สามีพันล้าน รักฉันให้มีสติหน่อย นิยาย บท 133

เย่หลิง——ดูสิ เป็นคำพูดของคนคนนี้เหรอ

เซี่ยซีหวั่นยังคงนิ่งเงียบ เธอรู้แค่ว่าที่เธอพูดเป็นความจริง

เย่หลิง——หวั่นหวั่น ตอนเธออายุ15ก็ได้รับคำเชิญจากอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเซิ่งหลีเชิญไปเรียนด้วยตัวเองถูกมั้ย

ส่วนเซี่ยเหยียนเหยียนเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเซิ่งหลีได้ด้วยการใช้เส้นสายของคุณลู่ เธอนี่มันน่ารังเกียจจริงๆมักจะชอบไม่ชวนเซี่ยเหยียนเหยียนไปเที่ยวเล่น ครั้งนี้เซี่ยเหยียนเหยียนถูกเธอทำจนโกรธแทบตายแล้ว

เซี่ยซีหวั่นคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง——เธอมักจะเดินทางที่ฉันเคยเดินมาแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็มักจะเล่นของเล่นที่ฉันเหลือเอาไว้ แบบนี้จะทำยังไงได้

เย่หลิง——ไม่คุยกับเธอแล้ว โลกของคนเรียนเก่งมักจะทำให้คนอื่นอิจฉา

เซี่ยซีหวั่นยิ้มพลางเก็บโทรศัพท์มือถือ เวลานี้เองซวงซวงก็วิ่งมา “หวั่นหวั่น แย่แล้ว

เซี่ยเหยียนเหยียนคนนั้น…เซี่ยเหยียนเหยียนเขา…”

“ซวงซวง เธอพูดช้าๆหน่อย เห็นเธอวิ่งกระหืดกระหอบมาหายใจไม่ทัน” เซี่ยซีหวั่นตบหลังซวงซวงเบาๆ

“หวั่นหวั่น ทำไมเธอไม่รีบร้อนเลยสักนิดนะ เรื่องในโลกโซเชียลไม่ต้องพูดถึง

ตอนนี้เซี่ยเหยียนเหยียน…เขาพาศาสตราจารย์เฉียนของมหาวิทยาลัยเซิ่งหลีมาที่สถาบันวิจัยซูมี่แล้ว ผู้อำนวยการโจว

กำลังให้การต้อนรับเธออยู่!”ซวงซวงร้อนใจมาก

เซี่ยเหยียนเหยียนพาศาสตราจารย์เฉียนอาจารย์ที่ปรึกษาของตนมาที่สถาบันวิจัยซูมี่แล้วเหรอ

เซี่ยซีหวั่นเทน้ำหนึ่งแก้วส่งให้ซวงซวง“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ดื่มน้ำก่อนเถอะ”

ซวงซวง “…”

เวลานี้เองจ้าวลี่ยิงก็เดินมา เขากวาดสายตามอง มองมาที่เซี่ยซีหวั่นด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นสนใจ “เซี่ยซีหวั่น ศาสตราจารย์เฉียนมาที่สถาบันวิจัยซูมี่ของพวกเราแล้ว ตอนนี้ศาสตราจารย์เฉียนอยากจะพบเธอผู้อำนวยการโจวให้เธอไปที่ห้องทำงานอีกแล้ว”

แย่แล้วแย่แล้ว ซวงซวงรั้งแขนเสื้อเซี่ยซีหวั่นไว้“หวั่นหวั่น ศาสตราจารย์เฉียนคนนั้นชอบเซี่ยเหยียนเหยียนลูกศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจของตนเอง อีกเดี๋ยวเธอต้องดูหมิ่นเหยียดหยามเธอทวงความยุติธรรมให้เซี่ยเหยียนเหยียน”

เซี่ยซีหวั่นกะพริบขนตาที่งอนยาว “ซวงซวง ไม่ต้องกลัว ฉันไปหาพวกเขาแปบเดียว”

