หลังจากน้าฉินไปแล้ว สวี่เยว่ก็พูดเบาๆ กับหร่วนซิงหว่าน:"พวกหนูทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ?
"..."
ชัดเจนมากเหรอ?
หร่วนซิงหว่านกระตุกที่มุมปากและไม่สามารถบอกสาเหตุของการทะเลาะได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงโกหกหน้าตาย:"ก็ไม่นะคะ สงสัยเขาจะอารมณ์ไม่ดี"
สวี่เยว่ถอนหายใจและพูดอย่างชัดเจน:"เด็กคนนี้ เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็ก ชอบทำหน้ามุ่ย"
หร่วนซิงหว่านพูดเบาๆ แน่ล่ะ
สวี่เยว่พูดขึ้นอีก:"เอาล่ะ ไม่สนใจเขา กินข้าวเถอะ"
ผ่านไปครู่หนึ่ง โจวฉือเซินเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมา ยังคงดูเย็นชา เหมือนมีคนติดค้างเงินเขา และเขาก็ยังคงมีสีหน้าแย่
ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกของน้าสวี่มาก่อน แต่ตอนนี้เธอรู้แล้ว หร่วนซิงหว่านอดจะรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่ได้ที่จะกินข้าวกับพวกเขา นอกจากนี้เธอยังยอมรับไปโดยปริยายว่าตัวเองเป็นคนนอกและไม่อาจจะเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวระหว่างพวกเขา
แต่ระหว่างกินข้าวหร่วนซิงหว่านได้ตรวจสอบอย่างละเอียด เป็นไปได้ว่าเพราะเป็นเรื่องของบุคลิก น้าสวี่กับโจวฉือเซินั้นดูเป็นธรรมชาติต่อกัน ไม่ได้แสดงความห่วงใยมากมาย แต่ก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนคนแปลกหน้าเหมือนก่อนหน้านี้
เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ในความทรงจำของหร่วนซิงหว่าน ความคิดในเรื่องของแม่นั้นเลือนรางมากแล้ว เธอไม่เพียงแต่จะลืมไปแล้วว่าเธอหน้าตายังไง เธอยังลืมรายละเอียดในการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันไปหมดแล้ว
ถ้าหากมีสักวันที่หร่วนจุนบอกเธอว่าเธอเกิดออกมาจากก้อนหิน แล้วเขาเผอิญผ่านไปแล้วเก็บเธอกลับบ้าน เธอเองก็คงจะเชื่อ
เมื่อคิดถึงหร่วนจุน หร่วนซิงหว่านก็ใจลอย
คืนนั้นผ่านไป เธอจงใจไม่ปล่อยให้ตัวเองนึกถึงคนคนนี้ แต่กลับมองว่าเขาตายไปแล้ว ตอนนี้เขาคงจะกอดเงินและหนีไปไกลและเสวยสุขแล้ว
พูดได้ว่าเธอหวังว่าชีวิตนี้คงจะไม่ได้ข่าวคราวของเขาอีก
เมื่อกินข้าวเสร็จ สวี่เยว่เข้าไปล้างจานในครัว หร่วนซิงหว่านกำลังคิดจะขึ้นไปพักผ่อนข้างบน ก็ถูกโจวฉือเซินดึงข้อมือไว้:"จะไปไหน"
"นอนสิคะ ไม่อย่างนั้นจะให้ไปดื่มเหรอ"
เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ:"เธอเป็นหมูรึไง นอนทั้งวันแล้วยังนอนต่อได้อีก"
หร่วนซิงหว่านมองเขานิ่งๆ:"ประธานโจวมีอะไรจะสั่งไหมคะ?"
โจวฉือเซินลุกขึ้นแล้วพูดอย่างเรียบเฉย:"ออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉัน"
"หลายวันมานี้ฉันออกไปเดินเป็นเพื่อนคุณบนถนนเส้นนี้ไม่รู้กี่รอบแล้ว ประธานโจวไปเดินให้สบายเถอะค่ะ ฉันไม่..."
"เดินไม่เดิน?"
หร่วนซิงหว่าน:"..."
ตาบ้านี่น่าเกลียดจริงๆ เลย นอกจากคุกคามคนอื่นแล้วทำอะไรเป็นอีกบ้าง!
เธอเดินออกไปด้วยความโกรธ:"ไปๆๆ!"
