ตอนที่หร่วนซิงหว่านตื่นขึ้น ภายในห้องดึงผ้าม่านหนาปิดทึบ จึงมีแต่ความมืดมิดที่เข้ากระบอกตา
เธออยากจะลุกขึ้น ทว่ากลับมีมือข้างหนึ่งกอดรัดบริเวณเอวของเธอเ และดึงรั้งให้ถอย
วินาทีต่อมา เธอถลาเข้าสู่แผงอกกำยำอันอบอุ่นของชายหนุ่ม
น้ำเสียงแหบแห้งของโจวฉือเซินดังขึ้น "ไม่นอนแล้วเหรอ"
"นอนจนปวดหัวแล้วค่ะ"
"หมอบอกว่าคุณเหนื่อยเกิน นอนต่ออีกสักพักเถอะ อยากกินอะไร ผมจะให้หลินหนานเอามาส่งให้"
หร่วนซิงหว่านตอบ "ฉันไม่มีอารมณ์จะกิน"
โจวฉือเซินพูด "ไม่มีอารมณ์จะกินก็ต้องกิน คุณอยากจะเป็นลมไปอีกครั้งใช่มั้ย"
หร่วนซิงหว่านเงียบ ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ผ่านไปไม่นานนัก เธอรู้สึกคนที่อยู่ด้านหลังเริ่มขยับเล็กน้อย โดยเปิดโคมไฟติดผนัง แสงไฟสีส้มอ่อนๆ สาดส่องขยายอย่างไร้เสียง
ตอนที่โจวฉือเซินลุกขึ้นและลงจากเตียง หร่วนซิงหว่านก็ผุดนั่ง เธอเอ่ยถาม "ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ"
โจวฉือเซินก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือ "บ่ายโมงครึ่งครับ"
หร่วนซิงหว่านเกาศีรษะ "ฉันนอนนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย"
"ไม่นานนะ นอนต่อเถอะ เดี๋ยวตอนกินข้าวผมมาเรียกคุณ"
พูดจบ โจวฉือเซินก็สาวเท้าเดินออกจากห้องไป
หร่วนซิงหว่านนอนไม่หลับจริงๆ เธอเลิกผ้าห่มขึ้นและลงจากเตียง ทว่ากลับพบว่าบนร่างกายใส่เสื้อเชิ้ตแบบผู้ชายอยู่
หร่วนซิงหว่าน "..."
ภายในห้องรับแขก โจวฉือเซินกำลังโทรศัพท์หาหลินหนาน
หร่วนซิงหว่านเดินผ่านตัวเขา และเดินมาอยู่ด้านหน้าโต๊ะทานข้าว พลางรินน้ำใส่แก้วน้ำ
โจวฉือเซินหันหลังกลับมา สายตาจับจ้องอยู่บนตัวเธอ หิวคิ้วยกขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ
ตอนที่พาเธอออกมาจากโรงพยาบาล บนตัวของหร่วนซิงหว่านมีแต่กลิ่นยาฆ่าเชื้อ เขาจึงเอาเสื้อผ้าของตนเองเปลี่ยนให้เธอใส่
ในสาย หลินหนานพูดขึ้น "ประธานโจวครับ เสื้อผ้าของคุณนายผมได้เตรียมไว้พร้อมแล้วครับ จะเอาไปส่งให้เดี๋ยวนี้"
โจวฉือเซินตอบ "ไม่ต้องแล้ว"
หลินหนาน "?"
โจวฉือเซินค่อยๆ พูดต่อ "เอาข้าวเข้ามาส่งก่อน หิวแล้ว"
"เสื้อผ้าผมก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เอาไปส่งพร้อมกับอาหารได้เลย..."
เพิ่งพูดได้ครึ่งประโยค หลินหนานไหวพริบดีจึงสัมผัสได้ถึงปัญหา จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อเรื่องทันที "ได้ครับ ผมจะไปเตรียมข้าวกลางวัน"
โจวฉือเซินเก็บโทรศัพท์ลงอย่างพอใจ เขาเดินไปอยู่ด้านข้างหร่วนซิงหว่าน พลางมองเธอดื่มน้ำเสร็จ และยื่นมือขึ้นมาปาดหยดน้ำที่เกาะอยู่ริมฝีปากของเธอ นิ้วเรียวยาวค้างอยู่ริมฝีปากของเธอยู่หลายวินาที
หร่วนซิงหว่านเงยหน้ามองเขา โดยการมองอย่างกับคนวิกลจริต "คุณจะทำอะไร"
โจวฉือเซินเลิกคิ้วขึ้น และรับแก้วน้ำว่างเปล่าในมือของเธอไป และรินน้ำลงในแก้ว "ไม่มีอะไรนี่ ยังอยากดื่มอีกมั้ย"
"ดื่มพอแล้วค่ะ"
เมื่อได้ยินดังนั้น โจวฉือเซินวางกาน้ำคริสตัลลง และดื่มน้ำที่เหลือจนหมด
หร่วนซิงหว่านขี้เกียจจะสนใจเขา จึงไปตามหาเสื้อผ้าของตนเอง
โจวฉือเซินเดินตามหลังเธอ "ซักแล้วแต่ยังไม่แห้ง ผมให้หลินหนานไปเตรียมไว้ให้แล้ว อีกเดี๋ยวจะเอามาส่งให้"
หร่วนซิงหว่านหันหลังกลับ และเจอโทรศัพท์ของตนเองที่วางอยู่บนโซฟา จึงชาร์จแบตและเตรียมเปิดเครื่อง พลางครุ่นคิด แถมมองมาทางโจวฉือเซิน "ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ"
โจวฉือเซินนั่งอยู่ด้านข้างเธอ "หือ?"