“หวั่นหวั่น ฉันไปกับเธอด้วย!” ซวงซวงไม่ไว้ใจ รีบตามไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองคนไปแล้ว ลู่จื่อเซี่ยนที่เดิมนอนหมอบอยู่บนโต๊ะก็ค่อยๆลืมตาสองข้าง เขาลุกขึ้นมานั่ง

เวลานี้เองเสี่ยวอู่ลูกน้องเขาก็เดินเข้ามา “คุณชายรอง คุณตื่นแล้วเหรอครับ”

ลู่จื่อเซี่ยนหยิบหนังสือทางการแพทย์มาหนึ่งเล่ม พลิกเปิดอย่างเกียจคร้าน เขาเอ่ยว่า “คุณป้าจะมาแล้วใช่มั้ย”

เสี่ยวอู่เอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “คุณป้าเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเซิ่งหลีของประเทศF งานยุ่งมาก แต่ผมได้ยินคุณนายพูดในโทรศัพท์ว่า

สองวันนี้คุณป้าจะบินมาที่เมืองไห่หนึ่งเพื่อมาเยี่ยมคุณท่านที่รีสอร์ทโยวหลาน

สองมาเพื่อ…เพื่อเรื่องงานแต่งงานของคุณครับ ที่ผ่านหาตัวคู่หมั้นของคุณชายรองไม่พบ ดูเหมือนคุณป้า…จะแนะนำสาวน้อยที่มีความสามารถคนหนึ่งให้คุณรู้จัก ให้คุณ…ไปนัดบอด”

พอเขาพูดจบ ลู่จื่อเซี่ยนก็ปิดหนังสือทางการแพทย์ในมือทันที ปิดหนังสือดัง“พึ่บ” โยนลงบนโต๊ะ

เสี่ยวอู่ตกใจจนไม่กล้าส่งเสียงออกมา

……

เซี่ยซีหวั่นและซวงซวงเดินมาที่ห้องทำงานของโจวผิง โจงผิงกำลังต้อนรับศาสตราจารย์เฉียนอย่างอบอุ่น

วันนี้เซี่ยเหยียนเหยียนสวมชุดกระโปรงสีชมพู แต่งหน้าโทนสีนู้ดสวยงาม ยืนอยู่ข้างๆศาสตราจารย์เฉียนด้วยท่าทางเรียบร้อยอ่อนโยน

บรรยากาศด้านในไม่เลวเลยทีเดียว

เซี่ยซีหวั่น เสียงเคาะประตูดัง“ก๊อกๆ” จากนั้นก็เดินเข้าไปอย่างองอาจ “ผู้อำนวยการโจวคุณต้องการพบฉันเหรอคะ”

เพราะการมาของเธอ เดิมทีบรรยากาศที่สมานสามัคคี ในห้องทำงานก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วศาสตราจารย์เฉียน

เวลานี้เซี่ยเหยียนเหยียนก็ยิ้มพลางเอ่ยว่า “อาจารย์คะ หวั่นหวั่นเธอเรียนจบแค่มัธยมปลายเท่านั้นเอง ไม่ได้วุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรอะไร ก็เลยไม่ได้มีอาจารย์ค่ะ…”

ความจริงในโลกของการศึกษาทางการแพทย์ ให้ความสำคัญกับอาจารย์มาก อาจารย์ที่เป็นที่เคารพยกย่องก็จะเป็นที่เชิดหน้าชูตาให้ตนเอง เหมือนกับเซี่ยเหยียนเหยียนที่มีศาสตราจารย์เฉียนเป็นอาจารย์ พอศาสตราจารย์เฉียนมา เธอก็ส่งแสงเปล่งประกายเลย

“อะไรนะ” ศาสตราจารย์เฉียนขมวดคิ้ว มองไปที่โจวผิงอย่างรวดเร็ว “ผู้อำนวยการโจว เซี่ยซีหวั่นจบแค่มัธยมปลาย

วุฒิการศึกษาแบบนี้พวกคุณก็รับเข้ามาได้เหรอ ซูมี่ของพวกคุณนี่มาตรฐานต่ำขนาดนี้เลยเหรอ”

