ทุกคนต่างพากันตกตะลึง และต่างมองไปที่เซี่ยซีหวั่นเหมือนกับมองคนบ้า แล้วก็หันไปมองลู่หานถิงที่เป็นเครื่องใช้บนเตียงที่เอาไว้ทำให้เตียงอุ่น
ลู่หานถิงยืนเอามือล้วงกระเป๋าข้างเดียวอยู่หน้าประตู แค่ตอนที่เห็นเซี่ยซีหวั่นเมาเขาก็รู้สึกไม่มีความสุขแล้ว ตอนนี้คิ้วของเขาก็ผูกกันจนเป็นปม และริมฝีปากบางๆ ก็เม้มเข้าหากัน
พวกคุณหนูแห่งเมืองไห่พวกนี้โกรธจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว เซี่ยซีหวั่นมีสิทธิอะไร เธอมีสิทธิอะไรกันที่จะมาทำให้คุณหานถิงต้องอับอาย?
ปีศาจอย่างเธอต้องรีบปล่อยมือจากคุณหานถิงได้แล้ว ให้พวกเราจัดการเอง!
พวกคุณหนูอดทนต่อความใจร้อนที่อยากจะฉีกเซี่ยซีหวั่นเป็นชิ้นๆ ดีมาก ตอนนี้เธอถูกเปิดโปงแล้ว ตอนนี้พวกเธอแค่ต้องเพิ่มความรุนแรงต่อไป “เซี่ยซีหวั่น พวกเราจำได้ว่าเธอแต่งงานแล้ว นี่เธอกำลังทำตัวออกนอกลู่นอกทางกับคุณหานถิงอยู่งั้นเหรอ เธอได้คิดเอาไว้ไหมว่าถ้าหย่าแล้วจะอยู่กับคุณหานถิงน่ะ?”
เซี่ยซีหวั่นรู้สึกเวียนหัวมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเกือบจะไม่ได้ยินแล้วว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร ก็เลยได้แต่พึมพำว่า “แบบนั้นมันยิ่งน่าเร้าใจไม่ใช่เหรอ? ถ้าเกิดว่าคุณหานถิงของพวกเธออยากจะ…เลื่อนขั้น ก็ต้องดูอารมณ์ฉันด้วยสิ!”
“…”
พอสิ้นเสียงของเธอ ประตูห้องVIPที่หรูหราก็ถูกเปิดออก และลู่หานถิงก็เดินเข้าไปอย่างมั่นคง
เซี่ยซีหวั่นได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา เอ้ะ เหมือนกับว่าเธอเห็น…ลู่หานถิง
เป็นไปได้ยังไง?
เซี่ยซีหวั่นกำมือแล้วก็ขยี้ตาสีเข้มของตัวเอง
และพวกคุณหนูพวกนั้นก็กระโดดโลดเต้นขึ้นมา “เซี่ยซีหวั่น ตอนนี้แกถูกกระชากหน้ากากออกมาแล้ว!”
“คุณหานถิง ยัยเซี่ยซีหวั่นคนนี้บอกว่า…บอกว่าคุณเป็นแมงดาที่เธอเลี้ยงดูเอาไว้ กล้าพูดมากเลยนะคะ!”
“คุณหานถิง เซี่ยซีหวั่นไม่ได้มีความคิดที่จะหย่าแล้วก็…พัฒนาความสัมพันธ์กับคุณด้วยซ้ำ ฉันว่าเธอก็แค่เล่นๆ ไปเพื่อความเร้าใจเท่านั้นเอง ละโมบเพราะความรุ่งเรืองและมั่งคั่งของคุณ”
เซี่ยเหยียนเหยียนที่อยู่ด้านนอกนั้นยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ไม่คิดเลยว่าเซี่ยซีหวั่นที่เมาแล้วจะเปิดโปงตัวเองจนหมดจดขนาดนี้ เธอเป็นผู้หญิงแต่งงานแล้วที่มาจากบ้านนอก แถมยังพูดจาหยาบคายและไร้ยางอายแบบนี้ แล้วลู่หานถิงจะทนเธอได้ยังไงกัน?
ดูเหมือนว่าการตัดสินใจที่ยั่วยุคุณหนูพวกนี้มาจัดการกับเซี่ยซีหวั่นนั้นเป็นการตัดสินใจที่ฉันฉลาดเหลือเกิน เซี่ยเหยียนเหยียนรอดูภาพเหตุการณ์ที่สนุกๆ ด้วยสายตาที่เป็นประกาย
คุณลู่มาที่นี่จริงๆ เหรอ?
เซี่ยซีหวั่นลุกขึ้นทันที และเดินเข้าไปหาลู่หานถิง“คุณลู่…”
แต่ว่าฝีเท้าของเธอนั้นเบาหวิว เดินไปได้ 2 ครั้งก็เซจนเกือบจะล้มลง
ลู่หานถิงยื่นมือออกไปและดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน พร้อมกับถามด้วยเสียงที่แผ่วเบาและน่าดึงดูด “เล่นพอหรือยัง?”