โจวฉือเซินยกมุมปากแล้วเดินตามเธอออกจากประตูไป
ลูกบ้านต่างก็กลับมากันมาหมดแล้วและท้องถนนก็เต็มไปด้วยครึกครื้น มีแม้กระทั่งป้าที่เดินผ่านมาซึ่งทักทายหร่วนซิงหว่านเป็นครั้งคราว แต่เมื่อเห็นชายที่อยู่ข้างหลังเธอ สีหน้าของทุกคนก็ประหลาดใจ และดวงตาของเขากวาดไปมามองดูพวกเขาทั้งสองคน และต่างแสดงท่าทางสนใจ
ผ่านไปไม่นาน หร่วนซิงหว่านก็อดไม่ได้ที่จะหาที่ที่หลบ
ครั้งนี้ซวยแล้ว ตานี่ดันพูดเรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว ส่วนเธอก็ท้อง ไม่แน่ว่าจะมีข่าวลืออะไรออกมาอี
แต่โจวฉือเซินผู้ซึ่งถือว่าสิ่งเหล่านี้สำคัญที่สุดมาโดยตลอด ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สังเกตอะไรเลย สีหน้าของเขาเรียบเฉย เดินตามและรักษาระยะห่างจากเธอครึ่งเมตร
หร่วนซิงหว่านเร่งฝีเท้าของเธอ และหลังจากเดินไปตามถนนทั้งสายอย่างไม่เต็มใจ เธอพูด:"ประธานโจวเดินเล่นต่อเถอะค่ะ ฉันอยากจะกลับแล้วจริงๆ"
ครั้งนี้ โจวฉือเซินกลับไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ส่งเสียง อือ เบาๆ
ตาบ้านั่นมีคุณธรรมยังไง คิดจะโกรธก็โกรธ
เธอก็แค่ถามดูเท่านั้น ยังไม่ได้บอกว่าจะย้ายออกไปจริงๆ เสียหน่อย นี่ไปๆ มาๆ คนที่ต้องทุกข์ทรมานคือเธอเสียเอง
หร่วนซิงหว่านนั่งอยู่ตรงนั้นสิบนาที ถึงแม้จะเบื่อ แต่เดินไปรอบๆ และรู้สึกกระฉับกระเฉงกว่าก่อนหน้านี้มาก
เธอถอนหายใจและลุกขึ้นคิดว่าจะกลับไปนั้น หร่วนซิงหว่านก็เกิดอาการน้อยใจเสียดื้อๆ ลมพัดมาน้ำตาก็รื้น จนน้ำตาไหลไม่ทันตั้งตัว
โจวฉือเซิน:"..."
เขาเดินเข้าไปตรงหน้าเธอ:"เธอยังมีเหตุผลอะไรอีก?"
ถึงแม้คำพูดจะยังไม่น่าฟังเหมือนเดิม แต่น้ำเสียงนุ่มนวลกว่าก่อนหน้านั้นมาก
หร่วนซิงหว่านหันหน้าหนีแล้วเช็ดน้ำตา:"ใครจะมีเหตุผลมากไปกว่าคุณได้ ทั้งโลกนี้มีแต่คุณแหละมีเหตุผลที่สุดแล้ว คุณพูดอะไรก็ถูก คนอื่นพูดอะไรก็ผิดหมด มีแผนการทั้งหมด มีแผนแอบแฝงหมด"
"ฉันพูดคำเดียว เธอพูดเสียยืดยาว ใครกันแน่ที่เก่ง"
"งั้นคุณก็อย่าพูดกับฉันสิ"
โจวฉือเซินยิ้ม ไม่รู้ว่ารู้สึกว่าเธอเหมือนเด็กไร้เดียงสาหรือรู้สึกว่านี่เป็นการทะเลาะกันเหมือนเด็กๆ ไม่มีความหมายอะไรเลยกันแน่
หร่วนซิงหว่านยิ่งพูดยิ่งน้อยใจ น้ำตาเธอไหลไม่ยอมหยุด ทำยังไงก็ไม่สามารถควบคุมได้
ในตอนที่เธอคิดว่าจะไปสนใจผู้ชายสารเลวคนนี้และจากไปนั้น จู่ๆ เขากลับคว้าข้อมือเธอแล้วดึงไปข้างหน้า ตบหลังเธอด้วยฝ่ามือของเขา:"ได้ ถือว่าเป็นความผิดฉันเอง ไม่ต้องร้องไห้แล้ว"
หร่วนซิงหว่านอยู่ในอ้อมกอดเขาและนิ่งไป แล้วพูดขึ้นอย่างไม่ยอม:"ถือว่า?"
โจวฉือเซิน:"อย่าให้มันมากไปนะ"
"อ้อ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...