บทที่ 55 ให้เข็มขัดเป็นของขวัญ
หยวนหยวนน้อยถูกโยนลงบนพรม ...
เหมียว เหมียว เหมียว~
ฉันเป็นแมวนะ ไม่ใช่สุนัข ทำไมต้องยัดอาหารสุนัขของฉันเนี่ย (หมายถึง แสดงความรักในที่สาธารณะ)
ในเวลานั้น คุณนายหญิงก็ออกมาจากห้องครัวเช่นกัน "หานถิง หวั่นหวั่นอาหารเย็นพร้อมแล้ว ...อ๊าย หานถิงทำอะไร บัดสีบัดเถลิง รีบวางหวั่นหวั่นลงมาเดี๋ยวนี้"
คุณนายหญิงกำลังจะไล่ตามไป แตลู่หานถิงรีบอุ้มเซี่ยซีหวั่นเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว และปิดประตูห้องพร้อม
คุณนายหญิง
……
ในห้องนอน
เซี่ยซีหวั่นไม่ได้คาดคิดเลยว่าเขาจะอุ้มตัวเองอีกครั้ง เธอแค่อยากซ่อนตัวและทำให้เขาตกใจเองนะ จะรู้ปฏิกิริยาของเขาได้อย่างไรว่าเป็นอย่างนี้
เธอน้ำหนักตั้งเก้าสิบจิน(45กิโลกรัม) เขานึกอยากจะอุ้มท่าเจ้าสาวก็อุ้มเหรอ กำลังกายดีเกินไปแล้ว
เธอยังคงได้ยินเสียงร้องอย่างโกรธเกรี้ยวของคุณย่า เขาช่าง..ไร้ยางอายจริงๆ
“คุณลู่ คุณปล่อยฉันก่อน ฉันมีอะไรจะบอกคุณ” เซี่ยซีหวั่นกล่าวอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของลู่หานถิงเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน "คุณนายลู่ ตอนนี้ผมไม่อยากฟังคุณ เว้นแต่คุณจะบอกว่าช่วงนี้คุณคิดถึงผม"
"...คุณลู่ คุณปล่อยฉันก่อน ฉันซื้อของขวัญให้คุณแล้วนะ”
ลู่หานถิงเลิกคิ้วของตน และรู้สักพม่าสนใจเล็กน้อย “จริงเหรอ”
“ใช่ ฉันจะให้คุณเดี๋ยวนี้เลย”
เซี่ยซีหวั่นกระโดดออกจากอ้อมแขนของเขา แล้วไปเอาของขวัญ
...
แผ่นหลังของลู่หานถิงพิงกับแผงประตูอย่างเฉื่อยชา เขาเพิ่งถอดเสื้อสูทออก ชุดที่เขาสวมอยู่จึงเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับเสื้อกั๊กสำหรับนักธุรกิจ แผงอกที่สวยงามของชายชาตรีกับไหล่ที่แข็งแรงทำให้เกิดส่วนโค้งที่ดูเซ็กซี่ เอาและช่วงล่างก็แน่น กับขาที่ใหญ่ยาว แม้จะยืนเฉยๆไม่ขยับก็เปรียบได้กับนายแบบต่างประเทศที่เดินบนเวที
การจ้องมองของลู่หานถิงตามร่างที่เรียวยาวของเซี่ยซีหวั่น เธอสวมชุดเดรสลูกไม้สีขาวตัวเล็กๆ ผมพลิ้วๆ ผมข้างแก้มของเธอก็ถูกทัดไปอยู่หลังใบหูของเธอ ร่างกายที่บอบบางและอ้อนแอ้นของเธอดูมีเสน่ห์ยั่วยวน
ลูกกระเดือกของลู่หานถิงคลึงขึ้นลง เขาก็ยื่นมือออกไปเพื่อดึงเน็คไทระหว่างคอของเขา
เมื่อเซี่ยซีหวั่นมองย้อนกลับไปก็เจอกับสายตาเขา เขาพิงติดอยู่กับประตูอย่างเกียจคร้าน สายตาของเขาจ้องมองเธอ มองจากบนลงล่าง เหมือนกำลังพินิจพิจารณา
มือข้างหนึ่งยังคงอยู่ในกระเป๋ากางเกง แต่เน็คไทกลับเบี้ยวไปอีกข้าง ราวกับ...ความอ่อนโยนจอมปลอม (ภายนอกดูอ่อนโยนแต่ภายในรอตะคลุบเยื่อ)
เซี่ยซีหวั่นเปิดกล่องที่ดูสวยหรู แล้วยื่นเข็มขัดที่เธอเลือกให้เขา "อะ คุณลู่ ฉันให้คุณ"
ลู่หานถิงเหลือบมองไปที่มัน เข็มขัดสีดำ หัวเข็มขัดโลหะเย็นนั้น ดูเรียบง่ายแต่ประณีต เป็นสไตล์ที่เขาใส่ประจำ
ลู่หานถิงเอื้อมมือไปหยิบมัน