เซี่ยซีหวั่นยื่นมือไปกอดเอวที่แข็งแรงของเขา พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมอง “คุณลู่ พวกเธอบอกว่า…บอกว่า…ฉันยั่วยุคุณ แล้วก็ยังบอกอีกว่าฉันแสวงหาความร่ำรวยและมั่งคั่งของคุณ …”
เซี่ยเหยียนเหยียนที่อยู่ด้านนอกนั้นแข็งทื่อไปทันที เธอไม่เข้าใจท่าทางของลู่หานถิงในตอนนี้ เขาควรจะโกรธ แล้วก็เตะเซี่ยซีหวั่นไม่ใช่เหรอ?
ทำไมเขาถึงต้องกอดเซี่ยซีหวั่นด้วย แล้วเซี่ยซีหวั่นที่ควรจะเมาเหล้าอยู่ไปทำอะไรในอ้อมแขนที่แข็งแกร่งของชายคนนี้ ฟ้องอยู่เหรอ?
มีอะไรที่ใส่ร้ายเธองั้นเหรอ?
เธอเป็นคนพูดออกมาเองไม่ใช่หรือไง?
ลู่หานถิงมองดูท่าทางเหมือนสาวไร้เดียงสาหลังจากเมาของเซี่ยซีหวั่น เหมือนกับมีน้ำพุอยู่ในดวงตาที่ใสสะอาดของเธอ มีทั้งความบริสุทธิ์ ความทุกข์ และความน่าสงสาร แม้แต่เสียงของเธอก็ยังดูน่ารัก แตกต่างจากเธอคนเดิมที่ดูสวยสง่าและฉลาดหลักแหลม
ลู่หานถิงยกมือขึ้นลูบผมของเธอ “ต่อให้ยั่วยวนจริงก็น่าสนุกดีไม่ใช่เหรอ อำนาจและความร่ำรวยของผู้ชายก็มีเอาไว้ให้ผู้หญิงได้ดื่มด่ำทั้งนั้นแหละ”
เซี่ยเหยียนเหยียน “…”
ฝูงชน“…”
ตอนแรกพวกเธอคิดว่าเซี่ยซีหวั่นอวดดีแล้วนะ แต่ว่าลู่หานถิงยังอวดดีมากกว่าอีก
สองคนนี้ต่างคนต่างอวดดีเกินกัน อวดดีจนทำให้คนโมโห!
เซี่ยซีหวั่นยังรู้สึกไม่มีความสุข “แต่ว่า พวกเธอไม่มีใครเชื่อฉันเลย ไม่เชื่อว่า…คุณคือแมงดาที่ฉันเลี้ยงดูเอาไว้ ฉันอยาก…อยากตบหน้าพวกเธอจริงๆ …”
“อืม”ลู่หานถิงตอบรับ “อยากตบหน้าใครดีล่ะ ?”
เซี่ยซีหวั่นใช้สายตาชี้ไปที่พวกคุณหนูในห้อง VIP นั้น แล้วก็ชี้ไปที่เซี่ยเหยียนเหยียนที่ยืนหน้าประตู “ก็พวกเธอ!แล้วก็เธอด้วย!”
สายตาที่ลึกซึ้งของลู่หานถิงเหลือบมองไปที่ผู้หญิงพวกนั้น และสุดท้ายสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่บนใบหน้าของเซี่ยเหยียนเหยียน เขายกริมฝีปากพูดแล้วพูดว่า “เธอพูดว่าไงก็อย่างนั้นแหละ ฉันคือแมงดาที่เธอเลี้ยงเอาไว้”
ซี้ด!
คุณหนูพวกนั้นสูดหายใจเข้าทันที เริ่มสงสัยว่าตัวเองประสาทหลอนจนได้ยินเพี้ยนไปเองหรือเปล่า
โลกนี้มันเป็นอะไรไป?
ทำลายจินตนาการจนหมดสิ้น
เซี่ยเหยียนเหยียนที่ยืนอยู่ตรงประตูรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตทันที ใบหน้าของเธอซีดเซียว เธอมองดูแววตาที่เยือกเย็นของลู่หานถิง และสิ่งที่ก้องอยู่ในหูของเธอก็คือคำพูดของเขาเมื่อกี้นี้——ฉันคือแมงดาที่เธอเลี้ยงเอาไว้!
ลู่หานถิงเป็นใครกัน?
คนใหญ่คนโตที่โลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจตั้งแต่วัยรุ่น ชายลึกลับผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองไห่ที่สามารถสั่งฟ้าสั่งฝนได้
แต่ว่าเขากลับตามใจเซี่ยซีหวั่นขนาดนี้
และตอนนี้เซี่ยเหยียนเหยียนก็หันไปเห็นกู้เย่จิ่น เธอรีบถามออกมาว่า “เย่จิ่น เซี่ยซีหวั่นกับคุณหานถิงมันเป็นยังไงกันแน่ พวกเธอมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า?”