คำพูดติดอยู่ริมฝีปาก หร่วนซิงหว่านกลับไม่รู้ว่าควรจะอ้าปากพูดว่ายังไงดี
เรื่องเหล่านี้มันสับสนเกิน ตอนนี้เธอยังเรียบเรียงได้ไม่ชัดเจน
ผ่านไปสักพัก หร่วนซิงหว่านถึงได้พูด "ลูก...ฉันทิ้งไว้กับเจียงซ่างหาน บางทีพวกเขามีวิธีรักษาเขา เจียงซ่างหานพูดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นหนานเฉิงก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้เป็นคนทำ มีคนโยนความผิดให้เขา ฉัน ...ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันควรจะเชื่อเขาดีมั้ย แต่เจ้าตัวน้อยอยู่ภายใต้การรักษาของพวกเขา และอาการดีขึ้นจริงๆ"
พูดจบ เธอก้มศีรษะลง น้ำเสียงอึมครึม "ฉันไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว ขอแค่..."
ฝั่งตรงข้าม มือโจวฉือเซินที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ถึงกับค้างเติ่งทันที เมื่อเห็นภาพอันงดงามที่แหวกว่ายอยู่ใต้คอเสื้อเต็มตา
เมื่อเห็นว่าเขาหยุดและไม่ยอมขยับอยู่ตรงนั้น หร่วนซิงหว่านไม่เข้าใจจึงเงยหน้าขึ้น หลังจากที่รับรู้ว่าเขากำลังมองอยู่ตรงไหน จึงลุกขึ้นนั่งหลังตรง พลางหยิบหมอนพิงติดมือปาออกไปทันที
โจวฉือเซินคว้าหมอนอิงเอาไว้อย่างง่ายดาย "พูดตามหลักการนะ ผมไม่ได้ตั้งใจมองนี่ นี่ก็โทษผมด้วยเหรอ?"
หร่วนซิงหว่านพูดอย่างไม่สบอารมณ์ "เป็นผู้เป็นคนบ้างนะคุณอะ"
มุมปากโจวฉือเซินยกขึ้น และเอาหมอนอิงวางไว้ด้านข้าง "มากินข้าวกัน"
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เวลาล่วงเลยมาถึงบ่าย 2โมงครึ่ง
หร่วนซิงหว่านมองโจวฉือเซิน "ตอนนี้คุณวางแผนอะไรไว้บ้าง"
โจวฉือเซินสบตาเธอ "ขุนให้อ้วนอีก 2 โลครึ่ง"
หร่วนซิงหว่าน "?"
โจวฉือเซินพูดต่อ "ระยะนี้คุณผอมลงไปไม่น้อย ต้องขุนให้อ้วนขึ้น 2 โลครึ่งก่อนแล้วค่อยว่ากัน"
หร่วนซิงหว่าน "..."
อีตานี่บ้าไปแล้วมั้ง
โจวฉือเซินพูดต่อ "3-4กิโลก็ได้นะ คุณกินเยอะๆ หน่อย"
หร่วนซิงหว่านหมดความอดทน "หุบปาก!"
รอยยิ้มปรากฏในดวงตาดำของโจวฉือเซิน "รออีกไม่กี่วันจะเป็นงานเลี้ยงครึ่งปีของตระกูลของตระกูลเจียง ถึงตอนนั้นผมจะพาคุณไปด้วย"
เมื่อได้ยิน หร่วนซิงหว่านย่นคิ้ว "แต่ว่าเป็นงานเลี้ยงของตระกูล พวกเราจะเข้าไปได้มั้ย"
"ไม่ลองจะรู้ได้ไง" โจวฉือเซินตอบอย่างเรียบเฉย "ถึงขั้นต้องไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 20ปีก่อน ไม่เข้าไปภายในตระกูลเจียง และจะตรวจสอบออกมาได้ยังไง"
หร่วนซิงหว่านพูด "งั้นคุณจะไม่กลับหนานเฉิงแล้วใช่มั้ย"
"พวกคุณต่างอยู่ที่นี่ ผมจะกลับไปทำอะไรล่ะ"
ยิ่งไปกว่านั้น คนเหล่านั้นถึงขึ้นพยายามมากมายขนาดนี้ จงใจชักจูงเขามาที่นี่ เขาก็อยากจะดูสิว่า ตกลงว่าที่นี่มันมีอะไรดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...