เซี่ยซีหวั่นอยากดึงมือกลับ แต่ท่าทางของลู่หานถิงรวดเร็วกว่ามาก เธอก็ตกลงไปในอ้อมแขนของเขาทันที
“คุณลู่ คุณจะทำอะไร” เซี่ยซีหวั่นรีบยืนอย่างมั่นคง
ตอนนี้ลู่หานถิงจับมือเล็กทั้งสองข้างของเธอไว้แล้ว แล้ววางมือของเธอไว้ที่เข็มขัดรอบเอวของเขา “แกะออกสิ ผมจะใส่ของขวัญที่คุณให้ตอนนี้เลย”
คนนี้เผด็จการจนชินแล้ว ชอบของขวัญที่เธอให้ก็ไม่พูดตรงๆ แล้วยังมาสั่งให้เธอทำบางสิ่งที่ทำให้หน้าแดงและหัวใจเต้นแรงอีก
เซี่ยซีหวั่นรู้สึกอ่อนหวานในใจ จึงช่วยเขาแกะเข็มขัดอย่างเชื่อฟัง
ในเวลานี้ก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่ลึกล้ำและมีแรงดำดูดอยู่เหนือหัวของเธอ "ครั้งที่แล้วยังแกะเข็มขัดไม่ได้ แต่ครั้งนี้เปิดมันได้แล้วเหรอ เรื่องที่คุณไม่รู้ไม่เข้าใจ ต่อไปผมจะค่อยๆสอนคุณเอง"
“กลัวก็ปิดตาลง” เขากล่าว
ร่างเรียวยาวของเซี่ยซีหวั่นสั่น แล้วหลับตาลงอย่างรวดเร็ว
ลู่หานถิงยื่นมือออกมาและดึงม่านเตียงสีทองลงมา แล้วเอามือใหญ่โอบรอบเอวของเธอแล้วจับเธอพลิกตัว ให้เธอนั่งในอ้อมแขนของเขา
ลู่หานถิงวางแผ่นหลังของตนไว้กับหัวเตียง "แบบนี้ก็จะไม่กลัวแล้ว ถ้ากลัวก็สามารถลงไปจากตัวผมได้ทุกเมื่อ"
เซี่ยซีหวั่นอยากลงไปสะตอนนี้เลย
แต่ลู่หานถิงคว้าเธอไว้ แล้วเปลี่ยนเรื่อง "นี่คืออะไร"
เขาใช้สายตาชี้ไปที่ถุงเงินถุงนั้น
เซี่ยซีหวั่นรีบหยิบถุงเงินนั้นขึ้นมาวางไว้ในอุ้มมือ "นี่คือของที่คุณย่าไปขอพรที่วัดมาให้ฉัน โดยบอกว่ามันคือ...เครื่องรางนำโชค..."
ลู่หานถิงเหลือบมองไปที่คำว่า"ลู่"บนถุงเงินที่ปักด้วยด้ายสีทอง แล้วตอบเธอด้วยเสียงแหบแห้งว่า “อืม ของที่คุณย่าให้ ก็รักษาไว้ดีๆ”
“รับทราบค่ะ” เซี่ยซีหวั่นตอบอย่างเชื่อฟัง ของที่ย่าให้มา แม้จะเป็นเพียงเครื่องรางนำโชค เธอจะหวงแหนมันอย่างดี
เซี่ยซีหวั่นอยากจะวางถุงเงินของเธอ แต่ในเวลานี้สายตากลับมืดลง ลู่หานถิงจูบอย่างหนักหน่วงท่วมท้นของจึงตกลดลง
……
เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่หานถิงถูกปลุกด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือ มือเล็กๆก็สัมผัสเจอมือถือ เธอจึงกดรับสายแล้วพูดว่า "เฮโล" ในไม่ช้า เสียงที่หวานราวกับนกขมิ้นก็ถูกส่งผ่านมาอย่างช้าๆ "หวั่นหวั่น นี่ฉันเองนะ เหยียนเหยียน"
เซี่ยซีหวั่นลืมตาขึ้น แสงแดดยามเช้าที่สดใสสาดเข้ามาตามชั้นของม่านหน้าต่าง อบอุ่นไปทั้งห้อง
ความง่วงนอนในดวงตาของเธอหายไปอย่างปริบทิ้ง เซี่ยซีหวั่นก็ค่อยๆยกริมฝีปากสีแดงของเธอขึ้น "เซี่ยเหยียนเหยียน กลับมาแล้วเหรอ"
เซี่ยเหยียนเหยียนยิ้มอ่อนโยนเบาๆ "ใช่แล้ว หวั่นหวั่น ฉันกลับมาแล้ว พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วสิบปี ไม่เจอกันนานเลยนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีพันล้าน รักฉันให้มีสติหน่อย
นิยายที่เคยอ่านแล้วชอบหายไปหลายเรื่องเลยค่ะชอบอ่านซ้ำบางเรื่องอ่านจบแล้วก็มาเริ่มใหม่แต่ก็ไม่ต่อเนื่องค่ะ...