ตอนที่ 119 สาวใช้ตัวแสบ23
“เชินหลิน เรื่องน้องชายฉันซูหาวคุณรู้เรื่องไหมคะ? ครั้งที่แล้วเขาเผลอไปมีอะไรกับพยาบาลคนนึง ซึ่งก็ยินยอมพร้อมใจกันทั้งคู่ ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าเงิน หลังนอนกับเขาแล้วก็มาแบล็กเมล์เขา ขู่ซูหาวว่าต้องให้เงินเธอกี่ล้าถึงจะยอมคุณก็รู้ว่าพ่อฉันเป็นข้าราชการสุจริต ที่บ้านจะเอาเงินขนาดนั้นมาจากไหน พอบ้านฉันไม่ยอม ผู้หญิงคนนั้นก็ก่อกวนไปทั่ว ฟ้องร้องไปทั่ว ทำเอาบ้านฉันตอนนี้หาความสงบสุขไม่ได้เลยค่ะ”
ใบหน้าเชินหลินไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่ในใจกลับรู้สึกรังเกียจวิธีพูดเรื่องเท็จให้เป็นความจริงแบบนี้ที่สุด
จริงๆแล้วเขาเกลียดคนที่พูดปดที่สุด ถ้าเธอกล้าพูดความจริงกับเขา เรื่องที่เกิดขึ้นเขาอาจยังพอให้อภัยบ้าง ยิ่งเธอมาเป็นแบบนี้ เขายิ่งไม่อยากช่วยเธอ
“มีเรื่องแบบนี้ด้วย? ฉันไม่เห็นรู้”
“เชินหลิน เธอเป็นผู้ชายที่มีอำนาจมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา แถมยังเป็นคู่หมั้นฉัน เธอคงไม่ปล่อยให้ตระกูลส้งของฉันตกที่นั่งลำบากแล้วไม่ช่วยใช่ไหมคะ? ถ้าเป็นอย่างนั้น คนอื่นมองเข้ามาคงคิดว่าคุณไม่อยากช่วย หรืออาจจะคิดว่าคุณไม่มีความสามารถพอก็ได้นะ”
เห็นได้ชัดว่าเทคนิคการพูดของส้งหลิงหลิงไม่ได้ผลกับเขา เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย พูดอย่างช้าๆว่า “ถ้าเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายแล้ว ฉันเองก็ไม่มีปัญญาช่วย ไม่ใช่ว่าจะไม่ช่วยน ถ้าคนอื่นจะว่าผมไม่มีความสามารถพอ ก็คงช่วยไม่ได้ ผมว่า ถ้าอยากทำให้เรื่องนี้เงียบจริงๆ ยังไงก็ให้เงินเธอไปจะดีกว่า”
คำพูดไปงั้นๆของเขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากช่วย ซึ่งเป็นเหมือนที่ส้งหลิงหลิงคาดเดาไว้
การจัดการเรื่องของซูหาวในครั้งนี้จะต้องเป็นคำสั่งของเย่เชินหลินอย่างแน่นอน คงเป็นเพราะต้องการจัดการพวกเขาที่ต้องการกำจัดเซี่ยชีหรั่น แก้แค้นให้หล่อนแน่ๆ
“เชินหลิน…”
ส้งหลิงหลิงพูดได้คำเดียว ยังไม่ทันได้พูดประโยคที่สอง ก็ได้ยินเสียงด่ากันดังมาจากห้องโถง “นังสวะ ตัวสวะ!”
“ไปดูสิ!” เย่เชินหลินพูดเสียงเฉยชาพร้อมลุกขึ้น
ส้งหลิงหลิงเดินตามเขามาด้านหลัง คิ้วขมวดเข้าหากันเป็นเกลียว พอฟังเสียงก็รู้ได้ว่าเป็นเสียงฟางลี่น่าขี้โวยวาย หล่อนไม่รู้หรือยังไงว่าคืนนี้เย่เชินหลินมานอนห้องเธอ? ยังจะกล้ามาตะโกนเสียงดังโวยวายในห้องโถงอีก
ทั้งคู่เดินมาถึงห้องโถง เห็นฟางลี่น่ากำลังกระชากผมเซี่ยชีหรั่นพอดี หล่อนกำลังด่าเธอไปด้วยพร้อมยื่นมือไปทุบตีเธอ
ยามก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันรีบวิ่งมาดู นอกจากโม่เสี่ยวหนงที่ยังอยู่ที่ห้องรับแขกแล้ว ทุกคนในบ้านต่างก็มากันที่นี่หมด
พอได้ยินเสียงฝีเท้าของทุกคน ฟางลี่น่าจึงตกใจปล่อยมือจากเซี่ยชีหรั่นทันที
สภาพเธอดูย่ำแย่มาก ชุดนอนของเธอถูกฟางลี่น่าเหยียบอยู่ที่พื้น
เย่เชินหลินเม้มริมฝีปาก สายตาเผลอถูกใบหน้าเซี่ยชีหรั่นดึงดูดให้อยู่ในภวังค์ จู่ๆเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกได้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อก่อนหากต้องตกอยู่ในเหตุการณ์นี้เธอจะต้องตื่นตกใจ เพราะกลัวว่าจะพลาดโอกาสไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ต่อ แต่ตอนนี้เธอไม่กลัวแล้ว เย่เชินหลินเป็นนักธุรกิจที่ฉลาด ถ้าตอนนี้เขาไล่เธอออกไป เขาก็จะขาดทุน
ฟางลี่น่ารู้สึกแปลกใจนิดหน่อย เธอพูดจนฟังดูแย่ขนาดนั้น ทำไมเย่เชินหลินถึงไม่พูดอะไรสักคำ เซี่ยชีหรั่นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้นะ
“คุณชายคะ คุณ…คุณคิดว่าเซี่ยชีหรั่นควรถูกด่าไหมคะ?” เย่เชินหลินที่เงียบงันทำให้ฟางลี่น่าไม่กล้าพูดต่อแล้ว
ส้งหลิงหลิงกุมมือเซี่ยชีหรั่นขึ้นมา พูดกับเธออย่างนุ่มนวลว่า “น้องหรั่น พี่เชื่อใจน้องนะ น้องไม่มีทางพูดให้ร้ายพี่ลับหลังหรอก ใช่ไหมจ๊ะ?”
ฟางลี่น่ารีบอาศัยจังหวะชิงพูดด้วยน้ำเสียงรีบร้อน “พี่ส้งคะ ดูหล่อนกำลัมองพวกคุณสิคะ แถมไม่พูดอะไรสักคำ นี่ก็แปลว่ายอมรับเงียบๆแล้วค่ะ”
“น้องหรั่น สรุปน้องพูดแบบนั้นจริงๆเหรอ? น้องทำอย่างนั้นพี่เสียใจนะ” ส้งหลิงหลิงกุมมือเธอค่อนข้างแรง เธออยากชักมือเธอออก แต่กลับถูกบีบไว้แน่นขึ้นอีก
“พอแล้ว” เย่เชินหลินพูดออกมาสองคำ จากนั้นมองฟางลี่น่าด้วยเสียงเฉยชา “เธอบอกว่าหล่อนใส่ร้ายเธอว่าอยากขึ้นเตียงกับฉัน แล้วสรุปว่าเธออยากจริงหรือว่าไม่อยาก?”
“ฉัน…” จู่ๆฟางลี่น่าก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบว่ายังไงดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...