะ ฉัน..."
หร่วนซิงหว่านพูดได้เพียงครึ่งประโยค จู่ๆ ก็รู้สึกดวงตาพร่ามัวทางด้านหน้า ร่างกายไร้เรี่ยวแรง จากนั้นก็หมดสติ
โจวฉือเซินรับตัวเธอ พร้อมทั้งอุ้มตัวคนอยู่ในอ้อมกอด และก้าวเท้ายาวๆ เดินไปยังด้านหน้ารถยนต์
หลินหนานเห็นภาพนั้น จึงรีบเปิดประตูรถทันควัน
เมื่อมองว่าใบหน้าเธอไร้สีเลือด โจวฉือเซินพูดเสียงเย็นชา "ไปโรงพยาบาล"
......
ภายในรถยนต์อีกฝั่งข้างสะพานนั้น เจียงชูหนิงเอนหลังพิงเบาะนั่งหลับสนิท เพราะว่าแสงแดดอ่อนๆ มันเริ่มทิ่มตา จึงชูมือถูหน้า และเปลี่ยนไปอีกทิศทาง จนเอาศีรษะมุดอยู่ในหัวไหล่และนอนต่อ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด เธอได้ยินเสียงเคาะประตูดังเข้าหู
เจียงชูหนิงหลับตาลงและบ่นพึมพำ "มีคนเคาะประตูไม่ได้ยินเหรอ รีบไปเปิดประตู"
พูดจบ เจียงชูหนิงทำเสียงฟืดฟาด พลางหันศีรษะและเดินหนีโดยไม่หันกลับมา
หลังเธอเดินจากไป ลูกน้องก็ก้าวมาทางด้านหน้าพลางเอ่ยขึ้น "ประมุขเจียง"
เจียงซ่างหานพูด "สั่งให้คนสองคนคอยตามเธอไว้ ส่งเธอกลับไป"
"ครับ"
"รอเดี๋ยว" เจียงซ่างหานเปล่งเสียงออกมาไม่รีบร้อน "ใครพูดว่าฉันจะไปขอเธอ"
ลูกน้อง "..."
เขาพูดกระซิบ "ไม่...ไม่ทราบว่าใครเป็นคนลือออกมา ตอนนี้ลือไปทั่วตระกูลเจียงแล้วครับ"
เจียงซ่างหานมองวิวของแม่น้ำไกลๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ผ่านไปหลายวินาทีถึงได้พูดออกมา "ฉันรู้แล้ว"
ไม่นานนัก โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
เจียงซ่างหานเหลือบมองสายที่โทรเข้ามาแวบหนึ่ง จึงกดรับสาย
เสียงปลายสายพูดทันที "ผมได้ข่าวว่าเมื่อคืนหนิงหนิงถูกลักพาตัวไปแล้ว มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?"
เจียงซ่างหานกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ไม่มีเรื่องอะไรนี่ครับ มีเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้นเอง"
"เข้าใจผิดอะไร หนิงหนิงเป็นว่าที่ภรรยาของแก การปกป้องเธอถือเป็นความรับผิดชอบของแก ทำไมแกถึงได้เพิกเฉยได้ขนาดนี้"
"ผมพูดแล้ว ว่าผมจะไม่ขอเธอแต่งงาน"
"เรื่องนี้กำหนดลงมาแล้ว ฉันได้ไปพูดกับพ่อแม่ของเธอแล้ว ตอนนี้ก็รอกำหนดวันแต่งงานแค่นั้น แกก็เตรียมตัวเอาไว้ด้วย"
เจียงซ่างหานกล่าวต่อ "ตอนนี้เรื่องทางหนานเฉิงยังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจน ผ่านไปสักระยะแล้วค่อยว่ากันครับ"
"เป็นเพราะว่าเรื่องทางหนานเฉิง แกยังมองไม่ออกอีกเหรอ เห็นชัดเจนมากว่ามีคนจงใจหยิบยืมเรื่องนี้ มาต่อกรกับแก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...