กู้เย่จิ่นยังไม่ทันจะพูดอะไร เย่หลิงก็เดินออกมาจากห้อง VIP แล้วเธอก็ได้เห็นกู้เย่จิ่นและเซี่ยเหยียนเหยียนที่ยืนอยู่ข้างนอกทันที
เย่หลิงเอ่ยทักทายก่อน “พี่”
กู้เย่จิ่นเหลือบมองเย่หลิงด้วยหางตา ดวงตาสีดำอันเยือกเย็นของเขาเหลือบมองเย่หลิงตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอแต่งตัวค่อนข้างบาง เขาเม้มปากด้วยความไม่พอใจแล้วพูดว่า “มานี่ เดี๋ยวฉันไปส่งบ้าน”
เย่หลิงเอาผมทัดหู แล้วก็พูดอย่างเกียจคร้านว่า “พี่ พี่ควรจดจ่ออยู่เป็นเพื่อนคนในใจพี่ดีกว่า คิดว่าการที่เซี่ยเหยียนเหยียนอยากจะแต่งงานกับคุณหานถิงน่าจะเป็นไปไม่ค่อยได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่จะได้เลื่อนขั้นของพี่ก็มาถึงแล้ว สู้ๆ นะ”
แล้วเย่หลิงก็หันหลังเดินออกไป
กู้เย่จิ่นขมวดคิ้วเข้าหากันทันที แล้วก็ได้ยินเซี่ยเหยียนเหยียนพูดออกมาอย่างหมดความอดทนว่า “เย่จิ่น นายยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยนะ”
กู้เย่จิ่นมองดูรูปร่างที่สวยงามของเย่หลิงที่เดินจากไปไกล ไม่ได้มองหน้าเซี่ยเหยียนเหยียนเลยแม้แต่นิดเดียว เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “มันเป็นเรื่องส่วนตัวของหานถิง เธอไปถามเขาเองสิ ฉันไม่สะดวกใจจะเปิดเผย”
“เย่จิ่น ตอนนี้นายพูดจากับฉันแบบนี้แล้วเหรอ ตอบแบบชุ่ยๆ แล้วก็ดูรำคาญ เพราะว่าเย่หลิงกลับมาแล้วหรือเปล่า?”
เซี่ยเหยียนเหยียนรับไม่ได้กับการที่ผู้ชายทั้งสองคนจะทำกับเธอแบบนี้ สายตาของผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้ต้องมองมาที่เธอเท่านั้น
ตอนนี้กู้เย่จิ่นหันหน้ามา แล้วก็มองมาที่เซี่ยเหยียนเหยียนด้วยดวงตาที่หล่อเหลา “เธอกับเซี่ยซีหวั่นจะเป็นยังไงกันฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ แต่อย่ามาสนใจคนที่ไม่ควรจะแตะต้อง”
เซี่ยเหยียนเหยียนใจเต้นทันที รู้จักกันมาตั้งหลายปี กู้เย่จิ่นเป็นคนที่คอยตามใจเธอมาโดยตลอด คนนอกต่างก็จะมองว่าเขาชอบเธอ
น้อยครั้งมากที่เขาจะพูดจาแรงๆ กับเธอ นอกจาก…มันจะเกี่ยวข้องกับเย่หลิง
เย่หลิงคือต่อมโมโหของเขา ใครก็แตะต้องไม่ได้เด็ดขาด
ตอนนี้โห้วซีจื๋อก็วิ่งออกมาจากห้อง VIP “เชี่ยแล้ว พี่เย่จิ่น เมื่อกี้ผมดูค็อกเทลที่เซี่ยซีหวั่นดื่มเข้าไปเมื่อกี้นี้ มันคือone-night-stand เหล้าใหม่ที่ผมพึ่งเอากลับมา ใครมันเอามาเสิร์ฟแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ พี่รองจะฟาดผมไหมเนี่ย?”
One-night-stand ถ้าจะแปลตามตัวก็คือความสัมพันธ์แบบคืนเดียว แต่ถ้าให้แปลแบบตรงๆ ก็คือเหล้าปลุกอารมณ์
เซี่ยเหยียนเหยียนหน้าถอดสีทันที เธอนึกไม่ถึงเลยว่าเหล้าที่ให้เซี่ยซีหวั่นดื่มเข้าไปนั้นเป็นเหล้าปลุกอารมณ์ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เธอกับลู่หานถิง…
กู้เย่จิ่นไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาหันหลังแล้วเดินออกไปทันที
“พี่เย่จิ่น พี่จะไปไหน?”
นี่ยังต้องถามอีกเหรอ กู้เย่จิ่นจะไปหาเย่หลิง
เซี่ยซีหวั่นดื่มone-night-standเข้า แล้วเย่หลิงได้ดื่มหรือเปล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีพันล้าน รักฉันให้มีสติหน่อย
นิยายที่เคยอ่านแล้วชอบหายไปหลายเรื่องเลยค่ะชอบอ่านซ้ำบางเรื่องอ่านจบแล้วก็มาเริ่มใหม่แต่ก็ไม่ต่อเนื่องค่ะ...