โจวผิงกับศาสตราจารย์เฉียนก็เหมือนกัน ต่างก็ให้ความสำคัญกับประวัติการศึกษาแล้วก็ประสบการณ์ทางการแพทย์

แต่เซี่ยซีหวั่นไม่มีอะไรสักอย่าง เบื้องหลังคลุมเครือ

โจวผิงยิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อย เธอก็บอกไม่ได้ว่าเซี่ยซีหวั่นเป็นคนที่อธิการบดีของพวกเรายกขึ้นหิ้งไว้ อีกทั้งอธิการบดียังประจบเอาใจเธอมาก แล้วก็เสนอตัวเป็นอาจารย์ของเซี่ยซีหวั่นด้วย!

“ศาสตราจารย์เฉียน ดื่มชาหน่อยนะคะ” โจวผิงเบี่ยงเบนประเด็น

ศาสตราจารย์เฉียนกลับไม่พอใจอย่างมาก “เซี่ยซีหวั่น ผู้หญิงคนหนึ่งต้องระวังกิริยามารยาทของตัวเอง การศึกษาและการฝึกอบรมไม่ใช่มัวแต่ทำเรื่องเลวร้ายทั้งวัน เหยียนเหยียนเป็นลูกศิษย์ที่ฉันภูมิใจ เธอเก่งด้านการแพทย์มาก ฉลาดหลักแหลม ตลอดชีวิตนี้เธออาจจะไม่สามารถก้าวมายังจุดที่สูงสุดอย่างเหยียนเหยียนได้ แต่เธอจะยอมแพ้และทำลายตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองตกต่ำแบบนี้ไม่ได้"

ศาสตราจารย์เฉียนเป็นคนที่มีการศึกษา เวลาที่ดุด่าคนก็จะด่าแบบมีการศึกษา คำสบประมาทดูถูกที่เธอพูดกับเซี่ยซีหวั่นไปอยู่บนหน้ากระดาษแล้ว

เซี่ยเหยียนเหยียนสะใจมาก สองสามวันก่อนหน้านี้ใบหน้าเธอยังอิดโรยเหมือนคนป่วย วันนี้สีหน้าสดชื่นแล้ว เธอยืนอยู่ข้างๆศาสตราจารย์เฉียนอย่างหยิ่งทระนง มองดูเซี่ยซีหวั่นอย่างสะใจ

ต่อให้เซี่ยซีหวั่นจะเก่งมากแค่ไหนแล้วยังไง ก็แค่คนไม่มีการศึกษาคนหนึ่ง คนไม่มีความรู้ทางการแพทย์จะสู้กับเธอผู้มีพรสวรรค์ทางการแพทย์ได้อย่างไร

รอจนเธอทำลายชื่อเสียงเซี่ยซีหวั่นจนป่นปี้แล้ว ถึงตอนนั้นลู่หานถิงก็จะรังเกียจเธอ ขอหย่ากับเธอ!

เซี่ยซีหวั่นรินน้ำชาให้ศาสตราจารย์เฉียน จากนั้นก็ยิ้มพลางเอ่ยอย่างไม่หวั่นเกรงว่า “ศาสตราจารย์เฉียน ฉันได้รับการสั่งสอนแล้ว ต่อไปจะพยายามค่ะ”

ศาสตราจารย์เฉียนกับเซี่ยเหยียนเหยียนต่างก็รู้สึกว่าหมัดตนชกไปที่นุ่น เซี่ยซีหวั่นคนนี้ไม่ว่าไม้อ่อนไม่แข็งก็ใช่ไม่ได้ เจ้าเล่ห์มาก

“ผู้อำนวยการโจว วันนี้ฉันมาที่นี่เพราะอยากจะขอยืมปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตรสักหน่อย ฉันได้ยินว่าปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตรอยู่ในห้องสมุดของพวกคุณ อย่างนั้นให้เซี่ยซีหวั่นไปเอามาให้ฉันตอนนี้เลยได้มั้ย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีพันล้าน รักฉันให้มีสติหน่อย